กรุงเทพฯ--21 มี.ค.--โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์ เวิลด์วายด์
วีลิ้งซ์ ผู้ให้บริการอี-คอมเมิร์ซ แห่งสหรัฐอเมริกา ประกาศผลการดำเนินงานปีแรกหลังจากเปิดตัวทั่วโลกประสบผลสำเร็จอย่างสูง ทั้งในด้านจำนวนซัพพลายเออร์สมาชิกที่เข้ามาใช้บริการและปริมาณการซื้อ-ขายสินค้าผ่านตลาดกลาง หรือ อี-มาร์เกตเพลสของวีลิ้งซ์ พร้อมรุกธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เปิดตัว 3 บริการใหม่ล่าสุด Instant Buy, Request for Product (RFP) และ VIP Room เพื่อรองรับการขยายตัวของการทำธุรกิจผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เพิ่มช่องทางการส่งออก และเสริมสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ส่งออกไทย และผู้ซื้อสินค้าในต่างประเทศ
มิส แชนนอน โบส ประธาน บริษัท วีลิ้งซ์ เอเชีย เปิดเผยว่า หลังจากเปิดตัวบริการอี-คอมเมิร์ซแบบ B2B D2D ในปีที่ผ่านมา มีซัพพลายเออร์กว่า 1,600 รายในเอเชียเข้ามาใช้บริการของวีลิ้งซ์ โดยมีประเทศจีนเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด ส่วนประเทศไทยก็เป็นตลาดที่สำคัญแห่งหนึ่ง โดยมีผู้ส่งออก ชั้นนำประมาณ 500 รายสมัครเป็นสมาชิก และใช้บริการซื้อขายสินค้า ผ่านเครือข่ายตลาดกลางทางอินเทอร์เน็ตของวีลิงซ์
มิส โบส กล่าวต่อว่า "หลังจากการเปิดตัววีลิ้งซ์เมื่อเดือนกรกฎาคม 2543 ที่ผ่านมา เราประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงในการดึงดูดให้ผู้ผลิต และผู้ส่งออกชั้นนำในเอเชียเข้ามาใช้บริการ ความสำเร็จ ดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่ผู้ผลิตในเอเชียมีต่อเครือข่ายและบริการชั้นนำของเรา นอกจากนี้ ยังสะท้อนให้เห็นว่าพาณิชย์ธุรกิจมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วในภูมิภาคนี้ ดังนั้น เราจึงมั่นใจว่าในปี 2545 จะมีผู้ผลิตในเอเชียถึง 3,000 รายที่ใช้บริการของเรา"
มิส โบส กล่าวต่อไปว่าการเติบโตของอี-คอมเมิร์ซในภูมิภาคนี้ เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมการขยายตัวของวีลิ้งซ์ โดยในระยะเวลา 8 เดือนที่ผ่านมา วีลิงซ์ได้ช่วยให้ลูกค้าประสบความสำเร็จในการ ซื้อ-ขายสินค้าทางอินเทอร์เน็ตเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะลูกค้าในประเทศจีน ไทย และมาเลเซีย ขณะนี้ผู้ค้าปลีกรายใหญ่หลายรายในเอเชียก็ได้เข้ามาใช้บริการของวีลิ้งซ์ หนึ่งในนั้น คือ วัตสัน ซึ่งเป็นผู้ค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของเอเชีย ซึ่งมีสาขากว่า 600 แห่งในประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ ไทย ฮ่องกง มาเก๊า จีน และไต้หวัน
ผู้บริหารจากวัตสันกล่าวว่า "ธุรกิจค้าปลีกเป็นธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว บริการของ วีลิ้งซ์ช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และทำให้เราสามารถเข้าถึงลูกค้าในภูมิภาคได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เครือข่ายและเทคโนโลยีที่ทันสมัยของวีลิ้งซ์ช่วยให้เราค้นหาผู้ผลิตและสินค้าที่มีคุณภาพได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ โดยที่เราไม่จำเป็นต้องลงทุนเพิ่มเติมในด้านไอที หรือบุคคลากร"
ด้วยการตอบรับที่ดี วีลิ้งซ์จึงได้พัฒนาบริการใหม่ 3 รายการ คือ Instant Buy, Request for Product (RFP) และ VIP Room ซึ่งบริการใหม่นี้จะส่งเสริมการพัฒนาตลาดกลางซื้อขายสินค้าในภูมิภาค ตลอดจนเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ และอำนวยความสะดวกให้กับผู้ส่งออกไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นางศุภราภรณ์ เปา ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย วีลิ้งซ์ กล่าวว่า "การที่อี-มาร์เก็ตเพลส หรือตลาดซื้อขายสินค้าทางอินเทอร์เน็ตในแบบ B2B จะประสบความสำเร็จได้นั้น ไม่ได้ขึ้นกับปริมาณการซื้อ-ขายสินค้าแต่เพียงอย่างเดียว ดังนั้น วีลิ้งซ์จึงได้พัฒนารูปแบบธุรกิจใหม่ คือ Buyer-centric โดยประกอบด้วย 3 บริการใหม่ที่ให้ความสะดวกกับผู้ซื้อสินค้า และเป็นการเพิ่มบริการพิเศษให้กับซัพพลายเออร์ ของเราได้เป็นอย่างดี เราเชื่อว่าบริการใหม่ทั้ง 3 อย่างจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างซัพพลายเออร์ที่อยู่ในเครือข่ายของเราทั้งหมด ตลอดจนเปิดโอกาสให้ซัพพลายเออร์ของเราขายสินค้าได้ในระยะยาว โดยไม่จำกัดเฉพาะการขายสินค้าคงคลังเหมือนในระยะแรกเท่านั้น นอกจากนี้ ยังเพิ่มประสิทธิภาพและความสะดวกให้กับผู้ซื้อ เพราะผู้ซื้อไม่ต้องผ่านขั้นตอนและกระบวนการต่างๆ รวมทั้งงานเอกสารจำนวนมากเหมือนการค้าแบบดั้งเดิมอีกด้วย"
บริการ Instant Buy (การสั่งซื้อทันที) เป็นบริการที่ให้ความสะดวกกับผู้ที่ต้องการซื้อสินค้าคงคลัง โดยที่เจ้าหน้าที่ของวีลิ้งซ์จะช่วยซัพพลายเออร์ในการจัดทำแคตาลอกรายการสินค้า จัดทำภาพประกอบ และรายละเอียดของสินค้า เพื่อนำขึ้นแสดงบนเว็บไซต์ของวีลิ้งซ์ ตลอดจนติดตามผลการซื้อ-ขายและการดำเนินการชำระเงิน
สินค้า 7 ประเภทที่ซื้อ-ขายผ่านทางบริการนี้ได้แก่ ของใช้ในบ้าน เครื่องประดับ อุปกรณ์กีฬา รองเท้า เครื่องหนัง ของเล่น และเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งสินค้าที่มีการนำเสนอบน Instant Buy นั้นมีพร้อมที่จะส่งมอบให้กับผู้ซื้อได้ทันที
บริการ Request for Product (การสั่งซื้อตามคำสั่ง) เป็นบริการที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ ผู้ซื้อสินค้าที่ต้องการสั่งซื้อสินค้าตามที่ตนต้องการจากเครือข่ายซัพพลายเออร์ของวีลิ้งซ์ โดยที่ผู้ซื้อสามารถกรอกรายละเอียดสินค้าที่ต้องการลงในแบบฟอร์มออนไลน์ จากนั้นระบบข้อมูลของวีลิ้งซ์จะค้นหาสินค้า และแจ้งผู้ผลิตที่สามารถผลิตสินค้าได้ตรงกับตามความต้องการมากที่สุดโดยอัตโนมัติ พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกให้ผู้ซื้อและผู้ผลิตติดต่อและตกลงราคากัน รวมทั้งดำเนินการด้านการจัดส่งสินค้าและการชำระเงิน บริการ RFP ทำให้ผู้ซื้อสินค้าสามารถค้นหาสินค้า และช่วยให้ผู้ผลิตไทยมีช่องทางใหม่ในการจำหน่ายสินค้าเป็นประจำได้
อีกหนึ่งบริการใหม่ คือ VIP Room (ห้องค้าวีไอพี) ซึ่งเป็นบริการพิเศษที่จะช่วยลดขั้นตอนและช่วยให้ผู้ผลิตสามารถติดต่อผู้ซื้อรายใหญ่ในต่างประเทศได้โดยตรง VIP Room เป็นบริการพิเศษที่ออกแบบให้สอดคล้องกับความต้องการ และกระบวนการจัดซื้อสินค้าของผู้ซื้อแต่ละรายมากที่สุด ระบบ ดังกล่าวช่วยให้ผู้ซื้อรายใหญ่สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของการจัดซื้อทางเครือข่ายภายใน องค์กร ซึ่งเพิ่มความโปร่งใสในการทำงานและประสิทธิภาพในการจัดซื้อสินค้าทั่วโลกได้เป็นอย่างดี
การจัดห้องค้าวีไอพีให้สอดคล้องกับกระบวนการจัดซื้อของผู้ซื้อ ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถนำเสนอสินค้าของตนไห้กับฝ่ายจัดซื้อของผู้ซื้อรายใหญ่ได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านขั้นตอนซับซ้อน ลูกค้ากลุ่ม เป้าหมายที่จะใช้บริการ VIP Room นี้ จะต้องเป็นบริษัทที่มีปริมาณการซื้อสินค้าไม่ต่ำกว่าปีละ 5 ล้านเหรียญสหรัฐ หนึ่งในผู้ซื้อผ่าน VIP Room ของวีลิ้งซ์ คือ วัตสัน ผู้ค้าปลีกรายใหญ่ของเอเชีย
นางศุภราภรณ์ กล่าวย้ำว่า "วัตสันเป็นหนึ่งในลูกค้ารายแรกๆ ที่ใช้บริการ VIP Room ของเรา เราเชื่อว่าจะมีผู้ซื้อรายใหญ่อีกหลายรายที่จะเข้ามาใช้บริการอีก และผู้ผลิตก็จะได้รับประโยชน์จากเครือข่ายที่กว้างขวางและเทคโนโลยีอันทันสมัยในการให้บริการด้านอี-คอมเมิร์ซของวีลิ้งซ์ได้เป็นอย่างดี"
วีลิ้งซ์.คอม อิงค์ เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจอี-คอมเมิร์ซรูปแบบใหม่ที่เปิดช่องทางสำหรับการทำการค้าระหว่างประเทศผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตแบบ B2B และ D2D ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา วีลิ้งซ์ ดำเนินธุรกิจโดยอาศัยโซลูชั่นที่ครบวงจรและพันธมิตร ทางธุรกิจของโครงการที่ล้วนแล้วแต่มีชื่อเสียงในระดับโลกในการให้บริการการค้าระหว่างประเทศกลุ่มพันธมิตรทางธุรกิจของวีลิ้งซ์ประกอบด้วย เฟดเอ็กซ์ (FedEx), ยูพีเอส, เอชเอสบีซี กรุ๊ป [เอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)
], ลอยด์ส (LLOYD'S), เอ็นเอ็นอาร์ [NNR Aircargo Service (USA) Inc.
], โออีซี (Overseas Express Consolidators), รอยัลแบงก์ออฟแคนาดา, เอสจีเอสออนไซต์ (SGSonSITE) ซึ่งเป็นแผนกหนึ่งของเอสจีเอส กรุ๊ป, Escros.com และ เวลส์ ฟาร์โก แอนด์ คอมปานี โซลูชั่นออนไลน์ของวีลิ้งซ์ให้ประโยชน์กับผู้ผลิต ผู้ซื้อ และลูกค้าขั้นสุดท้าย ด้วยการให้ ทั้งราคาที่ดีกว่า การเปิดตลาดให้กว้างสู่ระดับโลก และการทำการค้าอย่างสะดวกง่ายดาย วีลิ้งซ์ เป็นผู้ก่อตั้ง Forum of Trust กลุ่มธุรกิจที่มุ่งมั่นสร้างความเชื่อมั่นในการทำธุรกิจอี-คอมเมิร์ซแบบ B2B โดยให้การรับรองแก่ผู้ขายผ่านทางเอสจีเอสออนไซต์ (SGSonSITE)
บริษัทมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ซานฟรานซิสโก และแวนคูเวอร์ พร้อมด้วยสำนักงานสาขาใน ลอสแองเจลิส ออร์ลันโด ดัลลัส กัวลาลัมเปอร์ ปักกิ่ง โตเกียว และกรุงเทพฯ สำหรับในประเทศไทย สามารถติดต่อวีลิ้งซ์ได้ที่ โทร. 654-0552-5 หรือ www.vlinx.com
แถลงข่าวในนาม : วีลิ้งซ์.คอม อิงค์ รายละเอียดเพิ่มเติม
: รมมุก เพียจันทร์ / วาริท จรัณยานนท์
บริษัท โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์ เวิลด์วายด์ จำกัด
โทร. 632-8300-7
อี-เมล์ : rommuk.piachan@ogilvy.com
varit.charanyanond@ogilvy.com-- จบ--
-อน-