กรุงเทพฯ--21 ต.ค.--โฟร์ พี.แอดส์ (96)
วันนี้ (21 ตุลาคม 2558) นายแพทย์อำนวย กาจีนะ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลออกพรรษาปีนี้ ก็จะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางกลับยังภูมิลำเนา และมีการใช้ยานพาหนะจำนวนมาก ทั้งรถยนต์ รถโดยสารสาธารณะ และรถจักรยานยนต์ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข ก็จะเน้นรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน โดยเฉพาะปัจจัยเสี่ยงสำคัญ คือ เมาแล้วขับ การขับรถเร็ว ไม่สวมหมวกนิรภัย
การเตรียมพร้อมก่อนการเดินทางไกล ควรมีการเตรียมพร้อมทั้งสภาพรถและเตรียมคนขับ โดยเริ่มที่การวางแผนการเดินทาง ตรวจเช็คสภาพของรถให้พร้อมใช้งาน ลมยางหรือน้ำมันต้องพอดีกับการเดินทางไกล ไฟส่องสว่างและไฟเลี้ยวมีการทดสอบก่อนเดินทาง สำหรับคนขับ ซึ่งถือเป็นบุคคลที่สำคัญที่สุดในการป้องกันและลดอุบัติเหตุในครั้งนี้ จึงต้องพักผ่อนให้เพียงพอ ที่สำคัญต้องไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮลล์ทุกชนิดหรือทานยาที่ทำให้ง่วง เช่น ยาลดน้ำมูก ยาภูมิแพ้ ยาแก้ไอ เป็นต้น และขับรถด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด
นายแพทย์อำนวย กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ยังมีภัยสุขภาพที่สำคัญในช่วงของการพักผ่อนระหว่างเดินทาง คือ อันตรายที่เกิดจากการนอนเปิดแอร์และปิดกระจกในรถยนต์ ซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตได้ โดยพบว่ามีการเสียชีวิตจากการเปิดแอร์นอนในรถเกือบทุกปีอย่างน้อยปีละประมาณ 1-2 ราย ซึ่งอันตรายของการเปิดแอร์นอนในรถ เนื่องจากในขณะที่เราสตาร์ทเครื่องยนต์ทิ้งไว้ ปิดกระจกมิดชิด เท่ากับว่าเป็นการนอนดมก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์(CO) โดยที่ก๊าซพิษเหล่านั้นจะไหลเวียนมาจากระบบแอร์ของรถยนต์ ที่มีการดูดอากาศจากภายนอกมาหมุนเวียนภายในรถ ทำให้คนที่นอนอยู่ในรถขาดอากาศหายใจ และอาจเสียชีวิตได้
กรมควบคุมโรค จึงขอแนะนำประชาชนวิธีปฎิบัติเพื่อความปลอดภัย ดังนี้ 1.พักผ่อนให้เพียงพอหากจะต้องมีการขับรถในระยะทางไกล รวมทั้งควรมีการแวะพักเพื่อปรับเปลี่ยนอิริยาบถ เป็นระยะ เช่น ทุก 2 ชั่วโมงเพื่อป้องกันอาการง่วงนอน 2.หากรู้สึกง่วงมากๆ และจำเป็นต้องนอนพักในรถยนต์ ควรหาที่จอดในที่โล่ง เมื่อจอดรถยนต์แล้ว ดับเครื่องยนต์ แง้มกระจกลงสักนิด 2-3 เซนติเมตร เพื่อระบายอากาศและรับลมจากภายนอก ห้ามเปิดแอร์และปิดกระจกโดยเด็ดขาด และ 3.ใช้พัดลมแอร์ช่วยให้หลับ เมื่อพร้อมจะหลับก็ให้บิดกุญแจไปที่จังหวะออนเพื่อให้ระบบไฟฟ้าทำงาน แล้วจึงบิดเปิดสวิทช์แอร์ เมื่อเปิดแล้วให้กดที่ปุ่ม A/C หรืออาจจะเป็นรูปรถที่มีลูกศรชี้เข้ามาในตัวรถจากภายนอก ซึ่งพัดลมแอร์จะดูดอากาศมาหมุนเวียนในห้องโดยสาร แม้จะไม่เย็นเหมือนแอร์แต่ก็ทำให้หลับได้เช่นกัน และควรนอนพอให้หายอ่อนเพลียประมาณ 30-40 นาที เมื่อพร้อมแล้วจึงเดินทางต่อ
"ขอให้ประชาชนเดินทางไปกลับด้วยความปลอดภัย หากพบเห็นผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ หรือพบผู้ที่นอนในรถนานผิดปกติ เคาะเรียกแล้วไม่รู้สึกตัว ขอให้โทรขอความช่วยเหลือจากทีมแพทย์กู้ชีพ โทร 1669 หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422" นายแพทย์อำนวย กล่าว