กรุงเทพฯ--5 พ.ย.--กลุ่มประชาสัมพันธ์ กระทรวงวัฒนธรรม
พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2558 ที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแผนแม่บทส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติฉบับแรก ตามที่กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนาได้เสนอกรอบร่างแผนแม่บทส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ฉบับที่ 1 (พ.ศ.2559-2563) โดยเน้นการพัฒนาและยกระดับจิตใจของประชาชนให้มีคุณธรรม ให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการส่งเสริมคุณธรรมของชาติ พัฒนาระบบการบริหารจัดการด้านการส่งเสริมคุณธรรม และส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นผู้นำด้านคุณธรรมในประชาคมอาเซียนและประชาคมโลก รวมถึงการกำหนดค่านิยมร่วมของคนไทย ได้แก่ ความซื่อสัตย์ ความรับผิดชอบ และความพอเพียง โดยการดำเนินการตามกรอบแนวคิดได้จากการศึกษาพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสเกี่ยวกับการส่งเสริมคุณธรรมของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หลักธรรมทางศาสนา 5 ศาสนา ที่ทางราชการรับรอง นโยบายของรัฐบาล ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ พ.ศ.2550 แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 (พ.ศ.2555-2559) และการส่งเสริมคุณธรรมในภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อนำมาจัดทำกรอบในการยกร่างแผนแม่บทดังกล่าว
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า การขับเคลื่อนแผนแม่บทส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ได้มีการกำหนดมาตรการให้การส่งเสริมคุณธรรมเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อให้การดำเนินงานได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง ต้องประสานความร่วมมือกับเครือข่ายทุกภาคส่วน โดยจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่งเสริมคุณธรรม กำหนดทิศทางสร้างกระแสทางสังคมและแรงจูงใจให้เกิดความร่วมมือของทุกภาคส่วน ส่งเสริมและผลักดันให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีบทบาทในการส่งเสริมคุณธรรมมากขึ้น กำหนดผู้รับผิดชอบงานให้ชัดเจน และมีการจัดทำแผนการประเมินผลภาพรวมของการปฏิบัติงานตามแผนแม่บทด้วย ทั้งนี้ จะมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการจัดทำแผนแม่บทส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ฉบับที่ 1 (พ.ศ.2559-2563) เพื่อพิจารณายกร่างแผนแม่บท และติดตามประเมินผลการขับเคลื่อนแผนแม่บท และคณะอนุกรรมการกำกับติดตามการส่งเสริมคุณธรรมในสังคมไทย เพื่อติดตามการดำเนินงานส่งเสริมคุณธรรมแก่หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม สื่อมวลชน และหน่วยงานที่อื่นที่เกี่ยวข้องต่อไป
อย่างไรก็ตาม การจัดทำแผนแม่บทส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ฉบับที่ 1 (พ.ศ.2559-2563) จะส่งผลต่อการส่งเสริมคุณธรรมในระดับชาติ สังคม และประชาชน โดยประชาชนจะได้นำหลักคำสอนทางศาสนามาเป็นหลักสำคัญในการดำรงชีวิตก่อให้เกิดสังคมคุณธรรมที่มีการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข มีคุณธรรมนำการพัฒนา มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ในมิติศาสนา ซึ่งจะก่อให้เกิดความสงบสุขร่วมเย็นแก่ประเทศชาติ รวมถึงการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นผู้นำด้านคุณธรรมในประชาคมอาเซียนและประชาคมโลกต่อไป