จากความสำเร็จในงานวิจัยระดับโลก ของ Father of L-Ascorbic Acid สู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ Vitamin C ทรงประสิทธิภาพ ที่คนทั่วโลกต่างกล่าวถึง

ข่าวทั่วไป Thursday November 5, 2015 17:18 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 พ.ย.--ขอบฟ้าพีอาร์ เอเจนซี่ PHYTO-C Skincare (ไฟโต-ซี สกินแคร์) เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์เวชสำอางบำรุงผิวทรงประสิทธิภาพ ชื่อดังจากประเทศสหรัฐอเมริกา อันเป็นที่ยอมรับของแพทย์ผิวหนังทั่วโลก และมีชื่อเสียงแพร่กระจายไปยังต่างประเทศ เรื่องราวของแบรนด์ PHYTO-C Skincare ได้เริ่มขึ้นเมื่อ Dr. Omar ประธานบริษัท PhytoCeuticals, Inc ประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ค้นคว้าวิจัยผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพจากสารสกัดธรรมชาติ จากการคิดค้นวิธีการที่ทำให้ liquid vitamin C มีความคงตัวได้อย่างมีสิทธิภาพ โดยงานวิจัยอันมีชื่อเสียงและให้คุณประโยชน์นี้ ทำให้ Dr. Omar ได้รับเกียรติ ยกย่องจากทั่วโลกเป็น "Father of L-Ascorbic Acid" มากไปกว่านั้น งานวิจัยของ Dr. Omar ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญชั้นนำ จนได้รับรางวัลจากหลายสถาบัน ได้แก่ the National Cancer Institute (NCI) และ the National Institutes of Health โดยรางวัล NCI Grant #1 R43- CA83538-01A1 สำหรับการวิจัย "Prevention of UV Photo injury in Skin by Antioxidants" และรางวัล NCI Grant #1-R43-CA94484-01 สำหรับการวิจัย "Photo protection of Skin by Topical Selenium" ทั้งนี้ รวมเป็นเวลากว่า 40 ปี ที่ Dr. Omar ได้พัฒนาสูตรต่างๆ และทำงานวิจัยค้นคว้า ในตำแหน่งศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาเภสัชเวท (Pharmacognosy) คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยโรด ไอร์แลนด์ คิงส์ตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา จนเป็นที่ยอมรับ และได้รับรางวัล the "Excellence Award in Research" จาก University of Rhode Island Alumni Association ในปี 2002 "การดูแลผิวพรรณด้วยวิตามิน L-Ascorbic Acid (Vitamin C) ในแต่ละสูตรที่เหมาะสมกับความต้องการของผิวพรรณ ยังผลให้ประสิทธิภาพสูงสุด วิตามิน L-Ascorbic Acid (Vitamin C) นอกจากจะเป็นสารต้นอนุมูลอิสระ ที่สามารถลดริ้วรอยที่เกิดขึ้นแล้วนั้น ยังช่วยดูแลปกป้องผิวพรรรณ จากผลการทำลายของแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ วันนี้ แบรนด์ได้พัฒนา และค้นคว้าวิจัยอย่างไม่หยุดยั้ง จุดมุ่งหมายเพื่อที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณที่มีพัฒนาการสูงสุด เป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีและมีประสิทธิภาพสูงสุด เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว แม้ผิวบอบบางระคายเคืองง่าย ยังผลให้สุขภาพผิวสมบูรณ์อย่างเต็มที่ และลดริ้วรอยของเวลา ภายใต้พื้นฐานการค้นคว้าวิจัยทางวิทยาศาสตร์อันก้าวล้ำของนวัตกรรมแพทย์ผิวหนัง" Dr.Mostafa Omar ความเข้าใจเกี่ยวกับ วิตามิน ซี วิตามิน ซี (L-Ascorbic Acid) เป็นวิตามินที่ร่างกายไม่สามารถสร้างได้ จำเป็นต้องได้รับจากอาหารที่รับประทานเข้าไป ปริมาณวิตามินซีที่ร่างกายดูดซึมได้มากที่สุดต่อวัน คือ 1,200 มิลลิกรัม โดยระดับของวิตามิน ซีจะลดลงเหลือครึ่งหนึ่งหลังจากผ่านไป 10-20 วัน ดังนั้นหลังจาก 3 สัปดาห์ ระดับของวิตามิน ซีในร่างกายจะหมดไป ถ้าไม่มีการรับประทานเพิ่มเติม ร่างกายจำเป็นต้องได้รับวิตามิน ซี อย่างน้อย 200 มิลลิกรัมในแต่ละวัน โดยรูปแบบของ วิตามิน ซี ที่ร่างกายนำไปใช้ได้คือ L-Ascorbic Acid ซึ่งร่างกายสามารถดูดซึมผ่านผิวหนังได้ วิตามินซีในรูปแบบของการรับประทาน ไม่สามารถใช้เพิ่มปริมาณของวิตามินซีที่ผิวได้ ผลของแสง UV ต่อการทำลายวิตามิน ซีในผิวหนัง ผิวหนังเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดของร่างกาย ช่วยปกป้องอันตรายของร่างกายจากสิ่งต่างๆ วิตามิน ซีในผิวหนังปริมาณ 2ใน 3 ส่วนจะถูกทำลายเมื่อได้รับรังสี UV วิตามิน ซีทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่จำเป็นในการป้องกันการทำลายจากแสง UV และต้านการอักเสบที่เกิดขึ้น สารอนุมูลอิสระ มีผลทำลายการสร้างคอลลาเจน ส่งผลเกิดริ้วรอย เซลผิวหนังเกิดการเสื่อม และอาจนำไปสู่การเกิดมะเร็งผิวหนัง การศึกษาเกี่ยวกับ Liquid Vitamin C (L-Ascorbic Acid) โดย Dr. Omar วิตามินซีไม่คงตัวในค่าพีเอชที่เป็นกลาง จากการศึกษาของ Dr. Omar และคณะ พบว่า L-Ascorbic Acid เป็นรูปแบบทีสามารถซึมเข้าผิวหนังได้เมื่อค่าพีเอช น้อยกว่า 3.5 โดยความเข้มข้นของวิตามิน ซี สูงสุด ถึง 20% ที่สามารถซึมผ่านผิวหนังได้ ระดับของวิตามินซีในเนื้อเยื่อมีความอิ่มตัวหลังจากที่มีการใช้ทาต่อเนื่องเป็นเวลา 3 วัน และปริมาณจะลดลงเหลือครึ่งหนึ่งเมื่อผ่านไป 4 วัน รูปแบบของวิตามินซีที่ใช้ทาผิวหนังช่วยลดการอักเสบของผิวที่เกิดจากการทำลายโดยรังสีUV(sunburn) จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ฟื้นฟูผิวหนังให้แข็งแรง เหมาะในการใช้หลังจากการรักษาด้วยเลเซอร์ จากงานวิจัยของ Dr. Omar สู่การค้นพบครั้งสำคัญของโลกพัฒนาเป็น Topical liquid L-Ascorbic acid วิตามินซีรูปแบบชาญฉลาด ที่ร่างกายดูดซึมได้ดี ผลิตภัณฑ์ของ Phyto-C จะมี Topical L-Ascorbic Acid (Vitamin C) เป็นส่วนประกอบ ซึ่งเป็น Antioxidant ที่มีประสิทธิภาพประสิทธิภาพในการป้องกัน photo-aging จากแสงแดดและอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นดีขึ้น และช่วยลด sign of ageing อันได้แก่ ริ้วรอย และ hyperpigment วิตามินซี ของ Phyto-C อยู่ในรูปแบบ L-Ascorbic Acid ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกับที่ผิวสามารถดูดซึมและนำไปใช้เป็น Antioxidant ได้ โดยต้องมีความเข้มข้นที่สูง 15-20% และค่า PH ที่เหมาะสม (3.5)จากการค้นพบ topical liquid L-Ascorbic acid นี้ โดยบริษัท PhytoCeuticals, Inc ทำให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์อันโดดเด่นและทรงประสิทธิภาพต่างๆ ตามลำดับ ปี 1995 ค้นพบ Topical L-Ascorbic acid ในรูปแบบของของเหลว และพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับผิวหนังที่มีความคงตัวที่ความเข้มข้น ตั้งแต่ 5% ถึง 20% โดยไม่มีการใช้ preservative เพื่อเพิ่มความคงตัวได้แก่ ผลิตภัณฑ์ Serum Fifteen, Serum Twenty ปี 1997 ค้นพบผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของ Topical L-Ascorbic Acid (Vitamin C) และ Alpha Tocopherol (Vitamin E ) ในสารละลายที่เป็นน้ำ และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงมากกว่า วิตามิน ซี เดี่ยวๆที่มีความเข้มข้นเท่ากัน ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ E in C Serum ปี 2003 ค้นพบผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของ Topical L-Ascorbic Acid (Vitamin C), Alpha Tocopherol (Vitamin E ), Retinol (Vitamin A) และ Olive Leaf Extract ที่มีประโยชน์หลายด้าน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ( Antioxidant) สารต้านเชื้อแบคทีเรีย ( Anti-bacterial) สารต้านเชื้อไวรัส ( Anti-Viral) และ สารต้านการอักเสบ (Anti-inflammatory) ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ ACE Serum ปี 2011 จากการค้นพบการสกัดสารจากใบมะกอก โดยวิธีที่ไม่ใช้น้ำ ซึ่งได้รับการจดลิขสิทธิ์เลขที่ Patent # US 6,743,449 B2 ทำให้พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดการอักเสบของผิวหนังจาก rosacea, eczema และ psoriasis นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ SUPERHEALTM O-Live Serum, Gel, Lotion, Cream และ Mask และล่าสุดคือ ปี 2012 ค้นพบผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของ Topical L-Ascorbic Acid (Vitamin C) และ Selenium ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ อย่างมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันรังสี UV และลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งผิวหนัง ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ Selenium in C Serum ผลิตภัณฑ์ดาวเด่นของแบรนด์ Phyto-C Serum Fifteen และ Phyto-C Serum Twenty เป็น 2 ผลิตภัณฑ์ที่ได้มีการพิสูจน์การทางรักษาในระดับสูงสุดเกี่ยวกับวิตามินซี ที่สามารถใช้กับผิวได้อย่างปลอดภัยและให้ผลที่น่าพึงพอใจ ประกอบไปด้วย Topical L-Ascorbic acid ที่มีความคงตัวที่ความเข้มข้น 15% และ 20% โดยผลิตภัณฑ์จะมีการทำปฏิกิริยาต่อต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) พร้อมเสริมประสิทธิภาพด้วย Zince Sulfate และ Citrus Bioflavoaonoids ที่ช่วยเสริมการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ผลิตภัณฑ์นี้ เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว ทั้งยังช่วยป้องกันการทำลายผิวจากรังสี UVA/ UVB ต่อต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันกาเกิด Photo-ageing เสริมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยลดริ้วรอย และเสริมเร่งกระบวนการซ่อมแซมของเซลล์ผิวยับยั้งการสร้างเมลานิน ลดการเกิด hyperpigment วิธีใช้ : ทาบางๆ วันละครั้ง เฉพาะตอนเช้า จากนั้นตามด้วยการบำรุงผิวขั้นตอนต่อไปตามปกติ ขนาดสินค้า และราคา : Phyto-C Serum Fifteen 15 มล. ราคา 2,220 บาท Phyto-C Serum Twenty 15 มล. ราคา 2,770 บาท E in C Serum มีคุณสมบัติช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV เสริมสร้างการสร้าง collagen ช่วยลดริ้วรอย และเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว ส่วนประกอบที่สำคัญ คือ L-Ascorbic Acid ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ยอดเยี่ยม และได้รับรองจากงานวิจัยว่าเป็นรูปแบบที่ร่างกายนำไปใช้ประโยชน์ได้ โดย L-ascorbic acid (vitamin C) และ α-tocopherol (vitamin E) ต่างมีคุณสมบัติในการป้องกัน และลดการทำลายผิวจากรังสี UV ผลิตภัณฑ์นี้ เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว แม้ผิวบอบบางแพ้ง่าย ผลิตภัณฑ์ E in C Serum ซึ่งมีส่วนประกอบของ L-ascorbic acid และ α-tocopherol เป็นสูตรที่มีประสิทธิภาพสูงในการปกป้องผิวมากกว่าการใช้ Vitamin C หรือ Vitamin E เพียงอย่างเดียว โดยผลิตภัณฑ์ E in C Serum ได้รับการรับรองจากรางวัล Grant #1 R43- CA83538-01A1 โดยสถาบัน NCI สำหรับงานวิจัย "UV PHOTOPROTECTION BY COMBINATION TOPICAL ANTIOXIDANTS VITAMIN C AND VITAMIN E" วิธีใช้ : ทาบางๆ วันละครั้ง เฉพาะตอนเช้า จากนั้นตามด้วยการบำรุงผิวขั้นตอนต่อไปตามปกติ ขนาดสินค้า และราคา : E in C Serum 15 มล. ราคา 3,440 บาท PHYTO-C Call Center : 02 651 090

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ