กรุงเทพฯ--26 พ.ย.--IR PLUS
"เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป" หรือ PLAT มั่นใจผลประกอบการบริษัทฯ เติบโตต่อเนื่องในโค้งสุดท้ายไตรมาส 4 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ เผยล่าสุด PLAT ถูกนำเข้าคำนวณดัชนี MSCI Global Small Cap Index โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ และคาดว่าจะติดโผถูกเข้าเพิ่มใน SET 100 ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งเป็นการตอกย้ำความแข็งแกร่งของบริษัท "ชาญชัย พันธุ์โสภา" กรรมการผู้จัดการใหญ่ไฟแรง พร้อมทีมผู้บริหารใหม่ เร่งขับเคลื่อนแผนโครงการต่างๆ เพื่อการเติบโตที่แข็งแกร่งและสร้างรายได้ในอนาคตอย่างมั่นคง ล่าสุดประกาศ!!! ตอกเสาเข็มโครงการเดอะ มาร์เก็ต บาย แพลทินัม ในเดือนธันวาคมนี้ มูลค่าการลงทุนเฟสแรก 5,800 ล้านบาท ส่วนโครงการ Bangkok Skyline เพื่ออำนวยความสะดวกดึงลูกค้าเข้าศูนย์ คาดแล้วเสร็จทั้งโครงการปลายปี 2559 ล่าสุดโชว์ผลงาน 9 เดือน กำไรพุ่ง 48% จากรายได้ค่าเช่าพื้นที่ และการเปิดโครงการพื้นที่ให้เช่าใหม่ โครงการเดอะ วอร์ฟ สมุย จ.สุราษฎร์ธานี ประกอบกับนักท่องเที่ยวต่างชาติมีความเชื่อมั่นต่อการท่องเที่ยวในย่านราชประสงค์ การท่องเที่ยวฟื้นตัวส่งผลดีต่อการจับจ่ายใช้สอย
นายชาญชัย พันธุ์โสภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ PLAT ผู้ประกอบธุรกิจด้านการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ เปิดเผยถึง แนวโน้มผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4/58 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 3/58 เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจการท่องเที่ยว ซึ่งจะมีชาวต่างชาติเข้าพักในโรงแรมย่านราชประสงค์ ประตูน้ำ เป็นจำนวนมาก รวมถึงการเข้าพักของโรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ แพลทินัม ซึ่งประมาณการอัตราเข้าพักในช่วงไฮซีซั่นสูงกว่า 90% พร้อมทั้งมีการต่อสัญญาผู้เช่าพื้นที่ศูนย์การค้าเดอะ แพลทินัม แฟชั่นมอลล์ ที่หมดสัญญาเช่า และมีการปรับเพิ่มค่าเช่าพื้นที่โดยเฉลี่ยร้อยละ 5-6 โดยภาพรวมการท่องเที่ยวในช่วงโค้งสุดท้ายของปีจะกลับมาคึกคัก รวมทั้งการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นจะส่งผลดีต่อรายได้ของบริษัทฯ เข้ามาเพิ่มขึ้นในช่วงโค้งสุดท้ายของปีและต่อเนื่องไปจนถึงต้นปีหน้า โดยล่าสุด PLAT ถูกนำเข้าคำนวณดัชนี MSCI Global Small Cap Index โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายนนี้
สำหรับความคืบหน้าแผนการลงทุนของบริษัทฯ ในโครงการต่างๆ ได้แก่ โครงการ Bangkok Skyline ซึ่งได้รับใบอนุญาตจากสำนักจราจรและขนส่งกรุงเทพมหานครแล้ว โดยจะเริ่มก่อสร้างเดือนธันวาคมนี้ เฟสแรกจากเดอะ แพลทินัม แฟชั่นมอลล์ ไปถึงโครงการเดอะ มาร์เก็ต คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือนเมษายน ปี 2559 และเฟสที่ 2 ตั้งแต่โครงการเดอะ มาร์เก็ต ถึงเกษรพลาซ่า คาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปี 2559 ซึ่งโครงการดังกล่าวจะช่วยให้เกิดการเชื่อมต่อระหว่างศูนย์การค้าและอำนวยความสะดวกสำหรับประชาชน
โครงการ เดอะ มาร์เก็ต บาย แพลทินัม มีความคืบหน้าล่าสุดจะมีการลงเสาเข็มเริ่มก่อสร้างในช่วงเดือนธันวาคม 2558 นี้ หลังจากมีการยื่นขอก่อสร้างตามมาตรา 39 ทวิ แทนการยื่นขอใบรับอนุญาตก่อสร้าง พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการและให้เช่าพื้นที่ช่วงต้นปี 2559 คาดว่าจะเปิดให้บริการในส่วนของศูนย์การค้าได้ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2561 นอกจากนี้ เดอะ มาร์เก็ต บาย แพลทินัม ได้ปรับแบบโครงการเพิ่มเติม คือ อาคารสำนักงาน พื้นที่ให้เช่า 30,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่บนโครงการ เดอะ มาร์เก็ต บาย แพลทินัม คาดว่าจะเปิดในช่วงไตรมาส 2 ปี 2564 โครงการดังกล่าวใช้เม็ดเงินลงทุน 1,935 ล้านบาท อีกทั้งจะมีการก่อสร้างโรงแรมมีห้องพัก 380 ห้อง ใช้เงินลงทุน 958 ล้านบาท คาดเปิดให้บริการช่วงไตรมาส 2 ปี 2564 ทั้งนี้ คาดว่าเม็ดเงินลงทุนในโครงการทั้งหมดจะอยู่ที่ประมาณ 10,000 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทฯ มีเงินสดในมือ 5,800 ล้านบาท สามารถนำกระแสเงินสดที่มีอยู่มาดำเนินการได้เลย และบางส่วนจะเป็นจากการกู้ยืม โดยโครงการจะใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 30 เดือน
"ที่ผ่านมาการเดินหน้าโครงการ เดอะ มาร์เก็ต บาย แพลทินัม ล่าช้าเนื่องจากมีปัญหาการขออนุญาตก่อสร้าง ติดปัญหาการเชื่อมต่อ แต่เราเปลี่ยนมาเป็นการยื่นขอก่อสร้างตามมาตรา 39 ทวิ แทนการยื่นขอใบรับอนุญาตก่อสร้าง ซึ่งจะทำให้โครงการเดินหน้าได้เร็วขึ้น และมั่นใจว่าโครงการเราสร้างอย่างแน่นอน โครงการตั้งอยู่บนพื้นที่ซีบีดี ในรอบรัศมี 5 ตารางกิโลเมตร มีประชากร 5 แสนครัวเรือน ประชากรล้านกว่าคน กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเราจะเป็นกลุ่มระดับ B ประมาณการคนเข้ามาช้อปปิ้ง 100,000 คนต่อวัน แบ่งเป็นกลุ่มลูกค้าคนไทย 70% และกลุ่มลูกค้าต่างชาติ 30%"นายชาญชัยกล่าว
สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯ และบริษัทย่อยงวดไตรมาส 3/2558 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจำนวน 158 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 122 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 36 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 29% โดยมีรายได้รวมจากการดำเนินงาน 431 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57 ล้านบาท หรือคิดเป็น 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งรายได้หลักยังคงมาจากรายได้ค่าเช่าและบริการ 251 ล้านบาท รายได้จากการประกอบกิจการโรงแรม 81 ล้านบาท และรายได้จากการขายอาหารและเครื่องดื่ม 55 ล้านบาท
ส่วนผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 2558 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 458 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 309 ล้านบาท โดยกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 149 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 48% โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,296 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 1,032 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 264 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
ปัจจุบัน โครงการเดอะ แพลทินัม แฟชั่นมอลล์ เป็นศูนย์ค้าส่งที่ใหญ่ที่สุดในย่านประตูน้ำ และเป็นศูนย์ผู้ค้าปลีกรายย่อยด้านแฟชั่นมากถึง 2,000 ร้านค้า และมีลูกค้าปีละไม่น้อยกว่า 10 ล้านคน หรือเฉลี่ย 30,000 คนต่อวัน ที่มาเดินช้อปปิ้งในศูนย์การค้า พื้นที่ทั้งหมด 113,363 ตารารางเมตร แบ่งเป็นพื้นที่ตึก 1 จำนวน 95,147 ตารางเมตร และพื้นที่ตึก 2 จำนวน 18,489 ตารางเมตร โดยรายได้หลักของบริษัทฯ มาจากธุรกิจพื้นที่ให้เช่า ข้อมูลล่าสุด ณ สิ้นเดือนกันยายน 2558 มีอัตราการเช่าพื้นที่มากถึง 98% ซึ่งอัตราค่าเช่าจะอยู่ที่ 2,914 บาท ต่อตารางเมตรต่อเดือน เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนราคาอยู่ที่ 2,738 บาท ต่อตารางเมตรต่อเดือน