กรุงเทพฯ--19 ต.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แนะผู้ขับขี่เรียนรู้เทคนิคการขับรถผ่านเส้นทางหมอกลงจัด โดยเปิดไฟหน้ารถและไฟตัดหมอก เมื่อหมอกลงจัดจนมองไม่เห็นเส้นทาง ไม่ขับรถด้วยความเร็วสูง รักษาระยะห่างจากรถคันอื่นให้มากกว่าปกติ ไม่เปลี่ยนช่องทางเดินรถ ไม่แซงรถในระยะกระชั้นชิด เพิ่มความระมัดระวังเมื่อเลี้ยวหรือขับรถผ่านทางแยก และไม่จอดรถบริเวณที่มีหมอกปกคลุมเส้นทาง เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ระยะนี้พื้นที่ตอนบนของประเทศมีหมอกปกคลุม ทำให้ไอน้ำจับเป็นฝ้าที่กระจกรถยนต์ บดบังทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางของผู้ขับขี่ ส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนมากกว่าปกติ เพื่อความปลอดภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขอแนะเทคนิคการขับรถผ่านเส้นทางที่มีหมอกปกคลุมอย่างปลอดภัย ดังนี้ เปิดไฟหน้ารถและไฟตัดหมอก เมื่อหมอกลงจัดจนไม่เห็นเส้นทาง ห้ามเปิดไฟสูง เพราะจะทำให้ผู้ขับรถคันอื่นสายตาพร่ามัว ไม่เปิดไฟฉุกเฉิน เนื่องจากทำให้ผู้ร่วมใช้เส้นทางเข้าใจผิด ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุได้ พร้อมขับรถให้ช้ากว่าปกติ ไม่ขับรถด้วยความเร็วสูง เพราะทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางไม่ดีและสภาพถนนจะลื่นกว่าปกติ รวมถึงรักษาระยะห่างระหว่างคันอื่นให้มากกว่าปกติ เพื่อเพิ่มระยะทางในการหยุดรถให้มากขึ้นเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน จะสามารถหยุดรถได้อย่างปลอดภัย โดยเฉพาะการขับผ่านเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย ไม่เปลี่ยนช่องทางเดินรถหรือแซงรถในระยะกระชั้นชิด ให้สัญญาณไฟล่วงหน้าก่อนเปลี่ยนช่องทางหรือเลี้ยวรถในระยะไม่ต่ำกว่า 60 เมตร ไม่ขับรถคร่อมช่องทางการจราจรหรือขับชิดด้านใดด้านหนึ่งของถนนมากเกินไป เพื่อป้องกันอุบัติเหตุเฉี่ยวชนหรือชนประสานงา เมื่อขับรถผ่านทางแยก ควรเปิดกระจกหน้าต่างรถ เพื่อให้สามารถมองเห็นเส้นทางและได้ยินเสียงจากภายนอกชัดเจนขึ้น หากหยุดรถเพื่อรอเลี้ยวหรือขับรถผ่านทางแยก ควรเหยียบแป้นเบรกค้างไว้ เพื่อส่งสัญญาณเตือนให้ผู้ขับรถตามหลังมาทราบและเพิ่มความระมัดระวัง และไม่ควรจอดรถบริเวณเส้นทางที่มีหมอกลงจัด เพราะผู้ขับรถคันอื่นอาจมองไม่เห็น ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ หากจำเป็นให้จอดรถในบริเวณที่ปลอดภัย พ้นจากเส้นทางเดินรถ กรณีรถเสียให้รีบนำรถออกจากถนน ชิดริมไหล่ทางมากที่สุด เพื่อมิให้กีดขวางช่องทางจราจร พร้อมเปิดไฟฉุกเฉินและนำป้ายเตือนหรือวัสดุอื่นๆ ที่สะท้อนแสงมาวางไว้ด้านหลังรถ ห่างจากจุดที่จอดรถในระยะไม่ต่ำกว่า 50 เมตร เพื่อให้ผู้ร่วมใช้เส้นทางมองเห็นได้ในระยะไกล กรณีเกิดละอองฝ้าเกาะกระจก ให้เปิดปุ่มไล่ฝ้าหรือเพิ่มความเย็นของเครื่องปรับอากาศ และปรับลดกระจกหน้าต่างลงเล็กน้อย จะทำให้มองเห็นเส้นทางชัดเจนขึ้น ทั้งนี้ ผู้ขับขี่ควรตรวจสอบอุปกรณ์ทำความสะอาดกระจก อุปกรณ์ที่ปัดน้ำฝน น้ำในกระปุกน้ำฉีดกระจก อุปกรณ์ไล่ฝ้า ให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ดี พร้อมเตรียมผ้าแห้งสำหรับเช็ดกระจกมองข้างและกระจกหน้าต่างที่มีละอองฝ้าเกาะ รวมถึงตรวจสอบสัญญาณไฟให้แสงไฟส่องสว่างทุกดวง หากสัญญาณไฟชำรุดควรเปลี่ยนใหม่ เพราะการขับรถในช่วงหมอกปกคลุมเส้นทาง จำเป็นต้องใช้สัญญาณไฟ เพื่อให้ผู้ขับขี่รถคันอื่นสามารถมองเห็นรถได้ในระยะไกล จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง
0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th