กรุงเทพฯ--22 ต.ค.--สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 อุบลราชธานี
นพ.ศรายุธ อุตตมางคพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 จ.อุบลราชธานี (สคร.10) กล่าวว่า เนื่องจากขณะนี้ปลายฤดูฝน ต้นฤดูหนาว ?สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง มีอากาศหนาวเย็นและหมอกหนาปกคลุมในหลายพื้นที่ สภาพอากาศที่เย็นและชื้นจะทำให้เชื้อโรคมีชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานขึ้น แพร่กระจายได้ง่ายและเร็ว โดยโรคที่มีแนวโน้มจะระบาดในฤดูหนาวและกระทบต่อสุขภาพประชาชนแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ 1.โรคติดเชื้อ ได้แก่ โรคไข้หวัด โรคไข้หวัดใหญ่ โรคปอดบวม โรคหัด โรคสุกใส โรคมือ เท้า ปาก และโรคอุจจาระร่วงในเด็กเล็ก 2.ภัยสุขภาพ เช่น อันตรายจากการดื่มสุราแก้หนาว อันตรายจากการท่องเที่ยวในฤดูหนาว
นพ.ศรายุธ กล่าวต่อว่า การดูแลสุขภาพอย่างถูกวิธีในฤดูหนาวต้องเริ่มตั้งแต่เตรียมเสื้อผ้า ผ้าห่มกันหนาวให้เพียงพอกับคนในครอบครัว ทำความสะอาดที่อยู่อาศัย ที่นอน หมอน ผ้าห่ม มุ้ง ก่อนใช้เพื่อลดฝุ่นละออง เตรียมยาสามัญประจำบ้าน หน้ากากอนามัย ยารักษาโรคเรื้อรังที่จำเป็น เช่น ผู้ป่วยหอบหืด อากาศหนาวจัดและแห้ง อาจทำให้อาการของโรคกำเริบขึ้นได้ง่าย หมั่นดูแลสุขภาพตนเอง รักษาร่างกายให้อบอุ่น ดื่มน้ำสะอาดวันละ 8 แก้ว รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ อยู่ในที่มิดชิด หรือกลางแจ้ง ตากแดด ตากลมมากทำให้ไม่สบายได้ง่าย ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 30 นาที 3-5 วัน ต่อสัปดาห์ ใช้โลชั่นทาผิวป้องกันผิวแตก ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อน-หลังรับประทานอาหาร และก่อน-หลังขับถ่าย หลีกเลี่ยงที่ที่มีคนหนาแน่น เมื่อไอ จาม ควรปิดปาก จมูก ลด ละ เลิกบุหรี่ สุรา เมื่อเจ็บป่วยรีบไปตรวจรักษาที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน
ทั้งนี้ สิ่งที่พึงระวังเพิ่มเติม คือ การก่อไฟผิง ควรหลีกเลี่ยงผิงไฟในที่อับอากาศหรือในเต็นท์ เพราะจะทำให้สูดดมควันไฟเข้าสู่ทางเดินหายใจ เกิดการสะสม ทำให้ป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจได้ ระมัดระวังไฟไหม้ และระมัดระวังอุบัติเหตุทางถนน หากมีหมอกลงจัด ทัศนวิสัยในการมองเห็นไม่ดี ควรเปิดไฟหน้ารถ ไฟตัดหมอก ไม่ขับรถเร็ว หากหมอกลงจัดมองเห็นไม่ชัดเจน ควรจอดรถในที่ปลอดภัย เมื่อทัศนวิสัยดีขึ้นจึงค่อยขับรถต่อไป ทั้งนี้ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422./นพ.ศรายุธ กล่าวปิดท้าย