ซัมซุงเผยโฉมผลิตภัณฑ์ใหม่ นำ Internet of Things สู่ชีวิตจริง ที่งาน IFA 2015

ข่าวเทคโนโลยี Tuesday September 8, 2015 15:23 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 ก.ย.--เวิรฟ ซัมซุงแสดงให้เห็นว่าซัมซุงกำลังทำให้วิสัยทัศน์ของตนเกี่ยวกับ โลกแห่งการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (Internet of Things – IoT) กลายเป็นความจริงขึ้นได้ ณ งานแถลงข่าวของซัมซุงที่ IFA 2015 เพื่อจัดแสดงอุปกรณ์ที่มีการเชื่อมต่อในตัว พร้อมทั้งบริการ IoT ใหม่ๆ มากมาย วิวัฒนาการใหม่ล่าสุดที่ซัมซุงสร้างให้กับระบบนิเวศ IoT ซึ่งกำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว มีรากหยั่งลึกจากหลักปรัชญาสำคัญทางด้าน IoT ทั้งความเปิดกว้าง ความร่วมมือข้ามอุตสาหกรรม และที่สำคัญที่สุดคือแนวทางที่มุ่งเน้นตอบสนองมนุษย์เป็นสำคัญ "สำหรับซัมซุงแล้ว IFA 2015 เป็นงานที่ว่าด้วย Internet of Things ล้วนๆ เพราะเรามั่นใจว่า IoT จะปฏิวัติโลกของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เพื่อผู้บริโภค และนี่คือโอกาสของเราที่จะทำให้คุณได้เห็นความคืบหน้าว่าเราก้าวหน้าไปไกลเพียงใดแล้วในช่วงเวลาเพียง 1 ปี" ดร. ดับบลิว.พี. ฮง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของซัมซุงกล่าว "ซัมซุงจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้ผู้บริโภคชาวยุโรปมากกว่า 300 ล้านชิ้นทุกปี และ ณ วันนี้มีชาวยุโรปถึง 85 ล้านคนที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของเราอยู่ ทั้งที่บ้าน และกำลังเพิ่มมากขึ้นในที่ทำงาน ไม่มีองค์กรอื่นใดอีกแล้วที่พร้อมให้คำมั่นได้ดีไปกว่าเราว่า สิ่งที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งล่าสุดนี้ ไม่ใช่เทคโนโลยี แต่เป็นความคาดหวังของผู้คน วิสัยทัศน์ของเราคือการทำให้ IoT มีความ "สอดคล้องกับชีวิต" (In Synch With Life) และเป็น IoT ที่ใช่ สำหรับคุณ" ระบบ Samsung SmartThings Hub พร้อมโซลูชั่น 'Smart Home Monitor' ซัมซุง สมาร์ทธิงส์ (Samsung SmartThings) ได้เปิดตัวสายผลิตภัณฑ์อุปกรณ์ IoT ใหม่ที่ทรงพลังและใช้งานง่ายยิ่งขึ้นกว่าเดิม และกำลังจะทำให้พวกมันแพร่หลายไปทั่วโลก อเล็กซ์ ฮอว์คินสัน ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ SmartThings กล่าวว่า "การที่Internet of Things จะประสบความสำเร็จได้นั้น อุปกรณ์ IoT จะต้องเป็นมิตรกับผู้ใช้อย่างถึงที่สุด และในขณะเดียวกันต้องทำให้ผู้บริโภคสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานตามความต้องการและให้ความสะดวกในการเข้าถึงเครื่องมือต่างๆ ที่ช่วยมอบความสบายใจไร้กังวลได้ในขณะที่พวกเขาอยู่นอกบ้าน ทั้งนี้ Samsung SmartThings Hubใหม่ รวมถึงเซ็นเซอร์และแอพมือถือเวอร์ชั่นอัพเดทใหม่ ได้เปิดตัวที่สหรัฐอเมริกาแล้วในวันนี้ และจะตามด้วยการเปิดตัวในสหราชอาณาจักรในสัปดาห์หน้า และเปิดตัวทั่วยุโรปในปี 2559 Samsung SmartThings Hub ใหม่ ช่วยให้สามารถเฝ้าติดตามดูความเรียบร้อยผ่านวีดีโอได้ และยังมีแบตเตอรี่สำรองพลังงานไว้ใช้งานได้ยาวนานถึง 10 ชั่วโมงในกรณีที่ไฟฟ้าดับ พร้อมทั้งให้ความพอเหมาะพอดีระหว่างการรักษาความเป็นส่วนตัวและการรักษาความปลอดภัย โดยความสามารถด้านวีดีโอตรวจตราความเรียบร้อยจะให้ผู้ใช้เข้าถึงภาพแบบสดๆ ผ่าน Livestream เมื่อใดก็ได้ตามต้องการ แต่จะบันทึกวีดีโอไว้เฉพาะเมื่อตรวจพบความผิดปกติ นอกจากนี้ SmartThings ยังเปิดตัวโซลูชั่น Smart Home Monitor ใหม่ ซึ่งผสานการเข้าถึงและการควบคุมด้านต่างๆ ไว้เป็น หนึ่งเดียวกัน ทั้งในสถานการณ์ที่พบการบุกรุก เกิดควันไฟหรือไฟไหม้ มีน้ำรั่วหรือน้ำท่วม และปัญหาอื่นทั่วๆ ไปที่อาจเกิดได้ที่บ้าน โดยส่งการแจ้งเตือนผ่านแอพ SmartThings ในแบบเรียลไทม์พร้อมด้วยคลิปวีดีโอจากกล้องหลายๆ ตัว ความเป็นอยู่ที่ดีเฉพาะบุคคล กับ Samsung SleepSense ซัมซุง สลีพเซนส์ (Samsung SleepSense) ช่วยให้ผู้บริโภคได้เข้าใจและจัดการเรื่องการนอนหลับของตนได้ดียิ่งขึ้น เซ็นเซอร์ซึ่งเป็นแผ่นดิสค์แบนๆ เพียงแค่วางไว้ใต้ส่วนที่เป็นเบาะของเตียง เซ็นเซอร์จะคอยเก็บข้อมูลอัตราการเต้นของหัวใจและการหายใจ รวมถึงการเคลื่อนไหวของผู้ใช้ในขณะนอนหลับได้โดยไม่มีการสัมผัสตัวผู้ใช้SleepSense เป็นอุปกรณ์ที่มีการเชื่อมต่อในตัวซึ่งจะคอยช่วยสร้างสภาวะแวดล้อมที่ดีที่สุดเพื่อให้นอนหลับได้ง่ายและต่อเนื่อง อุปกรณ์จะเชื่อมต่อกับดีไวซ์ของซัมซุง รวมถึงอุปกรณ์ IoT ของผู้ผลิตรายอื่นๆ เช่น เมื่อผู้ใช้เริ่มผล็อยหลับ แอพพลิเคชั่นจะปิดโทรทัศน์และปรับระบบทำความร้อนหรือระบบปรับอากาศโดยอัตโนมัติเพื่อสร้างสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสมกับการนอนหลับมากที่สุด พร้อมยังให้คำแนะนำและข้อเสนอแนะต่างๆ โดยอ้างอิงข้อมูลจากคะแนนและรายงานสภาวะการนอนหลับในแต่ละวันของ SleepSense โยผู้ใช้สามารถเรียกดูได้จากสมาร์ทโฟนของตน นอกจากนี้ยังคำนึงถึงอัตราการเผาผลาญพลังงานของแต่ละบุคคล โดยข้อมูลเหล่านี้เป็นผลพวงของความร่วมมือกับ ดร. คริสตอส แมนท์โซรอส จากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard Medical School) ทั้งนี้SleepSense ให้ความแม่นยำสูงถึง 97% ในสภาวะที่คุณใช้ชีวิตตามปกติในบ้านของตนเอง ยกระดับประสบการณ์ในการรับชม เพื่อสร้างประสบการณ์ในการรับชมที่ดีเยี่ยมที่สุดให้กับผู้ใช้ซัมซุง เอส ยูเอชดี ทีวี ด้วยคุณภาพแบบ High Dynamic Range (HDR) ซึ่งให้เห็นภาพสีสันสว่างไสวกว่า เก็บรายละเอียดในส่วนมืดได้ดีและเห็นส่วนสว่างได้ชัดเจน ภาพโดยรวมจึงดูมีชีวิตชีวาและสมจริงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และเป็นรุ่นแรกในตลาดที่รองรับเทคโนโลยี HDMI 2.0a ซึ่งทำให้สามารถรับส่งข้อมูลกำกับเนื้อหา HDR (HDR Metadata) จากแหล่งภายนอกทุกแหล่งที่รองรับ HDR การอัพเดทซอฟท์แวร์นี้ทำให้ผู้เป็นเจ้าของโทรทัศน์ SUHD ได้ชมภาพที่ดูสมจริงที่สุดเท่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน การอัพเดทเฟิร์มแวร์ครั้งนี้ ยังจะทำให้คอนเทนท์ HDR ที่นำเสนอสู่ผู้บริโภคเกิดความหลากหลายมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับเครื่องรับโทรทัศน์และวงการบันเทิงโดยรวมอีกด้วย นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถเพลิดเพลินไปกับคุณภาพการแสดงภาพที่ดียิ่งขึ้นผ่านโทรทัศน์จอโค้งรุ่นต่างๆ ของซัมซุง ซึ่งจะมอบประสบการณ์ในการรับชมที่สมจริง ผสานกับการออกแบบ อันทันสมัยที่เข้าได้เป็นอย่างดีกับการตกแต่งบ้าน ลูกค้าสามารถเลือกโทรทัศน์จอโค้ง SUHD ได้จากรุ่นต่างๆ ที่มีให้เลือกได้ถึง 28 รุ่นในขนาดจอตั้งแต่ 48 นิ้วไปจนถึง 105 นิ้ว เพื่อให้ผู้บริโภคมีทางเลือกเพิ่มยิ่งขึ้นในการรับชมคอนเทนท์ UHD ในรูปแบบที่โปรดปราน ซัมซุงจึงแนะนำเครื่องเล่นบลู-เรย์แบบอัลตร้าเอชดี (Ultra HD Blu-ray Player) ที่รองรับการเล่นแผ่นบลู-เรย์ความละเอียดระดับUHD โดยเครื่องเล่นดังกล่าวสามารถให้ความละเอียดภาพได้สูงกว่าเครื่องเล่นบลู-เรย์ทั่วไปถึง 4 เท่า แสดงสีได้มากกว่าถึง 64 เท่า สามารถเพิ่มความละเอียด (Upscale) คอนเทนท์ให้เป็นความละเอียดระดับ UHD จากแผ่นดิสก์แผ่นใดก็ได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถใช้บริการสตรีมมิ่งในระดับ 4K ได้อีกด้วย โดยเครื่องเล่นบลู-เรย์แบบอัลตร้าเอชดีรุ่นนี้มีดีไซน์โค้งสวยงามทันสมัย จับคู่ได้เป็นอย่างดีกับโทรทัศน์จอโค้ง SUHD ของซัมซุง Samsung AddWash เครื่องซักผ้าที่ทั้งฉลาดและมีการเชื่อมต่อในตัว ซัมซุง WW8500 แอดวอช (Samsung WW8500 AddWash) คือเครื่องซักผ้ารุ่นแรกในโลกที่ยอมให้ผู้บริโภค เติมผ้าเข้าถังซักเมื่อใดก็ได้ในระหว่างการซัก เนื่องจากมีบานประตู Add Door อันก้าวล้ำ เพียงกดปุ่มหยุดพักถังซักที่กำลังหมุนอยู่ก็จะหยุดหมุนและสามารถเติมผ้าเข้าสู่ถังซักได้ นอกจากนี้ เครื่องซักผ้า AddWashยังยกระดับการทะนุถนอมผ้าขึ้นอีกขั้นสำหรับผ้าเนื้อบอบบางที่ต้องซักมือเพียงอย่างเดียว เนื่องจากวันนี้เราสามารถเติมผ้าเหล่านี้เข้าไปในเครื่องซักรุ่นนี้ได้ ณ ตอนเริ่มต้นของขั้นตอนการล้างน้ำ นอกเหนือจากนี้ ยังเป็นเครื่องซักผ้าที่มีการเชื่อมต่อในตัว สามารถเชื่อมต่อได้ทั้งกับอุปกรณ์แอนดรอยด์และ iOS ผู้บริโภคจึงสามารถคอยตรวจสอบหรือสั่งงานเครื่องซักผ้าจากระยะไกลได้ ตลอดจนรับการแจ้งเตือนต่างๆ ได้โดยตรงที่สมาร์ทโฟนและยังช่วยให้ผู้บริโภคจัดการเรื่องการซักผ้าให้เสร็จสิ้นได้รวดเร็วและได้ผ้า ที่สะอาดมากยิ่งขึ้นด้วยฟังก์ชั่นการปั่นแบบ SuperSpeedที่ซักผ้าในปริมาณปกติตามความจุถังซักได้เสร็จภายในเวลา ไม่ถึง 1 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีระบบSuperSpray ที่ใช้แรงฉีดของน้ำเพื่อล้างสารซักล้างออกจากเสื้อผ้าออกได้อย่าง มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ฟังก์ชั่น ecobubble™ ที่พัฒนาให้ดียิ่งขึ้นยังช่วยสร้างฟองซักที่หนาขึ้น ทำให้แทรกซอนเข้าไปในเนื้อผ้าได้ยิ่งขึ้น 40เท่าเมื่อเทียบกับส่วนผสมที่เป็นเพียงน้ำกับฟองสบู่ จึงซักผ้าได้สะอาดน่าประทับใจแม้จะซักในน้ำเย็น ความร่วมมือกับ บีเอ็มดับเบิลยู และ โฟล์คสวาเกน ซัมซุงทำงานร่วมกับผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำหลายรายเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมในโลกยานยนต์ อีกไม่นานSamsung SmartThings ผสานตัวอยู่ในรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู แสดงการแจ้งเตือนต่างๆ ของ SmartThings Hub ไว้โดยตรงบนหน้าปัดของรถยนต์ ในทางกลับกัน แอพ SmartThings จะทำให้คุณสามารถตรวจสอบสถานะทางเทคนิคของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูได้ และแม้กระทั่งสั่งล็อคหรือปลดล็อครถยนต์จากระยะไกล ซัมซุงยังได้ประกาศรายละเอียดความร่วมมือกับโฟล์คสวาเกนอีกด้วย เป็นการนำเสนอให้ผู้ใช้ได้สัมผัสกับประสบการณ์อันราบรื่นไร้การติดขัดในการใช้รถยนต์ที่มีการเชื่อมต่อในตัว ผ่านแอพ Car Mode for Galaxy ที่ช่วยเพิ่มพูน ประสบการณ์แห่งการขับขี่ให้เปี่ยมคุณค่ายิ่งขึ้น สามารถทำได้ทั้งโดยการใช้ระบบสัมผัสหรือการสั่งงานด้วยเสียงผ่าน S-Voice รับสายได้อย่างง่ายดายและปลอดภัย ฟังเพลงจากเพลย์ลิสต์สุดโปรด หรือค้นหาเส้นทางไปยังที่หมาย และยัง ทำได้แม้กระทั่งอ่านข้อที่ส่งเข้ามาเป็นตัวอักษรให้คุณรับฟังเป็นเสียงอ่าน ผู้ใช้ยังสามารถใช้คุณสมบัติอื่นๆ ทุกอย่างผ่าน แอพมือถือ Car Mode for Galaxy ได้แม้ในรถยนต์ที่ไม่มีฟังก์ชั่นMirroring "หัวใจแห่งนวัตกรรม IoT ของซัมซุงที่เรายึดถือมาอย่างยาวนานคือการศึกษาวิจัยและเฝ้าสังเกตชีวิตประจำวันของผู้คน และมองทะลุลงไปให้เห็นลึกซึ้งไปกว่าสิ่งที่ปรากฏ เพื่อค้นหาวิธีการใหม่ๆ ในการทำให้ชีวิตพวกเขาดียิ่งขึ้น โดยการเปลี่ยนห้วงเวลาในแต่ละวันให้กลายเป็นประสบการณ์ที่น่าเพลิดเพลินจำเริญใจ" ดร. ดับบลิว.พี. ฮง กล่าว "ปรัชญานี้จะไม่มีวันแปรเปลี่ยน ในขณะเดียวกันเราจะเดินหน้าทำหน้าที่เป็นผู้นำทางไปสู่ชีวิตที่ฉลาดยิ่งขึ้น เชื่อมต่อกันมากขึ้น และอนาคตอีกมากมายของมวลมนุษย์ เพื่อพวกเราทุกคน"

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ