AGE ปรับกลยุทธ์ขยายฐานลูกค้าในประเทศเพิ่ม20% พร้อมส่งสัญญาณยอดขายไตรมาส3/58 ฟื้นตัว

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 30, 2015 10:58 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--30 ก.ย.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์ บมจ.เอเชียกรีน เอนเนอจี (AGE) เผยการปรับกลยุทธ์ เน้นลดต้นทุน โฟกัส ตลาดในประเทศได้ผล เน้นขยายตลาดในไทย เจาะอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่มีความต้องการใช้พลังงานสูง หนุนยอดขายในประเทศทั้งปีโต 20% จากปีก่อน 3,581 ล้านบาท ด้าน " พนม ควรสถาพร " ประธานกรรมการบริหาร มองผลงานส่งสัญญาณฟื้นตัวได้ในไตรมาส 3/58 หลังการเน้นตลาดในประเทศ และการควบความต้นทุนการบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เชื่อทั้งปีผลการดำเนินงานพลิกกลับมามีกำไร นาย พนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชียกรีน เอนเนอจี จำกัด(มหาชน) หรือ AGE ผู้นำเข้าและจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส (ถ่านหินสะอาด) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯตั้งเป้ายอดขายถ่านหินในประเทศ เพิ่มขึ้น 15-20% เมื่อเทียบกับปีก่อน ที่มียอดขายถ่านหินในประเทศ ระดับ 3,586 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯได้ปรับกลยุทธ์เน้น ลดต้นทุนทั้งจากต้นทุนการผลิตและ การขนส่ง รวมถึงการควบคุณคุณภาพสินค้า อย่างใกล้ชิด โดยปีนี้บริษัทฯ เน้นตลาดในประเทศเป็นหลัก โดยเจาะกลุ่มผู้ใช้ถ่านหินในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ อาทิ กลุ่มผู้ประกอบการปูนซิเมนต์ และ กลุ่มผู้ประกอบการด้านพลังงาน มากขึ้น พร้อมกับการเน้นรักษาฐานกลุ่มลูกค้ารายเดิม ซึ่งจากกลยุทธ์ดังกล่าวส่งผลให้ยอดคำสั่งซื้อ(ออเดอร์)ในประเทศทยอยเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ดี สำหรับยอดขายถ่านหินโดยรวม บริษัทฯ คาดว่าน่ามีการปรับตัวลดลงจากยอดขายของปี 2557 ที่ 3.45 ล้านตัน เนื่องจากการนำเข้าถ่านหินในจีนปรับตัวลดลงในปีนี้ " จากทิศทางราคาถ่านหินที่ยังมีแนวโน้มทรงตัวในขณะนี้ ทางบริษัทฯ ได้มีการปรับกลยุทธ์ตั้งแต่ต้นปี โดยมุ่งเน้นการควบคุมต้นทุนการผลิต และต้นทุนการให้อยู่ในระดับที่แข่งขันได้ รวมถึงการควบคุมคุณภาพถ่านหินที่จะส่งมอบให้ลูกค้าให้ตรงตามความต้องการ จะทำให้ บริษัทฯแข่งขันได้ในระยะยาว และทำให้ผลประกอบการฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตามปีนี้ ยอดขายรวม อาจจะปรับตัวลดลง จากยอดขายต่างประเทศที่หายไปบางส่วน ถือว่าเป็นประหยัดต้นทุนดอกเบี้ยในส่วนของเงินทุนหมุนเวียน โดยบริษัทฯให้ความสนใจกับเรื่องมาร์จิ้น เป็นหลัก" นาย พนม กล่าว ส่วนการส่งออกถ่านหินในต่างประเทศในปีนี้ นาย พนม กล่าวยอมรับว่า บริษัทฯยังคงมียอดส่งออกต่อเนื่อง เพียงแต่ ยอดดีมานด์ในต่างประเทศมีสัดส่วนลดลง เนื่องจากปัจจัยกดดันจากภาวะเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว รวมถึงกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำของประเทศจีนปีนี้ผลิตได้ค่อนข้างมาก ส่งผลให้ การนำเข้าถ่านหินของประเทศจีนในปีนี้มีการปรับตัวลดลง สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2558 นั้น บริษัทฯคาดว่าในไตรมาสดังกล่าว จะเริ่มปรับตัวดีขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2558 ที่มีรายได้ 1,001.29 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 27.99 ล้านบาท และปรับตัวดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2557 ที่มีกำไร 0.32 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการปรับกลยุทธ์ด้านการขาย ประกอบกับ บริษัทฯมีการบริหารความเสี่ยงในด้านโลจิสติกส์ และควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ