บมจ. เอสซีไอ อีเลคตริค (SCI) เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ 13 ต.ค. นี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday October 12, 2015 17:03 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 ต.ค.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บมจ. เอสซีไอ อีเลคตริค (SCI) ผู้ผลิตและจำหน่ายตู้สวิทช์บอร์ด เสาไฟฟ้าแรงสูง เสาสื่อสารโทรคมนาคม และให้บริการรับเหมาติดตั้งระบบส่งไฟฟ้าแรงสูงและระบบไฟฟ้าจำหน่าย พร้อมซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ 13 ต.ค. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 4,425 ล้านบาท ดร.สันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า บมจ. เอสซีไอ อีเลคตริค (SCI) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มทรัพยากร หมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค ในวันที่13 ตุลาคม 2558 โดย SCI ประกอบธุรกิจ 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ ธุรกิจผลิตและจำหน่ายตู้สวิทซ์บอร์ด รางเดินสายไฟและอุปกรณ์รองรับ ธุรกิจผลิตและจำหน่ายเสาไฟฟ้าแรงสูง เสาสื่อสารโทรคมนาคม โครงสร้างเหล็กชุบกัลวาไนซ์และบริการชุบสังกะสี ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็กใน สปป.ลาว และธุรกิจบริการรับเหมาติดตั้งระบบส่งไฟฟ้าแรงสูงและระบบไฟฟ้าจำหน่าย SCI มีทุนชำระแล้ว 750 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 562.50 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 187.50 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งจำนวนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) 178.12 ล้านหุ้น และผู้บริหารและพนักงานของบริษัท 9.38 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 5-7 ตุลาคม 2558 ในราคาหุ้นละ 5.90 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 1,106.25 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 4,425 ล้านบาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย นายเกรียงไกร เพียรวิทยาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอสซีไอ อีเลคตริค (SCI) เปิดเผยว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ จะนำไปชำระคืนเงินกู้ ลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศ รวมถึงการลงทุนในโรงงานผลิตเสาไฟฟ้าแรงสูงและเสาโทรคมนาคมในประเทศเมียนมาร์ เพื่อขยายฐานการผลิตไปยังระดับภูมิภาค รองรับการขยายตัวของกลุ่มประเทศอาเซียน หลัง IPO ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ SCI 3 ลำดับแรก ได้แก่ กลุ่มพฤฒินารากร ถือหุ้น 64.61% บริษัท เอจีอาจีกาว่า คอร์ปอเรชั่น จำกัด ถือหุ้น 3.52% และกลุ่มญาณิสรางค์กูล ถือหุ้น 3.38% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ 11.33 เท่า โดยคำนวณจากกำไรสุทธิ 4 ไตรมาสล่าสุด (ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2557–30 มิถุนายน 2558) หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.52 บาท ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้และเงินสำรองตามกฎหมายจากงบการเงินเฉพาะของบริษัท ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.sci-mfgr.com และที่เว็บไซต์ www.set.or.th "สู่ทศวรรษที่ 5 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อคนไทยเข้าถึงการลงทุนที่มั่งคั่งยั่งยืน"

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ