DEMCO ย้ำฐานะแกร่ง! 9 เดือนแรกกำไรสุทธิ 7.87 ลบ. เดินหน้าประมูลงานภาครัฐ-เอกชน/ขยายการลงทุนในลาว งานเสาส่งสัญญาณจ่อไหลเข้าเพียบ! หลังรัฐเดินหน้าประมูลคลี่น 4 จี

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 17, 2015 12:37 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 พ.ย.--IR network บมจ.เด็มโก้ (DEMCO) ย้ำฐานะการเงินแกร่ง 9 เดือนแรกกำไรสุทธิ 7.78 ล้านบาท แม้ใน Q 3/58 ต้องบุ๊คค่าใช้จ่ายเพิ่ม 302 ล้านบาท จากการปรับปรุงเสากังหันลมโรงไฟฟ้า "พงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์" ยันไม่กระทบความสามารถในการแข่งขัน กระแสเงินสดในมือเพียบ! รับเงินปันผลจากห้วยบง 2 และ 3 ปีนี้กว่า 170 ล้านบาท ไม่นับรวมหุ้น WEH ที่ถืออยู่ในมือ 4.2 ล้านหุ้น ที่เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯปีหน้าตามแผน คิดเป็นมูลค่าเกือบ 2.3 พันล้านบาท ประกาศพร้อมเดินหน้าประมูลงานสายส่งสถานีไฟฟ้าภาครัฐ-เอกชน/เตรียมคว้างานเสาส่งสัญญาณ 4G อีกเพียบ ในช่วง 2 ปีข้างหน้า ส่วนโครงการประปาในลาวคาดเสร็จต้นปี"59 จ่อรับงานปรับปรุงระบบน้ำ-ระบบไฟฟ้าใต้ดินเพิ่ม นายพงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) (DEMCO) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 3/58 มีรายได้รวม 1,237.43 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 160.91 ล้านบาท เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 332 ล้านบาท จากการปรับปรุงฐานกังหันลม อย่างไรก็ตาม ในส่วนนี้ ผู้ว่าจ้างตกลงที่จะช่วยเหลือค่าใช้จ่าย 30 ล้านบาท ขณะที่ผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทมีรายได้รวม 3,420.22 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 7.87 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทฯได้ทำสัญญาก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมให้กับ บริษัท เฟิร์ส โคราช วินด์ จำกัด (FKW) และบริษัท เค.อาร์.ทู จำกัด (KR 2) หลังจากที่โครงการขายไฟฟ้าไปแล้วประมาณ 1 ปี (ปลายปี 2556) ผู้ว่าจ้างได้เข้าตรวจสอบ และมีการทบทวนปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการออกแบบฐานกังหัน โดยผู้ว่าจ้างได้จ้างที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมอิสระ ทำการสอบทานการออกแบบ พบว่า แบบที่ใช้ในการก่อสร้างพบว่าอาจมีผลต่อการใช้งานเสากังหันลมในระยะยาว ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยเห็นควรให้มีการปรับปรุง ในขั้นต้น บริษัทได้ประเมินค่าปรับปรุงเป็นเงิน 40 ล้านบาท ผู้ว่าจ้างตกลงที่จะช่วยเหลือค่าใช้จ่าย 30 ล้านบาท ในปี 2557 บริษัทฯและผู้ว่าจ้างได้จัดทำบันทึกข้อตกลงเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2557 โดยผู้ว่าจ้างตกลงรับมอบงานโครงการห้วยบง 2 และห้วยบง 3 แต่มีเงื่อนไขที่บริษัทจะต้องปรับปรุงฐานเสากังหัน ให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี หรือภายใน กุมภาพันธ์ 2559 ในปี 2557 บริษัทฯและผู้ออกแบบ ได้ร่วมกับผู้ว่าจ้างและที่ปรึกษาช่วยกันหาวิธีการปรับปรุง หากแต่ไม่ได้ข้อสรุปที่เหมาะสม ปี 2558 บริษัทฯได้ให้บริษัทวิศวกรที่ปรึกษาอิสระรายใหม่และผู้ว่าจ้างร่วมกันหาวิธีปรับปรุงที่เหมาะสม ในปัจจุบันผู้ว่าจ้าง ได้อนุมัติวิธีการปรับปรุงฐานเสากังหัน และอนุมัติแบบที่จะใช้ก่อสร้างปรับปรุงแล้วประมาณ 50% บริษัทฯได้ประเมินมูลค่าปรับปรุง 81 ฐาน เป็นเงินทั้งสิ้น 332.60 ล้านบาท บริษัทฯได้บันทึก ค่าปรับปรุงที่เกิดขึ้นในไตรมาส 3/58 จำนวน 39.73 ล้านบาท เมื่อหักเงินที่ผู้ว่าจ้างช่วยเหลือ 30 ล้านบาท จะเป็นประมาณการค่าใช้จ่ายที่บันทึกในไตรมาส 3/58 จำนวน 262.87 ล้านบาท (332.60-39.73-30.0 = 262.87 ล้านบาท) "แม้บริษัทจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 332 ล้านบาท ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการแข่งขันและการรับงานเสียไป และไม่กระทบกระแสเงินสดในการทำงานรับเหมา เนื่องจากได้มีการขอวงเงินกู้ระยะยาว 5 ปี ประมาณ 400 ล้านบาท เพื่อรองรับการปรับปรุง และจะทยอยคืนโดยเงินปันผลโครงการห้วยบง 2 และ 3 นอกจากนี้ DE Ratio ของบริษัทค่อนข้างต่ำ (ประมาณ 0.86 : 1) จึงไม่เป็นอุปสรรคต่อการขยายธุรกิจ"นายพงษ์ศักดิ์กล่าว สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจของ DEMCO ยังคงเดินหน้ารับงานจาก กฟผ.และกฟภ. ที่มีการประมูลอย่างต่อเนื่อง จากกลุ่มผู้ลงทุนด้านพลังงานทดแทน เช่น EA มูลค่าโครงการกว่า 1,500-2,900 ล้านบาท ระยะเวลาการก่อสร้าง 12-15 เดือน ปัจจุบันบริษัทมี backlog หลังรับรู้รายได้ไตรมาส 3/2558 จำนวน 7,800 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับประโยชน์อย่างมากจากการประมูลระบบ 4 จี อย่างน้อยในช่วง 2 ปีข้างหน้าคาดว่าจะมีงานเสาส่งสัญญาณสำหรับโรงงานอย่างต่อเนื่อง ขณะที่แผนการลงทุนของ DEMCO ยังคงขยายการพัฒนาธุรกิจในลาว โดยในส่วนของการลงทุนโครงการประปา ในลาวคาดว่าจะเสร็จในช่วงต้นปี 2559 จากนั้นจะมีโครงการปรับปรุงระบบจ่ายน้ำ และระบบไฟฟ้าใต้ดิน ส่วนธุรกิจโรงไฟฟ้าบริษัทยังคงร่วมกับพันธมิตร พัฒนาโรงไฟฟ้าขยะ โดยขณะนี้มีโครงการที่ศึกษาเพิ่มเติมจากเดิม เช่นที่ จังหวัดเพชรบุรี สำหรับกระแสเงินสดในการดำเนินงานของบริษัทฯ ยังคงได้รับเงินปันผลจากโครงการห้วยบง 2 และ ห้วยบง 3 อย่างต่อเนื่อง โดยปี 2558 รับมาแล้ว 130 ล้านบาท คาดว่าใน 2 เดือนข้างหน้าจะได้รับอีก 40 ล้านบาท นอกจากนี้ ในปี 2559 โครงการเขาค้อ จะเริ่มจ่ายไฟฟ้าในช่วงเดือนพ.ค.59 คาดว่าบริษัทจะได้รับเงินปันผลจากเข้าค้ออีกปีละ 40 ล้านบาท ขณะเดียวกันยังมีทรัพย์สินเป็นหุ้น WEH จำนวน 4.2 ล้านหุ้น หากอ้างอิงราคาที่มีการซื้อหุ้นดังกล่าวเมื่อเร็วๆนี้ ที่ราคา 550 บาท/หุ้น บริษัทก็จะมีทรัพย์สินที่มีมูลค่าประมาณ 2,300 ล้านบาท ทั้งนี้ WEH ยังเดินหน้าเตรียมตัวจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯตามแผน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ