รมว.พม. กำชับเจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสและผู้ประสบปัญหาทางสังคมต่างๆ ที่ จ.เพชรบูรณ์ อุบลราชธานี ฉะเชิงเทรา ขอนแก่น และเชียงใหม่

ข่าวทั่วไป Thursday November 5, 2015 10:36 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 พ.ย.--กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ วันนี้ (๔ พ.ย. ๕๘) เวลา ๐๘.๓๐ น. ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.) ครั้งที่๒๗๕/๒๕๕๗-๒๕๕๘ เพื่อรับทราบปัญหาทางสังคมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และร่วมหาแนวทางการแก้ไขและการป้องกันปัญหาดังกล่าว โดยมีผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานในกระทรวงฯ เข้าร่วมประชุม พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า จากกรณีหญิงชราสู้ชีวิต วัย ๘๕ ปี มีอาชีพรับจ้างเก็บถั่ว ได้รับเงินเพียงวันละ๕๐-๖๐ บาท แต่ต้องรับภาระเลี้ยงดูอีก ๓ ชีวิต คือ ลูกสาวอายุ ๕๔ ปี ป่วยเป็นมะเร็งลำคอระยะที่ ๔ และโรคขาอ่อนแรง ลูกเขยอายุ ๖๓ ปี ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ไม่สามารถทำงานได้ และหลานสาววัย ๘ ขวบ กำลังศึกษาอยู่ชั้น ป.๒ ครอบครัว มีฐานะยากจน ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ และกรณีชายชราอายุ ๗๕ ปี ป่วยเป็นโรคไต ความจำเสื่อม ไม่มีญาติพี่น้อง และไม่มีเอกสารแสดงตัวบุคคลมานานกว่า ๔๐ ปี ซึ่งเพื่อนบ้านต้องช่วยเหลือดูแลมานาน อาศัยเพียงลำพังในกระท่อมกลางทุ่งนา ของชาวบ้าน ที่จังหวัดอุบลราชธานี ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ทั้ง ๒ จังหวัด ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจของกระทรวงฯ พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องการรักษาพยาบาลผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง อีกกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมพ่อเลี้ยง อายุ ๓๘ ปี ก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเรา เด็กหญิง อายุ ๘ ขวบ ซึ่งเป็นลูกเลี้ยง หลังจากผู้เป็นแม่ทนไม่ไหวจึงแจ้งความจับสามีใหม่ ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดฉะเชิงเทรา (พมจ.ฉะเชิงเทรา) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจของกระทรวงฯ พร้อมเร่งเยียวยาฟื้นฟูสภาพจิตใจเด็กหญิงและครอบครัวโดยด่วน พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกรณีหญิงอายุ ๓๐ ปี ชาวจังหวัดขอนแก่น พร้อมญาติอีก ๔ คน ถูกนายหน้าหลอกไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย โดยอ้างว่าจะได้ค่าแรงวันละ ๓๕๐-๕๐๐ บาท แต่เมื่อไปทำงานจริงกลับได้ค่าแรงเพียงแค่วันละ ๒๐๐ บาท และยังถูกบังคับใช้งานหนักเยี่ยงทาส ตั้งแต่ตี ๕ ถึง ๒ ทุ่ม ทุกวัน แต่โชคดีมีชาวมาเลเซีย เชื้อสายไทยเข้าช่วยเหลือแล้วพาพบเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือกลับมาได้ ตนได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจของกระทรวงฯ พร้อมเร่งเยียวยาฟื้นฟูสภาพจิตใจของผู้เสียหาย และกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งทีมสอบสวนพิเศษ ๒๓ ผู้ต้องหา ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ หลังมีหลักฐานพบว่ามีการซื้อบริการทางเพศ เด็กหญิง ๓ คน อายุ ๑๓-๑๕ ปี ภายหลังจากจับกุมพันตรีอดีตทหารหน่วยรบที่ซื้อบริการ และได้เปิดเผยว่ามีทั้งอาจารย์มหาวิทยาลัย นักการเมืองท้องถิ่น และข้าราชการที่ถูกออกหมายจับ ตนได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องติดตามความคืบหน้าของการดำเนินคดี พร้อมเร่งเยียวยาฟื้นฟูสภาพจิตใจของผู้เสียหายตามภารกิจของกระทรวงฯ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ