รมว.พม. กำชับข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ทำงานเต็มที่วัดผลได้ ยึดประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด พร้อมให้เตรียมพร้อมรับมือภัยหนาวประชาชนกลุ่มเป้าหมาย

ข่าวทั่วไป Thursday November 12, 2015 15:31 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 พ.ย.--กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ วันนี้ (๑๑ พ.ย. ๕๘) เวลา ๐๘.๓๐ น. ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.) ครั้งที่๒๘๐/๒๕๕๗-๒๕๕๘ เพื่อรับทราบปัญหาทางสังคมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และร่วมหาแนวทางการแก้ไขและการป้องกันปัญหาดังกล่าว โดยมีผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานในกระทรวงฯ เข้าร่วมประชุม พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า จากการที่นายกรัฐมนตรี (พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา) เร่งรัดการทำงานของทุกหน่วยงานราชการ ตนได้กำชับข้าราชการและเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวง พม. ให้ปฏิบัติงานตามหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มความสามารถ และเห็นผลเป็นรูปธรรม สามารถประเมินผลการดำเนินงานได้อย่างชัดเจน โดยคำนึงประโยชน์สูงสุดของประชาชนกลุ่มเป้าหมาย พร้อมทั้งกำชับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมรับมือภัยหนาว โดยจัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยหนาว พร้อมทั้งเร่งสำรวจประชาชนในพื้นที่ที่ประสบภัยหนาว โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายของกระทรวงฯ ได้แก่ เด็ก คนชรา คนพิการ และผู้ด้อยโอกาสทางสังคม พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากกรณีเด็กหญิงวัย ๑๓ ปี ป่วยเป็นโรคมะเร็งที่ใบหน้า มีก้อนเนื้อขนาดใหญ่บวมปูดมาปิดดวงตาข้างขวาจนมองไม่เห็น เนื้อเยื่อเพดานปากเป็นรูกว้าง ทำให้พูดไม่ค่อยชัด ครอบครัวมีฐานะยากจน ไม่มีเงินรักษา ที่จังหวัดอุดรธานี ด้านแม่เปิดเผยว่าลูกสาวเป็นเด็กเรียนดีสอบได้ที่ ๑ ตลอด และกรณีเด็กชายวัย ๑๑ ปี ป่วยเป็นโรคเนื้องอกในสมอง โดนพ่อแม่ทอดทิ้งตั้งแต่อายุ ๒ ขวบ อาศัยอยู่กับยายที่แก่ชรา อายุ ๖๖ ปี ในบ้านสภาพเก่าทรุดโทรมใกล้ผุพัง ในวันหยุดจะไปช่วยเก็บผัก เก็บเศษไม้มาเผาถ่านขาย หาเงินซื้อข้าวประทังชีวิตไปวันๆ ที่จังหวัดกำแพงเพชร ตนได้กำชับ ให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พมจ.) ทั้ง ๒ จังหวัด ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจของกระทรวงฯ พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องการรักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่อง และดูแลเรื่องการปรับปรุงสภาพที่อยู่อาศัยในเหมาะสมและถูกสุขลักษณะ อีกกรณีหญิงสาว อายุ ๑๘ ปี นักศึกษาชั้นปีที่ ๑ มหาวิทยาลัย แห่งหนึ่งในจังหวัดอุตรดิตถ์ มีความประพฤติดี ตั้งใจเรียน มีความสามารถพิเศษหลายด้าน แต่ครอบครัวมีฐานะยากจน ต้องรับจ้างทำงานหนักเพื่อหาเงินในช่วงปิดเทอม แล้วเก็บสะสมไว้เป็นค่าเทอมส่งตัวเองเรียน เคยสอบติดพยาบาลถึง ๒ ครั้ง แต่ต้องสละสิทธิ์ เพราะครอบครัวไม่มีทุนทรัพย์ส่งเรียน ด้านแม่เปิดเผยว่าไม่อยากให้ลูกเรียนต่อเพราะไม่มีเงินส่งเสียค่าเทอม ตนขอขื่นชมในความขยันหมั่นเพียร มีความมานะพยายาม ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค น่ายกย่องเป็นตัวอย่างที่ดีแก่เยาวชน พร้อมทั้งกำชับให้เจ้าหน้าที่ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องการศึกษาของเด็กในระยะยาวต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ