เทรนด์ใหม่ให้ผิวมีออร่า

ข่าวทั่วไป Thursday September 24, 2015 11:20 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 ก.ย.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ ความก้าวหน้าทางวิทยาการความงาม ทำให้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวรูปแบบใหม่ๆ พัฒนาออกมาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจพิถีพิถันมากขึ้น ทำให้ไม่กี่ปีมานี้ สาวๆ ได้เริ่มเห็นผลิตภัณฑ์ในขั้นตอนพิเศษ เพิ่มมากขึ้น ที่มากกว่าแค่การทาโลชั่นหรือครีมบำรุงผิวหน้าทั่วไป อย่างมาส์คหน้าแบบต่างๆ เซรั่มแก้ไขปัญหาผิว ล่าสุด ภก.ดร. พงศกรพัฒน์ อรุโณทยานันท์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาความรู้ผลิตภัณฑ์ระดับภูมิภาค ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค อะคาเดมี จะมาเผยเทรนด์ใหม่ที่กำลังมาแรงที่สุดในช่วงนี้ ในผลิตภัณฑ์กลุ่มเอสเซนส์ หรือที่เรียกกันเล่นๆ ตามกระแสว่า "น้ำตบ" และล่าสุด "น้ำปลุกผิว" ออกมาอีกด้วย ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาความรู้ผลิตภัณฑ์ระดับภูมิภาค ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค อะคาเดมี เผยว่า "ผลิตภัณฑ์ กลุ่มเอสเซนส์ (Essence) ถูกพัฒนาขึ้นมาอีกขั้นจากผลิตภัณฑ์กลุ่มโทนเนอร์ (Toner) ซึ่งใช้หยดใส่สำลีเพื่อเช็ดผิวหลังล้างหน้า ปรับสภาพผิวให้พร้อมรับการบำรุงขั้นต่อไป แต่เนื่องจากโทนเนอร์มีลักษณะใส และเหลวเหมือนน้ำ เวลาเช็ดหน้าแล้วอาจรู้สึกเหมือนไม่ได้ใช้อะไร หลายคนจึงละเลยและข้ามขั้นตอนนี้ไป ทำให้นักวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางพัฒนาผลิตภัณฑ์กลุ่มเอสเซนส์ขึ้นมาทดแทน โดยเติมสารบำรุงเพิ่มเข้าไปให้ความเข้มข้นมากกว่าโทนเนอร์ ทำให้ได้ของเหลวที่เหนียวข้นกว่าเดิมเล็กน้อย เมื่อทาผิวแล้วรู้สึกเหมือนได้รับการบำรุงกว่าเดิม แต่ยังคงหน้าที่ปรับสภาพผิว ส่งเสริมประสิทธิภาพเซรั่มและครีมบำรุงในขั้นต่อไปได้ดี และเรียกกันต่อมาเล่นๆ ว่า "น้ำตบ" โดยผลิตภัณฑ์เอสเซนส์นี้ มีที่มาจากลักษณะที่เป็นน้ำเหลว และรูปแบบการใช้คือเทหรือเหยาะบนฝ่ามือแล้วลูบไล้ตบเบาๆ ทั่วใบหน้า ซึ่งต่อมามีการเติมสารสกัดจากธรรมชาติใหม่ๆ ประสิทธิภาพล้ำลึกกว่า ทั้งช่วยเติมและกักเก็บน้ำให้ผิวชุ่มชื่นอิ่มเอิบ แม้ไม่มีน้ำมันในสูตรเลย แต่กลับทำให้ผิวดูเปล่งประกายคล้ายมีออร่า เสมือนปลุกผิวให้ตื่นขึ้นรับความสดชื่น จึงมีการบัญญัติเรียกเอสเซนส์หรือน้ำตบแบบนั้นตามผลลัพธ์ว่า "น้ำปลุกผิว" วิธีใช้ไม่ได้ยุ่งยาก เพียงหลังล้างหน้า และซับหน้าแห้ง อาจใช้น้ำปลุกผิวโดยหยดลงบนสำลีแล้วเช็ดผิวเหมือนการใช้โทนเนอร์แบบเดิมก็ได้ แต่เนื่องจากเนื้อของเอสเซนส์มักมีความเหนียวข้นกว่า ไม่หกเลอะเทอะง่ายๆ จึงนิยมหยดเทลงบนฝ่ามือเลยแล้วลูบไล้ทั่วผิวหน้าลำคอ และตบเบาๆ เพื่อให้ซึมซาบเข้าสู่ผิว แล้วจึงบำรุงผิวตามด้วยเซรั่ม ครีมบำรุงเนื้อเข้มข้น และโลชั่นกันแดด" "ไม่เพียงเท่านี้ ควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือ จะได้มั่นใจว่าไม่มีการแอบเติมสารเร่งผิวขาวที่เป็นอันตราย และน้ำตบหรือน้ำปลุกผิวที่ดีควรจะซึมได้ง่ายและทำให้ผิวชุ่มชื่น ดูอิ่มเอิบนุ่มเนียน หากเนื้อเหนียวเหนอะหนะ เคลือบผิวซึมยาก เมื่อทาเซรั่มและครีมบำรุงอื่น จะยิ่งไม่สบายผิวและอาจก่อสิวอุดตัน น้ำปลุกผิว สูตรที่ไม่มีแอลกอฮอล์และน้ำหอมจะเหมาะกับผิวทุกประเภท รวมถึงผิวแพ้ง่ายควรมองหาคำว่า Hypoallergenic บนบรรจุภัณฑ์" ภก.ดร. พงศกรพัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ