ปภ.ประสาน 9 จังหวัดภาคใต้ เตรียมพร้อมรับมืออุทกภัย วาตภัย ดินถล่ม และคลื่นลมแรง ในช่วงวันที่ 25 – 28 พฤศจิกายน 2558

ข่าวทั่วไป Wednesday December 2, 2015 13:33 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 ธ.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประสานจังหวัด 9 จังหวัดภาคใต้ เตรียมพร้อมรับมืออุทกภัย วาตภัย และดินถล่มจากฝนตกหนัก รวมถึงคลื่นลมแรง ในช่วงวันที่ 25 – 28 พฤศจิกายน 2558 โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัย จัดชุดเคลื่อนที่เร็วและเครื่องมืออุปกรณ์ให้พร้อมเผชิญเหตุตลอด 24 ชั่วโมง กรณีสถานการณ์รุนแรง ให้ดำเนินการตามขั้นตอนในแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เพื่อประสานการอพยพและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที ?? นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในช่วงวันที่ 25 – 28 พฤศจิกายน 2558 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศไทยตอนบน ทำให้ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้บริเวณดังกล่าวจะมีฝนตกเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ คลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรง คลื่นสูง 2 – 3 เมตร ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประสาน 9 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 สุราษฎร์ธานี เขต 12สงขลา ซึ่งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมืออุทกภัย วาตภัย ดินถล่ม และคลื่นลมแรง โดยประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากภัยธรรมชาติ ในระยะ 3 – 4 วันนี้ ตรวจสอบท่อ ทางระบายน้ำในเขตเมืองมิให้มีสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำ รวมถึงตรวจสอบเขื่อน ฝาย อ่างเก็บน้ำ คันกั้นน้ำ และสถานที่ท่องที่ยวให้มีความมั่นคงแข็งแรง หากอยู่ในสภาพไม่ปลอดภัย ให้พิจารณาสั่งปิดชั่วคราว ตลอดจนจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศ เฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว และเครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย กรณีสถานการณ์รุนแรงได้เน้นย้ำให้ดำเนินการตามขั้นตอนของแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เพื่อประสานการช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที นายฉัตรชัย กล่าวต่อไปว่า ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย 9 จังหวัดภาคใต้ให้ติดตามพยากรณ์อากาศ และประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด รวมถึงหมั่นสังเกตสัญญาณความผิดปกติทางธรรมชาติ เช่น ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง น้ำในแม่น้ำ ลำคลอง ลำธารเปลี่ยนสีเป็นสีขุ่นข้นหรือสีเดียวกับสีดินภูเขา ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ป่าต้นน้ำมากกว่า 100 มม. ต่อวัน เป็นต้น จะได้อพยพหนีภัยได้ทันท่วงที ส่วนชาวเรือให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ ทั้งนี้ ประชาชนที่ประสบภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป 0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ