กรุงเทพฯ--21 ม.ค.--EMPORIUM
น่องเหล็กโสมขาว "ปาร์ค ซุน เป๊ก" ควบรถแหกโค้ง หลั่งเลือดคว้าแชมป์ทัวร์ ออฟ สยาม สเตจที่ 4 หลังปั่นสองล้อคู่ชีพล้มกลิ้งจนเนื้อตัวถลอกปอกเปิก ทำเอา "ประจักษ์ มหาวงษ์" ยอดนักปั่นเมืองไทย ตามมาติด ต้องเบรกจนตูดปัด พุ่งลงข้างทางแต่ยังโชดดีแค่เจ็บสีข้าง ก่อนหยิบรถมาปั่นต่อช่วงสุดท้าย เข้ามาพร้อมกลุ่มนำ แต่ทำเวลาไม่ดี โดน 2 ล้อลอดช่อง หยิบเอาแชมป์สุดยอดอาเซียนไปกอดอีกวัน
การแข่งขันจักรยานทางไกล "ทัวร์ ออฟ สยาม 2005" เมื่อวันที่ 20 ม.ค. เข้าสู่การแข่งขันสเตจที่ 4 จากบึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ เข้าเส้นชัยที่อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ระยะทาง 171.1 กม. มีนายดิเรก ถึงฝั่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานปล่อยตัว
หลังจากออกสตาร์ท มี จาค็อป รูเบลล์ ทีมไจแอนด์ เอเชีย จากไต้หวัน, ทาเคชิ มิยาซาวา ทีมบริดสโตน จากญี่ปุ่น, โยชิมาซา ฮิโรเซะ ทีมชิมาโน เรซซิ่ง จากญี่ปุ่น และอีวอร์ บรุนด์ ทีมเนเธอร์แลนด์ ขึ้นนำกลุ่มใหญ่ไมห่าง ขณะที่ประจักษ์ มหาวงษ์ ทีมสยามพารา ตามอยู่ในกลุ่มสอง มุ่งมั่นทำเวลาให้ดีที่สุด เพื่อแย่งตำแหน่งสุดยอดนักปั่นอาเซียน หลังจากสเตจที่ 3 ทำเวลาตามหลังนักปั่นจากสิงคโปร์ "หยาง เว่ย เฉียง" ซึ่งได้ตำแหน่งนี้ไปครองแทน
ผ่านมาได้ครึ่งทาง เป็นทางขึ้นเขา บรรดานักจักรยานไม่มีใครออมกำลัง ใส่กันเต็มที่เพื่อขึ้นมากลุ่มนำให้ได้ ในช่วง 30 กม.สุดท้าย เป็นทางลงเขา มุ่งเข้าอำเภอปากช่อง กลุ่มผู้นำเริ่มแผ่ว โดนชินิจิ ฟุคุชิมา ทีมบริดสโตน จากญี่ปุ่น แชมป์สเตจที่ 3 เกาะมากับกลุ่มใหญ่ฉีกตัวขึ้นนำ มาพร้อมกับ 2 นักจักรยานทีมโซล ซิตี้ คือ คิม ดอง ฮุน และปาร์ค ซุน เป๊ก ในกลุ่มนำนี้มีประจักษ์ ตามมาติด ๆ
จนมาถึง 2 กม.สุดท้าย ก่อนเข้าเส้นชัย เป็นทางเต็มไปด้วยกรวด ต้องฝ่าเส้นทางรถไฟ แล้วดิ่งเข้าโค้งหักศอก ก่อนมุ่งหน้าเข้าเส้นชัยในระยะ 500 ม.สุดท้าย เป็นทางอันตราย กรรมการต้องโบกธงแดงเตือนเป็นระยะ ๆ แต่ไม่มีใครสนใจ ใส่กันเต็มที่อย่างไม่กลัวตาย แม้ในจังหวะเข้าโค้ง แต่มีพลาดจนได้ เมื่อชินิจิ ฟุคุชิมา ถูก 2 นักจักรยานเกาหลีกดดัน ไม่ชะลอความเร็ว เข้าโค้งอย่างแรง จนล้อหลังปัด เกี่ยวเอาคิม ดอง ฮุน และปาร์ค ซุน เป๊ก ล้มครูดถนนจนเนื้อตัวถลอก เลือดไหลซิบ ก่อนที่ทั้งหมดลุกขึ้นมาปั่นต่อ เข้าทางตรงต่างเร่งกันสุดแรง ก่อนที่ปาร์ค ซุน เป๊ก
พุ่งเข้าเส้นชัยอย่างฉิวเฉียด คว้าแชมป์สเตจที่ 4 เวลา 4.19.34 ชม. ที่ 2 ทาเคฮิโร่ มิซูตานิ ทีมบริดสโตน เวลา 4.20.06 ชม. ที่ 3 หว่อง คัม โป ทีมฮ่องกง 4.20.09 ชม. ขณะที่ชินิจิ ฟุคุชิมา เข้าที่ 5
ส่วนประจักษ์ มหาวงษ์ เข้าเส้นชัยมาพร้อมกับกลุ่มนำ แต่ไม่ติดอันดับ 1-10 โดยในกลุ่มนี้มีจตุภูมิ เลขวัต ทีมสยามพารา, มนตรี ชมภูวิเศษ, ภาณุพันธ์ กูลรุ่งเรืองกิจ ทีมทหารอากาศทั้งคู่ เข้าเส้นชัยในกลุ่มนำด้วย
สำหรับรางวัลเจ้าภูเขา ได้แก่ ชินิจิ ฟุคุชิมา , รางวัลเจ้าความเร็ว ชินิจิ ฟุคุชิมา, รางวัลสุดยอดนักปั่นเยาวชนต่ำกว่า 23 ปี คิม ดอง ฮุน ทีมโซลซิตี้, รางวัลสุดยอดอาเซียน หยาง เว่ย เฉียง ทีมสิงคโปร์, รางวัลโอเวอร์ออล ชินิจิ ฟุคุชิมา
ภายหลังการแข่งขัน ประจักษ์ กล่าวว่า เกมในสเตจนี้เป็นเกมที่หนัก เพราะต้องสปรินทร์สู้กันตลอด และต้องพยายามเอาตำแหน่งสุดยอดอาเซียนคืนมาจาก หยาง เว่ย เฉียง ทีมสิงคโปร์ แต่ไม่สำเร็จ ส่วนจังหวะที่ตนล้มถือเป็นอุบัติเหตุ ยังดีแค่เจ็บสีข้างเท่านั้น สำหรับผลงานในสเตจนี้เข้าเส้นชัยเกือบพร้อมกลุ่มนำ เป็นผลงานที่ตนพอใจ และไม่เซอร์ไพร์สแต่อย่างใด
"สำหรับสเตจสุดท้ายในวันที่ 21 ม.ค. มุ่งหน้าสู่นครนายกนั้น ต้องเล่นกันเต็มที่เพื่อไล่เวลาให้ทันสิงคโปร์"
ทางด้าน วิสุทธิ์ กสิยะพัท ผู้จัดการทีมสยามพารา กล่าวว่า ก่อนหน้าสเตจที่ 3 ตนได้วางแผนให้ประจักษ์สลัดหนี หยาง เว่ย เฉียง ให้หลุด แต่โดนจาค็อป นีลเซ่น ทีมชาติเดนมาร์ก ในสเตจนี้ช่วย หยาง เว่ย เฉียง ด้วยการพานักปั่นลอดช่องจี้เข้าหาประจักษ์ ในจังหวะนี้ตนเป็นห่วงตั้งแต่ก่อนแข่งแล้ว เพราะกลัวประจักษ์เร่งสู้จนหมดแรง และก็เป็นจริง เมื่อหยาง เว่ย เฉียง เล่นฉลาดอาศัยตามหลังนักจักรยานคนอื่น ๆ แล้วหาโอกาสสปรินท์จนทิ้งประจักษ์ ถึง 12 นาที
"สำหรับสเตจที่ 5 ต้องยอมรับว่าโอกาสของประจักษ์จะได้ครองตำแหน่งสุดยอดอาเซียน เป็นเรื่องที่ยาก แต่ถ้าได้อันดับที่ 2 ของอาเซียน น่าจะเป็นผลงานที่น่าพอใจ เพราะประจักษ์เตรียมตัวมาน้อย"
ส่วนการแข่งขันสเตจที่ 5 สเตจสุดท้าย จากปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เข้าเส้นชัยที่นครนายก ระยะทาง 136.2 กม. เป็นเส้นทางวัดใจนักปั่นเพราะต้องทางสูงชันของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่"
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--