AQ เข้าถือหุ้น-บริหารทรัพย์ของ”โกลเด้นท์ เทคโนโลยีฯ” เตรียมส่งตัวแทนเจรจา KTB ชะลอบังคับคดี-ขอประนอมหนี้ ยืนยันพร้อมใช้หนี้ครบทุกบาททุกสตางค์

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday October 19, 2015 13:46 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 ต.ค.--IR network บอร์ด บมจ.เอคิว เอสเตท (AQ) อนุมัติให้เข้าถือหุ้นพร้อมบริหารทรัพย์ของ "โกลเด้นท์ เทคโนโลยีฯ" และ"เค แอนด์ วี เอส อาร์ เอส การ์เด้นโฮม (ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัทโกลเด้นฯ)" ระบุมีที่ดิน 4,300 ไร่ ติดถนนบางนา-ตราด อีกฟากติดมอร์เตอร์เวย์ ประเมินราคาที่ดินล่าสุดมีมูลค่าถึง 13,500 ล้านบาท ดังนั้นไม่ต้องห่วงสามารถชำระหนี้แบงก์กรุงไทยได้ครบถ้วนแน่ แถมยังมีลุ้นได้รับกำไรได้อีก เหตุราคาประเมินที่ดินสูงกว่ามูลหนี้ที่ต้องชำระ ระบุหลังจากนี้จะนัดขอเจรจากับผู้บริหารแบงก์กรุงไทย เพื่อขอให้ชะลอบังคับคดี-ประนอมหนี้ เชื่อเป็นทางออกที่ดีที่สุดกับทุกฝ่าย ทั้งเจ้าหนี้-คู่ค้า-ผู้ถือหุ้น-พนักงานและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด บริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) (AQ) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 11/2558 เมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้มีมติอนุมัติเข้าทำสัญญาจัดการทรัพย์สินและแบ่งผลประโยชน์ระหว่างบริษัทฯ กับ บริษัท โปรเกรส พรอพเพอร์ตี้ จำกัด ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท โกลเด้นฯ รวมไปถึงมีอำนาจใจการบริหารจัดการทรัพย์ที่มีของ โกลเด้นฯ นั่นคือที่ดินประมาณ 4,323-1-55.90 ไร่ ตั้งอยู่ตามแนวถนนบางนา -ตราด (ทางหลวงหมายเลข34) ถนนกรุงเทพ-ชลบุรีสายใหม่ (มอเตอร์เวย)และวัดเกาะแก้ว (ที่ดิน) จากการประเมินมูลค่าของที่ดินล่าสุดโดยบริษัท เอส.แอล. สแตนดาร์ด แอพไพรซัล จำกัด เมื่อเดือนตุลาคม 2558 พบว่ามีมูลค่าสูงถึง 13,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นหลักทรัพย์ที่คุ้มค่าหรือเพียงพอที่จะชำระหนี้ตามที่ศาลฎีกาแผนกอาญานักการเมืองได้ตัดสินให้บริษัทฯ ร่วมกับพวก 27 คน ร่วมกันคืนเงิน 10,004.46 ล้านบาท แก่ผู้เสียหายคือธนาคารกรุงไทย(KTB) โกลเด้นฯ ต้องรับผิดชอบ 8,368.73 ล้านบาท บมจ.เอคิว เอสเตท ระบุว่าที่ดินที่เป็นหลักประกันของ โกลเด้นฯ และที่ดินหลักประกันมีราคาประเมินสูงกว่าภาระหนี้ของบริษัท ดังนั้นหากมีการจัดการที่ดีย่อมมีโอกาสที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับที่ดินและสามารถขายที่ดินได้เงินมากเพียงพอที่จะชำระหนี้ของบริษัทฯได้ และอาจจะมีเหลือกำไรให้กับบริษัทและ โกลเด้นฯ ได้อีกด้วย ดั้งนั้น AQ ซึ่งมีความชำนาญในการจัดการอสังหาริมทรัพย์มากกว่าและเป็นผู้ที่จะได้รับความเสียหายในการนี้โดยตรง เพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นและยังมีโอกาสได้กำไรจากการบริหารจัดการอีกด้วย ทางบริษัทจึงจำเป็นต้องสอดเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการในการขายทรัพย์หลักประกันนี้ โดยหากขายทรัพย์สินได้กำไร ก็จะมีการแบ่งกำไรหรือผลประโยชน์กันกับ โกลเด้นฯ โดยมีข้อตกลงว่าหากหลักประกันสามารถขำระหนี้ได้ตามคำพิพากษาได้ ทาง โกลเด้นฯ จะไม่มาไล่เบี้ยกับบริษัท สำหรับหนี้ส่วนต่างระหว่างที่ โกลเด้นฯ ต้องรับผิดชอบคือ 8,368.73 ล้านบาท กับหนี้ส่วนที่บริษัทต้องรับผิดชอบคือ 10,004.46 ล้านบาท ทำให้บริษัทไม่มีความเสียหายที่เกิดจากคำพิพากษาและจะไม่กระทบต่อทรัพย์สินอื่นของบริษัทแต่อย่างใด ทั้งนี้ ภายหลังการเข้าจัดการกับทรัพย์ดังกล่าวและชำระหนี้คืนให้กับธนาคารกรุงไทยครบถ้วนแล้ว หากมีกำไรภายหลังจากที่ได้หักค่าใช้จ่ายต่างๆ ออกทั้งหมดแล้ว จะแบ่งกำไรออกเป็นสองส่วน โดยให้กับ โกลเด้นฯ ร้อยละ 70 และส่วนทีเหลือร้อยละ 30 จะแบ่งให้กับ บมจ.เอคิว เอสเตท สำหรับขั้นตอนดำเนินการต่อจากนี้ทาง บมจ.เอคิว เอสเตท จะส่งตัวแทนเพื่อขอเข้าพบและเจรจากับผู้บริหารของธนาคารกรุงไทย โดยจะขอให้ชะลอการบังคับคดีนี้ก่อน และจะขอเจรจาประนอมหนี้ โดยมั่นใจว่าแนวทางนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์กับทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหนี้ คู่ค้า ผู้ถือหุ้น และพนักงานของบริษัท และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง พร้อมกันนี้บริษัทยืนยันเจตนาที่จะร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย ในการชำระหนี้ตามคำพิพากษาทุกประการ แต่อยากขอให้เลือกใช้แนวทางที่ทำให้ประโยชน์เกิดขึ้นกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง "มีหลายแนวทางในการชำระหนี้ที่จะนำไปเสนอให้กับธนาคารกรุงไทย ซึ่งหากผู้บริหารของธนาคารกรุงไทยเห็นชอบกับแผนดังกล่าว มั่นใจว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย พร้อมกันนี้ บมจ.เอคิว เอสเตท เชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมว่าจะสามารถคืนหนี้ได้ครบถ้วน เพราะที่ดินย่านบางนา-ตราด ถือเป็นทำเลที่มีศักยภาพ และราคาสูงกว่ามูลหนี้ และปัจจุบันมีผู้ลงทุนหลายรายติดต่อเข้ามา เพื่อขอซื้อที่ดิน จึงเชื่อว่าจะสามารถบริหารและจัดการทรัพย์ส่วนนี้ให้เกิดมูลค่าสูงที่สุดได้"รายงานข่าวระบุ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ