กรุงเทพฯ--15 ต.ค.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 15 ตุลาคม 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,186.90-1,181.95 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,750 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,650 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV15 อยู่ที่ 19,820 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 110 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,710 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.54 น.ของวันที่ 15/10/15)
แนวโน้มวันที่ 16 ตุลาคม 2558
ข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่จากจีนและสหรัฐทำให้มีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี2015 ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัวลงตามเศรษฐกิจจีน กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำที่มีความปลอดภัยสูง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐดิ่งลง จึงส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐมีความน่าดึงดูดน้อยลง โดยดอลลาร์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์เมื่อเทียบกับตะกร้าเงิน หลังจากสัญญาณที่บ่งชี้ชัดเจนขึ้นว่าเศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัวลงตามเศรษฐกิจจีน เมื่อกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนกันยายน ซึ่งต่ำกว่านักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ ประกอบกับ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ลดลงเกินคาด 0.5% ในเดือนกันยายน โดยการดิ่งลงที่ระดับ 0.5% ถือเป็นการดิ่งลงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 8 เดือน ปัจจัยดังกล่าวเพิ่มแรงกดดันต่อดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่สัญญาอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าของสหรัฐบ่งชี้ว่า มีโอกาสราว 1 ใน 4 ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในสิ้นปีนี้ ทั้งนี้ สถานการณ์ดังกล่าวอาจจะยืดเยื้อต่อไปอีก เมื่อคณะกรรมการการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อของจีนจะยังคงเพิ่มขึ้นในอัตราต่ำในช่วงหลายเดือนข้างหน้า ซึ่งหนุนราคาทองคำสร้างระดับสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่องและสามารถทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนครึ่งทั้งนี้ ความตรึงเครียดในซีเรีย และความเสี่ยง ที่อาจความขัดแย้งที่ไม่ได้ตั้งใจหรือเกิดจากอุบัติเหตุ ระหว่างสหรัฐและรัสเซีย ได้เป็นแรงหนุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยภายหลังจากที่เครื่องบินรบของทั้ง 2 ประเทศบินเข้าใกล้กันจนเสี่ยงจะเกิดอุบัติเหตุในระยะรัศมีเพียงไม่กี่ไมล์ ซึ่งรัสเซียออกมายืนยันว่าจุดมุ่งหมายของภารกิจในซีเรียคือการโจมตีกลุ่ม IS แต่สหรัฐกลับกล่าวหาว่ารัสเซียมีจุดมุ่งหมายเพื่อโจมตีกลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรีย และ สหรัฐปฏิเสธความร่วมมือกับรัสเซียในภารกิจต่อต้านกลุ่ม IS ในซีเรีย
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำ ให้ลงทุนระยะสั้นโดยรอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,174-1,168 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวในระยะสั้นเพื่อสะสมกำลัง โดยมีการทรงตัวรักษาระดับสูงไว้ได้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคามีโอกาสขยับตัวขึ้นต่อ ขณะที่หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุน เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,191-1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับสำคัญ
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,174 (19,550บาท) 1,168 (19,450บาท) 1,156 (19,250บาท)
แนวต้าน 1,191 (19,840บาท) 1,200 (19,990บาท) 1,206 (20,100บาท)
GOLD FUTURES (GFV15)
แนวรับ 1,174 (19,640บาท) 1,168 (19,540บาท) 1,156 (19,340บาท)
แนวต้าน 1,191 (19,930บาท) 1,200 (20,080บาท) 1,206 (20,180บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148