กรุงเทพฯ--4 พ.ย.--อินฟินิตี้ คอมมิวนิเคชั่นส์แอนด์ คอนซัลแทนส์
ภูเก็ต จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวชั้นนำของเอเชีย ต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและจากทั่วโลกกว่า 6 ล้านคน ต่อปี เป็นจังหวัดที่มีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวม (Gross Provincial Product) สูงเป็นอันดับสามของประเทศ และกำลังดำเนินการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานกว่า 13 โครงการ มูลค่ากว่า 42.3 พันล้านบาท ล่าสุดได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลให้เป็นศูนย์กลางทางธุรกิจท่องเที่ยวทางทะเล เพื่อช่วยสร้างรายได้ทางท่องเที่ยวให้กับเศรษฐกิจของประเทศ
ภูเก็ตเป็นทั้งจุดหมายปลายทางทางธุรกิจและการท่องเที่ยวที่มีกิจกรรมและสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่เป็นรองใครในเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวในแบบอิสระหรือกลุ่มอินเซ็นทีฟ ภูเก็ตมีโรงแรมมากกว่า 500 แห่งและสนามบินนานาชาติ มีเที่ยวบินตรงไปยังหลายประเทศทั่วโลก และกำลังมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ รองรับการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยว ตลอดจนมีสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจ จึงทำให้ภูเก็ตเป็นตัวเลือกสำคัญสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไปและกลุ่มนักท่องเที่ยวเพื่อธุรกิจ
รองศาสตราจารย์ ดร.ชวนี ทองโรจน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากล่าวว่า "จำนวนนักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวในภูเก็ตมีมากขึ้นในแต่ละปี และเราได้เห็นว่า กลุ่มผู้ที่มาเยือนในทุกวันนี้ มากกว่า 50% เป็นนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเชีย ภูเก็ตนั้นเป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก และขณะนี้มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รวมไปถึงการขยายสนามบินนานาชาติภูเก็ต ซึ่งจะเป็นการรองรับการเติบโตของนักท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ"
ภูเก็ตนั้นเป็นเมืองที่มีโครงสร้างพื้นฐานและการบริการที่ดีตอบรับนักท่องเที่ยวเพื่อธุรกิจได้เป็นอย่างดี และมากกว่า 60% ของกลุ่มนักท่องเที่ยวเพื่อธุรกิจที่มาเยือนประเทศไทยนั้น เดินทางมาเพื่อจัดงานประชุมและสัมมนาและมาจากประเทศในภูมิภาคเอเชีย และภูเก็ตพร้อมที่จะเกตเวย์สู่ประเทศต่างๆ หลังการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอีกด้วย
นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ "ทีเส็บ" ในฐานะองค์กรผู้สนับสนุนงานงานภูเก็ต อินเตอร์เนชั่นแนล โบ๊ท โชว์ อย่างเป็นทางการ กล่าวว่า "ทีเส็บเป็นหน่วยงานรัฐบาลที่ขึ้นตรงกับสำนักนายกรัฐมนตรี มีจุดมุ่งหมายหลักคือการส่งเสริมการจัดประชุม การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล และการจัดงานแสดงสินค้าในประเทศไทย ทีเส็บได้จัดให้ภูเก็ตเป็นหนึ่งในไมซ์ซิตี้ทั้ง 5 แห่งและเมื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเราเล็งเห็นว่าจะมีงานระดับภูมิภาคเข้ามาจัดในเมืองไทยมากขึ้น โดยเฉพาะภูเก็ต ซึ่งมีเอกลักษณ์โดดเด่นทั้งทางด้านธุรกิจและการท่องเที่ยวพักผ่อนที่ไม่แพ้ใคร ด้วยเหตุผลนี้ ทีเส็บ มีความยินดีที่ได้สนับสนุนงานภูเก็ต อินเตอร์เนชั่นแนล โบ๊ท โชว์ ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าทางธุรกิจท่องเที่ยวทางทะเลและไลฟ์สไตล์ชั้นนำของภูมิภาค รวมถึงการทำกิจกรรมการตลาดในต่างประเทศ, โปรโมชั่น, แคมเปญ, โรดโชว์ และการจับคู่ธุรกิจในกลุ่มประเทศเป้าหมาย โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้จัดแสดงสินค้าให้ได้พบปะและพูดคุยทางธุรกิจและกระตุ้นให้กลุ่มผู้ซื้อได้เข้ามาร่วมงานมากขึ้น"
มิสเตอร์แอนดี้ ดาวเดน ผู้อำนวยการ งานภูเก็ต อินเตอร์เนชั่นแนล โบ๊ท โชว์ กล่าวว่า งานภูเก็ต อินเตอร์เนชั่นแนล โบ๊ท โชว์ นั้น เป็นงานจัดแสดงเรือและไลฟ์สไตล์งานแรกของวงการธุรกิจทางทะเลและใหญ่ที่สุดในไทย และเป็นงานแสดงเรือนานาชาติที่จัดมาอย่างยาวนานที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดึงดูดผู้มาเยี่ยมชมงานกว่า 5,000 คนต่อปี จากกว่า 30 ประเทศทั่วโลก โดยแต่ละปีงานภูเก็ต อินเตอร์เนชั่นแนล โบ๊ท โชว์ มีการเติบโตเฉลี่ย 11 เปอร์เซ็นต์และที่สำคัญที่สุดนั้นคือ ช่วยสร้างรายได้ให้กับภาคธุรกิจท่องเที่ยวทางทะเลโดยรวมกว่า 6 พันล้านในปีนี้ผ่านการจัดแสดงสินค้าในงานเมื่อต้นปีที่ผ่านมา"
สำหรับปีพ.ศ. 2559 นี้ ทางผู้จัดงานฯ ได้เพิ่มพื้นที่เพื่อจัดโชว์เรือยอช์ทบนผืนน้ำมากขึ้นและคาดว่าจะมีเรือกว่า50 แบรนด์ ทั้งเรือยอช์ทที่เป็นทั้งเรือเครื่องยนต์และเรือใบ ซุปเปอร์ยอช์ท และเรือขนาดเล็ก มูลค่ารวมกว่า 3 พันล้านบาทนำมาแสดงทั้งบนน้ำและภายในศูนย์การจัดแสดงสินค้า รอยัล ภูเก็ต มารีน่า นอกจากนั้นจะมีธุรกิจอีกกว่า 150 บริษัทที่จะมาจัดแสดงสินค้าภายในงานไม่ว่าจะเป็นรถยนต์หรู โครงการอสังหาริมทรัพย์ อุปกรณ์ที่ใช้ในธุรกิจและการท่องเที่ยวทางทะเลและไลฟ์สไตล์ที่เกี่ยวข้อง
"เพื่อเป็นการสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการกระตุ้นธุรกิจการเช่าเรือซุปเปอร์ยอช์ทในไทย เราจึงได้จัดทำไกด์บุ๊กสำหรับการเช่าเรือในรูปแบบดิจิตอล (The Digital Phuket Charter Guide) ขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อแจกจ่ายให้กับเอเจนซี่ทั่วโลกกว่าพันราย ซึ่งในไกด์บุ๊กจะมีคำแนะนำเรื่องการขายการเช่าเหมาลำเรือยอช์ทและซุปเปอร์ยอช์ทในเมืองไทย ทั้งนี้ เพื่อโปรโมทการท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อนและเพื่อทางธุรกิจในภูเก็ต ตลอดจนโปรโมทในเรื่องของไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวทางทะเล ทั้งนี้คาดว่าจะช่วยกระตุ้นให้เกิดรายได้มากกว่า 5 พันล้านสำหรับการท่องเที่ยวในส่วนนี้" มิสเตอร์แอนดี้ กล่าวสรุป
งานภูเก็ตอินเตอร์เนชั่นแนล โบ๊ท โชว์ ครั้งที่ 13 จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 7-10 มกราคม 2559 ณ รอยัล ภูเก็ต มารีน่า
รายละเอียดเพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.phuketboatshow.com หรือ www.facebook.com/PIMEXPhuketInternationalBoatShow.