โพลล์ระบุ ปชช. มากกว่าครึ่งเคยโพสรูปเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์บนเครือข่ายสังคมออนไลน์ มากกว่าครึ่งไม่ ทราบว่าอาจมีโทษเข้าข่ายโฆษณา แต่หนุนมาตรการห้ามขายบนออนไลน์

ข่าวทั่วไป Monday November 23, 2015 11:20 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 พ.ย.--สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ ศ. ดร.ศรีศักดิ์ จามรมาน ประธานกรรมการอาวุโส ,อาจารย์พรพิสุทธิ์ มงคลวนิช ประธานกรรมการ ,ดร.พิสิฐ พฤกษ์สถาพร กรรมการรองผู้อำนวยการ และอาจารย์วัฒนา บุญปริตร กรรมการรองผู้อำนวยการสำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ แถลงผลการสำรวจการสำรวจพฤติกรรมและความคิดเห็นของประชาชนทั่วไปในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลต่อการโพสรูปเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนเครือข่ายสังคมออนไลน์ ศ. ดร. ศรีศักดิ์กล่าวว่า ในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กระแสการโพสรูปเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนเครือข่ายสังคมออนไลน์ของดารานักร้องนักแสดงพิธีกรกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของผู้คนในสังคมอย่างกว้างขวางเนื่องจากเป็นการเข้าข่ายกระทำผิดพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ในมาตรา 32 เกี่ยวกับการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ประชาชนทั่วไปจึงให้ความสนใจและตื่นตัวเกี่ยวกับการโพสรูปบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ของตนที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปรากฏอยู่ ขณะเดียวกันนักวิชาการรวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ออกมาให้ความรู้เกี่ยวกับข้อห้ามในการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ซึ่งเป็นการผิดพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ดังนั้นจากประเด็นดังกล่าว สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์จึงได้ทำการสำรวจพฤติกรรมและความคิดเห็นของประชาชนทั่วไปในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลต่อการโพสรูปเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยได้ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 1 ถึง 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 ศ. ดร. ศรีศักดิ์กล่าวต่อว่า จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 1,170 คน ซึ่งกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงคิดเป็นร้อยละ 50.6 ขณะที่ร้อยละ 49.4 เป็นเพศชาย ส่วนใหญ่มีอายุเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 25 ถึง 34 ปีคิดเป็นร้อยละ 30.68 ทั้งนี้ในด้านพฤติกรรมการโพสรูปเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนเครือข่ายสังคมออนไลน์นั้น กลุ่มตัวอย่างมากกว่าครึ่งหนึ่งซึ่งคิดเป็นร้อยละ 57.44 ยอมรับว่าในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาตนเองเคยโพสรูปบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปรากฎอยู่ในรูป ขณะที่ร้อยละ 42.56 ไม่เคย ขณะเดียวกันกลุ่มตัวอย่างมากกว่าครึ่งหนึ่งซึ่งคิดเป็นร้อยละ 55.65 ระบุว่าตนเองนิยมโพสรูปที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พร้อมกับอาหารอย่างอื่นบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 16.67 ระบุว่าตนเองนิยมโพสรูปที่มีเฉพาะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพียงอย่างเดียว ส่วนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 27.68 ระบุว่านิยมโพสรูปทั้งสองแบบพอๆกัน นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างมากกว่าครึ่งหนึ่งซึ่งคิดเป็นร้อยละ 57.14 นิยมโพสรูปเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่บรรจุอยู่ในพาชนะทั่วไปบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ ขณะที่มีกลุ่มตัวอย่างไม่ถึงหนึ่งในห้าหรือคิดเป็นร้อยละ 18.6 นิยมโพสรูปเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่บรรจุอยู่ในพาชนะเฉพาะของผลิตภัณฑ์นั้นๆซึ่งมีชื่อตรา/สินค้า ส่วนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 24.26 นิยมโพสรูปทั้งสองแบบพอๆกัน อย่างไรก็ตามกลุ่มตัวอย่างมากกว่าครึ่งหนึ่งซึ่งคิดเป็นร้อยละ 56.1 ระบุว่าตนเองไม่เคยโพสรูปเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่เห็นชื่อ/ตราสินค้าของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นๆชัดเจน ขณะที่มีกลุ่มตัวอย่างประมาณหนึ่งในสี่หรือคิดเป็นร้อยละ 25.6 ยอมรับว่าเคย ส่วนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 18.3 ไม่แน่ใจ/จำไม่ได้ โดยในด้านความรับรู้ต่อการห้ามโพสรูปเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนเครือข่ายสังคมออนไลน์นั้น ศ.ดร. ศรีศักดิ์ระบุว่า กลุ่มตัวอย่างมากกว่าสองในสามหรือคิดเป็นร้อยละ 71.45 ยอมรับว่าตนเองไม่เคยทราบมาก่อนว่าการโพสรูปบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปรากฎอยู่อาจเข้าข่ายการทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ ขณะที่มีกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 28.55 ระบุว่าทราบ ในด้านความคิดเห็นต่อการโพสรูปเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนเครือข่ายสังคมออนไลน์ ในกรณีที่มีการโพสรูปเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนเครือข่ายสังคมออนไลน์เพื่อทำการโฆษณาชื่อ/ตราสินค้า กลุ่มตัวอย่างมากกว่าครึ่งหนึ่งซึ่งคิดเป็นร้อยละ 54.27 คิดว่าควรกำหนดบทลงโทษให้เจ้าของผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์หนักกว่าเจ้าของบัญชีเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่โพสรูป ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 27.44 ระบุว่าควรลงโทษให้หนักเท่าๆกัน ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 18.29 ระบุว่าควรลงโทษเจ้าของบัญชีเครือข่ายสังคมออนไลน์มากกว่า ขณะเดียวกันกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 60.09 มีความคิดเห็นว่าการห้ามให้ดารานักร้องนักแสดงนักกีฬาทำการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะมีส่วนช่วยกระตุ้นให้กลุ่มวัยรุ่นไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างมากกว่าครึ่งหนึ่งซึ่งคิดเป็นร้อยละ 52.56 เห็นด้วยที่จะมีการห้ามมิให้โพสรูปบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปรากฏอยู่ในทุกๆกรณี และกลุ่มตัวอย่างมากกว่าสามในสี่หรือคิดเป็นร้อยละ 76.32 เห็นด้วยที่มีการกำหนดห้ามมิให้มีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่านช่องทางร้านค้าออนไลน์ ศ.ดร. ศรีศักดิ์กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ