กรุงเทพฯ--27 พ.ย.--อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ เมืองทองธานี กระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เตรียมลงทุนมูลค่านับแสนล้านบาทขึ้นคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่รับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ เจาะตลาดผู้เกษียณอายุหวังฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยให้คึกคัก นายอนันต์ กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่นแมเนจเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้เมืองทองธานีมีโครงการลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มูลค่านับแสนล้านบาท เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวประเภทผู้เกษียณอายุจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและกำลังซื้อค่อนข้างสูง สำหรับโครงการลงทุนของเมืองทองธานี ดำเนินการภายใต้ชื่อโครงการ "อิมแพ็คซิตี้" บนเนื้อที่ประมาณ 1,000 ไร่ มีลักษณะเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ในส่วนของเฟสแรก ได้ทำบันทึกข้อตกลงเบื้องต้น(เอ็มโอยู)กับกลุ่มเวิลด์ รีสอร์ซ พาร์ทเนอร์ จากประเทศสหรัฐอเมริกา ไปแล้วเมื่อเดือนสิงหาคม 2544 โดยจะนำเงินเข้ามาลงทุนจำนวน 70 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3,150 ล้านบาท เพื่อใช้ปรับปรุงและตกแต่งอาคารเลควิวส่วนที่เหลือ จำนวน 1,400 ยูนิต เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยระดับ 5 ดาว คาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการได้ในปีหน้า ส่วนเฟสสองขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อเข้ามาลงทุนที่พักอาศัยสำหรับผู้เกษียณอายุ โดยเจาะตลาดหลักที่ประเทศญี่ปุ่น ใช้เงินทุนประมาณ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 45,000 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย * โครงการเรสซิเดนเชียล ทาวเวอร์ จำนวน 30,000 ยูนิต * โรงแรมระดับ 5 ดาว จำนวน 350 ห้อง * เอ็นเตอร์เทนเมนต์ เซ็นเตอร์ พื้นที่ 30,000 ตารางเมตร * ศูนย์รวมร้านอาหารและภัตตาคารระดับโลก * อะควาเรียม พื้นที่ 10 ไร่ * โอเปร่า เฮ้าส์ ขนาด 3,000 ที่นั่ง * Business Park และ IT Hub พื้นที่ 10,000 ตารางเมตร * น้ำพุดนตรี * Theme Park ที่ได้รับการออกแบบเป็น Volcano Zone "โครงการอิมแพ็ค ซิตี้ จะสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยได้อย่างรวดเร็ว เพราะสามารถดึงเงินตราจากต่างประเทศได้จำนวนมาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวประเภทผู้เกษียณอายุจากประเทศญี่ปุ่น โดยมีแผนทางการตลาดในการขายแพ็ตเกจเพื่อให้ความสะดวกแก่ผู้อาศัยครอบครัวละ 10 ล้านบาท จากที่เป้าหมายวางไว้ 30,000 ครอบครับ ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมีรายรับต่อเนื่องจากการใช้จ่ายที่รัฐบาลญี่ปุ่นสนับสนุนอีกครอบครัวละ 200,000 บาทต่อเดือน จะทำให้มีเงินหมุนเวียนทั้งการจ้างงานและธุรกิจต่อเนื่องอีกจำนวนมาก"--จบ---นห-