วธ. จัดเสวนา "เซ็กส์ในสื่อโฆษณา" ระดมหน่วยงานภาครัฐและเอกชนหาแนวทางแก้ไขปัญหาการนำภาพลักษณ์ทางเพศที่ไม่เหมาะสมมาใช้ในสื่อโฆษณา

ข่าวทั่วไป Tuesday September 22, 2015 16:05 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--22 ก.ย.--กลุ่มประชาสัมพันธ์ กระทรวงวัฒนธรรม เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2558 ที่โรงแรมรอยัลซิตี้ กรุงเทพฯ ศ.ดร อภินันท์ โปษยานนท์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวในการเปิดเสวนา "เซ็กส์ในสื่อโฆษณา" ว่า ปัจจุบันสื่อโฆษณาและกิจกรรมส่งเสริมการตลาดจำนวนไม่น้อยได้นำเอาภาพลักษณ์ทางเพศมาเป็นแกนหลักในการโน้มน้าวผู้บริโภคจนไม่อาจแน่ใจได้ว่าการที่ผู้บริโภคเลือกใช้สินค้านั้นเป็นความต้องการในการใช้ประโยชน์ที่แท้จริงของสินค้าหรือเพราะคาดหวังในแรงดึงดูดทางเพศ ขณะเดียวกันยังได้มีการร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมากผ่าน 1765 สายด่วนวัฒนธรรม เกี่ยวกับปัญหาผู้ประกอบการดำเนินการประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการในลักษณะดังกล่าวจำนวนมากโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบทางสังคมและวัฒนธรรมที่ตามมา กระทรวงวัฒนธรรม จึงได้ดำเนินการจัดการเสวนา "เซ็กส์ในสื่อโฆษณา" ขึ้น เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาการนำเอาภาพลักษณ์ทางเพศที่ไม่เหมาะสมมาใช้ในสื่อโฆษณา โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิ นักเรียน นักศึกษาจากสถาบันการศึกษาต่างๆและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมระดมความคิดเห็นแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อแสวงหาทางออกในการกำหนดมาตรการหรือแนวทางในการประชาสัมพันธ์และการส่งเสริมการตลาดอย่างจริงจัง "ประเด็นเซ็กส์ในสื่อโฆษณาไม่ได้เกิดขึ้นมาใหม่ เนื่องจากมีการผลิตสื่อโดยใช้ภาพลักษณ์ทางเพศหรือสรีระของผู้หญิงมานำเสนออย่างต่อเนื่องจนทำให้สังคมเกิดความเคยชิน เพราะปัจจุบันสื่อต่างๆก้าวกระโดดรวดเร็วมาก โดยเฉพาะโทรทัศน์ระบบเคเบิ้ล ดิจิตอล รวมถึงระบบผ่านมือถือ ซึ่งมีผลกระทบต่อเยาวชนและประชาชนในวงกว้าง ดังนั้น การมีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนมาร่วมเสวนาในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ในการกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง และที่สำคัญการตีความในด้านเนื้อหาต่างๆ โดยตระหนักถึงคุณค่า คำนึงถึงคุณธรรม จริยธรรมนั้นจะทำให้สังคมเกิดภูมิคุ้มกันได้เป็นอย่างมาก" ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าว นายบรรยงค์ สุวรรณผ่อง ประธานคณะกรรมการควบคุมจริยธรรม สมาคมนักข่าว นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า การสื่อความหมายของคนรับสารมีความเข้าใจต่างกันขึ้นอยู่กับบริบท ประสบการณ์ และวัย ซึ่งข้อมูลที่ได้รับจะทำให้การตีความหมายแต่งต่างกัน ยกตัวอย่าง เด็กคนนึงดูแล้วน่าเกลียด เด็กคนนึง อยากดูต่อ เด็กคนนึงดูต่อยังเกิดความรู้สึก เป็นต้น ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับการตีความหมายของแต่ละบุคคล ทั้งนี้สื่อโฆษณาในปัจจุบันนั้นมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังอยู่แล้ว ซึ่งถ้าเป็นสื่อวิทยุและโทรทัศน์จะมีสำนักงานคณะกรรมกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติกำกับดูแล และมีสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเป็นตัวกลาง แต่ปัจจุบันสื่อที่น่าเป็นห่วงคือสื่อออนไลน์เนื่องจากภาพที่ปรากฎไม่ใช่แค่ภาพโป๊แบบมีศิลปะแต่เป็นภาพโป๊ลักษณะแบบอนาจารซึ่งเป็นอันตรายสำหรับเด็กและเยาวชน อย่างไรก็ตามกระทรวงวัฒนธรรมควรเป็นหน่วยงานหลักที่ทำหน้าที่กระตุ้นให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหันมาแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ