กรุงเทพฯ--5 ต.ค.--โฟร์ พี แอดส์ (96)
ปัจจุบันวัคซีนที่ประเทศไทยสามารถผลิตไว้ใช้เองภายในประเทศแบบต้นน้ำมีเพียง2 ชนิดเท่านั้นคือวัคซีนบีซีจีและวัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี ทั้งที่ไทยมีศักยภาพในการวิจัยพัฒนาและมีขีดความสามารถสูงในการผลิตวัคซีนไว้ใช้เอง แต่ปัญหาอยู่ที่ขณะนี้ยังไม่สามารถต่อยอดผลงานวิจัยไปสู่ภาคอุตสาหกรรมได้ เนื่องจากยังขาดโครงสร้างพื้นฐานในการผลิตวัคซีนในระดับกึ่งอุตสาหกรรม (Pilot Plant) ที่ได้มาตรฐานGMP เพื่อใช้ทดสอบในคน รองรับและต่อยอดการวิจัยพัฒนาวัคซีนจากหน่วยงานต่างๆจากระดับห้องปฏิบัติการในประเทศ เพื่อขยายขนาดการผลิตไปทดสอบในคน ซึ่งกลายเป็นข้อจำกัดที่ทำให้ไทยยังไม่สามารถผลิตวัคซีนที่พัฒนาวิจัยขึ้นเองภายในประเทศได้ในเชิงอุตสาหกรรม
ดร.นพ.จรุง เมืองชนะ ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ องค์การมหาชนกล่าวว่าประเทศไทยยังขาดโรงงานผลิตวัคซีนระดับกึ่งอุตสาหกรรมที่จะเป็นส่วนเชื่อมต่อไปสู่การผลิตในเชิงอุตสาหกรรม หากยังคงพึ่งพาแต่ต่างประเทศไม่สร้างความสามารถขึ้นเอง จะทำให้ประเทศไทยเสียโอกาสในการผลิตวัคซีน ไทยจึงจำเป็นต้องเพิ่มศักยภาพในการสร้างความมั่นคงด้านวัคซีนโดยการผลิตวัคซีนขึ้นภายในประเทศได้เอง เพื่อการพึ่งพาตนเอง ลดการนำเข้าวัคซีนจากต่างประเทศ
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี(มจธ.)เป็นตัวอย่างหนึ่งของโรงงานผลิตวัคซีนระดับกึ่งอุตสาหกรรมของประเทศที่มีอยู่ในขณะนี้ เป็นโรงงานกึ่งอุตสาหกรรมที่จะผลิตวัคซีนและชีววัตถุเพื่อจะนำมาใช้ทดสอบในคนไม่ใช่ผลิตแล้วเอามาใช้หรือเอามาขาย และปีนี้สถาบันวัคซีนฯได้เลือก มจธ.เป็นหน่วยงานต้นแบบในการจัดกิจกรรม Open House เพื่อศึกษากระบวนการผลิต การควบคุมและประกันคุณภาพ กระบวนการทำงานของโรงงานผลิตวัคซีนกึ่งอุตสาหกรรม เนื่องจาก มจธ.เป็นโรงงานต้นแบบผลิตยาชีววัตถุแห่งชาติตามมาตรฐาน GMP ที่สามารถให้บริการการผลิตยาชีววัตถุตามความต้องการของกลุ่มวิจัยและอุตสาหกรรม ช่วยขยายขนาดกระบวนการผลิตในระดับกึ่งอุตสาหกรรม ปรับปรุงกระบวนการผลิตให้เหมาะสมในเชิงพาณิชย์ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้ประเทศไทยมีศักยภาพในการผลิตยาและวัคซีนใช้เอง เพื่อลดการนำเข้าและลดการพึ่งพายา ชีววัตถุจากต่างประเทศและยังสามารถใช้เป็นสถานที่ฝึกอบรมเพื่อพัฒนาบุคลากรด้านกระบวนการผลิตในหลักสูตรการสอนที่เกี่ยวข้องได้ด้วย
ดร.นพ.จรุงกล่าวต่อไปว่ากิจกรรม Open House เป็นหนึ่งในแผนงานการพัฒนาเครือข่ายการประกันคุณภาพวัคซีนซึ่งทางสถาบันฯจะมีการจัดกิจกรรมแบบนี้ต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ปีนี้จัดขึ้นเพื่อสร้างความเข้าใจในศักยภาพด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านวัคซีนแก่เครือข่ายประกันคุณภาพวัคซีน เพราะการทำเครือข่ายเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญที่ทางสถาบันวัคซีนฯส่งเสริมและสนับสนุน เนื่องจากการผลิตวัคซีนเพื่อพึ่งตนเองมีหลายมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นของยุโรป อเมริกา หรือแม้แต่ของ WHO และมีหลายขั้นตอน จะขาดในกระบวนการใดกระบวนการหนึ่งไม่ได้ เครือข่ายจึงจำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการกำหนดกฎเกณฑ์มาตรฐานต่างๆ กิจกรรม Open House ครั้งนี้มีเครือข่ายจากหน่วยผลิต หน่วยวิจัย และมหาวิทยาลัยในประเทศไทยที่เข้าร่วมกว่า 30 คน อาทิไบโอเนท-เอเชีย, จีพีโอ-เอ็มบีพี, กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ,หน่วยผู้ผลิต ผู้วิจัยของมหาวิทยาลัยต่างๆฯลฯ ซึ่งผู้เข้าร่วมจะได้รู้ถึงมาตรฐานด้านกระบวนการผลิต การควบคุมและประกันคุณภาพได้พูดคุยหารือ แลกเปลี่ยนในประเด็นปัญหาต่างๆ เป็นการเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อจะได้เกิดความเข้าใจกัน หากเกิดความไม่เข้าใจ เกิดความไม่เชื่อมโยงกันก็จะก่อให้เกิดความเสียหายวัคซีนก็อาจจะไม่ได้คุณภาพ ทำให้เสียเวลาทั้งผู้ผลิต ผู้รับขึ้นทะเบียน ผู้ตรวจสอบคุณภาพ ทำให้กว่าวัคซีนจะออกมาสู่ตลาดต้องใช้เวลานานมากขึ้น ค่าใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
"สถาบันวัคซีนฯเป็นหน่วยงานกลางด้านวัคซีนที่จะขับเคลื่อนให้มีการผลิตวัคซีนที่มีมาตรฐานระดับนานาชาติขึ้นมาให้ได้ เพราะไม่ได้หวังใช้เพียงในประเทศเท่านั้น แต่จะส่งออกไปแข่งขันกับต่างประเทศด้วย เพราะฉะนั้นเรื่องของคุณภาพต้องทำให้ชัดเจน ทุกเครือข่ายจำเป็นต้องได้รับการพัฒนาที่พร้อมสู่การนำวัคซีนมาใช้ในคน ในระดับทดสอบ และระดับอุตสาหกรรม เช่น อย.มีการพัฒนาในเรื่องของการเปิดช่องทางให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาพูดคุยต้องมีกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนเพื่อให้ผู้ที่ขึ้นทะเบียนได้รู้ ส่วนกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ต้องตรวจสอบคุณภาพรุ่นของการผลิตแต่ละรุ่นต้องมีความชัดเจน มีมาตรฐานที่ดีให้ประชาชนมีความมั่นใจว่าได้รับวัคซีนที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน ซึ่งทางสถาบันฯมีการสนับสนุนการทำเรื่องของวัคซีนมาตรฐาน สนับสนุนทุนให้ไปศึกษาดูงานที่ประเทศญี่ปุ่น เพราะการผลิตวัคซีนไม่ใช่แค่ใช้ในประเทศไทยเท่านั้น แต่มุ่งไปสู่การนำไปใช้ในภูมิภาคด้วย เรื่องการประกันคุณภาพวัคซีนประเทศไทยเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในเอเชียอาคเนย์ ที่ได้มาตรฐานของ WHO มาหลายปี และอนาคตไทยจะเป็นศูนย์กลางในเรื่องวัคซีนในหลายๆตัว ปัจจุบันมีคลังเก็บวัคซีนมาตรฐานสำหรับใช้สอบวัดคุณลักษณะวัคซีนที่ผลิตออกมาจำหน่ายในแต่ละรุ่นซึ่งเป็นคลังวัคซีนของภูมิภาค ได้เปิดไปแล้วตั้งอยู่ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์" ดร.นพ.จรุงกล่าวในตอนท้าย