กสทช. แถลงผลการประชุม ประจำวันที่ 14 กันยายน 2558

ข่าวเทคโนโลยี Thursday September 17, 2015 10:25 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 ก.ย.--กสทช. วันนี้ (14 กันยายน 2558) ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ได้พิจารณากรณีการออกอากาศรายการถอนพิษ ที่ออกอากาศเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2558 รายการข่าวฟ้ายามเย็น ที่ออกอากาศเมื่อวันที่ 17 และ 20 มีนาคม 2558 และรายการวิเคราะห์คอลัมนิสต์ ที่ออกอากาศเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2558 ของบริษัท บลู สกาย แชนแนล จำกัด (ช่องฟ้าวันใหม่) ว่ามีเนื้อหาขัดต่อประกาศ คสช. ฉบับที่ 97/2557 ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2558 และประกาศ คสช. ฉบับที่ 103/2557 ลงวันที่ 21 กรกฎาคม 2558 และเป็นการขัดต่อบันทึกข้อตกลงที่บริษัท บลู สกาย แชนแนล จำกัด ทำไว้ต่อสำนักงาน กสทช. จึงมีมติให้มีคำสั่งทางปกครองเตือนเป็นหนังสือให้บริษัท บลู สกาย แชนแนล จำกัด ผู้รับใบอนุญาตช่องรายการฟ้าวันใหม่ ละเว้นการออกอากาศที่มีเนื้อหาขัดต่อประกาศ ดสช. ฉบับดังกล่าว ซึ่งหากฝ่าฝืนมีการออกอากาศในลักษณะดังกล่าวต่อไปอีก จะใช้มาตรการทางปกครองที่สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นมารการปรับทางปกครอง หรือมาตรการการพักใช้ใบอนุญาต จากนั้น ที่ประชุม กสท. ได้พิจารณากรณีช่องรายการ PEACE TV ออกอากาศรายการห้องข่าวเล่าเรื่องสุดสัปดาห์ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2558 รายการห้องข่าวเล่าเรื่องสุดสัปดาห์ เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2558 รายการเหลียวหลังแลไปข้างหน้าเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2558 รายการเข้าใจตรงกันนะ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2558 และรายการห้องข่าวเล่าเรื่องค่ำ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2558 ว่ามีเนื้อหาขัดต่อประกาศ คสช. ฉบับที่ 97/2557 ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2558 และประกาศ คสช. ฉบับที่ 103/2557 ลงวันที่ 21 กรกฎาคม 2558 และเป็นการขัดต่อบันทึกข้อตกลงที่บริษัท พีซ เทเลวิชั่น จำกัด ทำไว้ต่อสำนักงาน กสทช. ซึ่งในกรณีนี้ทางศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับตามคำสั่ง กสท. ที่เพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ ช่องรายการ PEACE TV ของบริษัท พีซ เทเลวิชั่น จำกัด โดย กสท. ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด ที่ประชุม กสท. จึงมีมติให้สำนักงานฯ ยื่นเรื่องนี้เพื่อแจ้งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวต่อศาลปกครองสูงสุดเพื่อประกอบการพิจาณาคำขออุทธรณ์ให้ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งทุเลาการบังคับของศาลปกครองกลางต่อไป ต่อมาที่ประชุม กสท. ได้มีมติเห็นชอบสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะและแนวทางดำเนินการต่อ (ร่าง) ประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์การจัดลำดับบริการโทรทัศน์ พร้อมทั้งเห็นชอบร่างประกาศดังกล่าวที่ปรับปรุงแล้ว ตามที่สำนักงาน เสนอ พร้อมทั้งมอบหมายให้สำนักงาน กสทช. เสนอต่อที่ประชุม กสทช. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ ก่อนจะนำไปประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป และที่ประชุม กสท. ได้พิจารณาเรื่องขอปรับแผนการยุติการรับส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์ในระบบแอนะล็อกขององค์การกระจายเสียงแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ThaiPBS) โดยที่ประชุม กสท. มีมติเห็นชอบการปรับปรุงแผนการยุติการรับส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์ในระบบแอนะล็อกใน 4 สถานี ดังนี้ 1.สถานีไชยปราการ และสถานีเกาะสมุย จากเดิมจะยุติในวันที่ 1 กันยายน 2558 เปลี่ยนเป็นยุติในวันที่ 1 ธันวาคม 2558 2.สถานีอุบลราชธานี จากเดิมจะยุติในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2558 เปลี่ยนเป็นยุติในวันที่ 31 พฤษภาคม 2559 3.สถานีร้อยเอ็ด จากเดิมจะยุติในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2559 เปลี่ยนเป็นยุติในวันที่ 31 มกราคม 2559 ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับการขยายโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ในกรณีของการสร้างสถานีเสริมในปีที่ 3 เพื่อให้ครอบคลุม 90% ตามที่ได้กำหนดไว้ในเงื่อนไขใบอนุญาต ซึ่งจะทำให้การยุติการออกอากาศโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบแอนะล็อกสอดคล้องกับการให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล อันจะเป็นการลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนผู้รับชมโทรทัศน์ภาคพื้นดิน นอกจากนี้ ที่ประชุม กสท. พิจารณากรณีที่โครงข่ายโทรทัศน์ประเภทที่ใช้คลื่นความถี่ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เกิดเหตุขัดข้องขึ้นเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2558 ที่ผ่านมา โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้สำนักงานฯ เรียกบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เข้ามาชี้แจงข้อขัดข้องในการให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ประเภทที่ใช้คลื่นความถี่ภาคในระบบดิจิตอลดังกล่าว เพื่อมาพิจารณาการใช้มาตรการกับทางบริษัทฯ ต่อไป และเมื่อสำนักงานฯ ดำเนินการเรียบร้อยก็ให้เสนอความคิดเห็นต่อที่ประชุม กสท. เพื่อพิจารณาต่อไป และที่ประชุม กสท. ได้มีมติเห็นชอบแนวทางการคำนวณอัตราค่าตอบแทนการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกและโครงข่ายโทรทัศน์ประเภทที่ใช้คลื่นความถี่ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัล เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมยิ่งขึ้นระหว่างผู้ให้บริการโครงข่าย และช่องรายการที่เป็นผู้ใช้บริการ เพื่อนำไปรับฟังความคิดเห็นเฉพาะกลุ่ม (Focus Group) กับผู้มีส่วนได้เสียต่อไป
แท็ก กสทช.   กสท.  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ