กรุงเทพฯ--24 ส.ค.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 24 สิงหาคม 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,152.60-1,165.11 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,550 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,450 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ15 อยู่ที่ 19,710 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 210 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,500 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 17.30 น.ของวันที่ 24/08/15)
แนวโน้มวันที่ 25 สิงหาคม 2558
ความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวนำโดยเศรษฐกิจของจีนได้สั่นคลอนตลาดหุ้นทั่วโลกและกดดันสินทรัพย์เสี่ยง เห็นได้จากรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 ร่วง 5.8% ส่วนดัชนี Nasdaq ดิ่งลง 6.8% ขณะที่ดัชนี MSCI สำหรับตลาดหุ้นเอเชีย-แปซิฟิกไม่รวมญี่ปุ่น ดิ่งลง 4.33% มาที่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี ในวันจันทร์นี้ ขณะที่ดัชนีนิกเกอิ ดิ่งลง 4.60% ตามตลาดหุ้นหุ้นจีนดิ่งลงมากขึ้น โดยตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ทรุดลงถึง 8.49% มาที่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน หลังจากที่ดิ่งลงกว่า 10% ในเดือนนี้ ตลาดหุ้นต่างๆถูกเทขายอย่างหนักของวันจันทร์นี้ ซึ่งทำให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยงเร็วขึ้นและหนุนราคาทองคำให้สามารถทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 7 สัปดาห์ หลังจากในสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำพุ่งขึ้นกว่า 4% ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นมากที่สุดตั้งแต่กลางเดือนมกราคม สอดล้องกับ แบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ (BAML) เปิดเผยว่า แรงขายหุ้นพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 สัปดาห์ที่ 8.3 หมื่นล้านดอลลาร์ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา BAML ระบุว่า ยังไม่ถึงเวลาที่จะกลับเข้าลงทุนในหุ้นตลาดเกิดใหม่และเสริมว่าแรงเทขายหุ้นอาจเพิ่มขึ้นอีก 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้า ความเห็นดังกล่าวสร้างแรงซื้อเข้ามายังตลาดทองคำและเพิ่มความน่าสนใจในการโยกเม็ดเงินลงทุนเข้ามาสู้ตลาดทองคำ เบื้องต้นราคาทองคำเมื่อมีการขยับขึ้นยังคงมีแรงขายทำกำไรออกมาบ้างแต่ไม่มากนัก ซึ่งหากราคาทองคำหากมีการเคลื่อนตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,170 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ยังไม่สามารถทะลุไปได้ ต้องระมัดระวังแรงกดดันซึ่งจะส่งผลให้เกิดการอ่อนตัวของราคาทองคำได้อีก สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในช่วงเวลานี้ต้องเน้นไปที่การเก็งกำไรระยะสั้นพร้อมทั้งมีจุดตัดขาดทุนให้ชัดเจน ในขณะที่หากต้องการเข้าซื้อทองคำให้รอจังหวะการอ่อนตัวลงมาบริเวณ 1,150-1,143 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่สำหรับนักลงทุนระยะยาวอาจรอดูการตั้งฐาน
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,170 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,150-1,143 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่ากลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง แต่หากยืนไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายที่ออกมาอาจทำให้ราคาย่อตัวลงสู่แนวรับถัดไป สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,150 หรือ 1,143 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคง ถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะสั้นอีกครั้ง แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,143 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,143 (19,330บาท) 1,132 (19,140บาท) 1,120 (18,940บาท)
แนวต้าน 1,170 (19,780บาท) 1,180 (19,960บาท) 1,190 (20,130บาท)
GOLD FUTURES (GFQ15)
แนวรับ 1,143 (19,500บาท) 1,132 (19,310บาท) 1,120 (19,110บาท)
แนวต้าน 1,170 (19,960บาท) 1,180 (20,130บาท) 1,190 (20,300บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148