เกษตรฯ หนุนสถาบันการศึกษาร่วมพัฒนาภาคเกษตรประเทศ ยกงานเกษตรกำแพงแสนหนึ่งกิจกรรมเด่นของปีขยายผลงานวิชาการสู่เกษตรกร

ข่าวทั่วไป Friday December 4, 2015 18:16 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--4 ธ.ค.--สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พลเอก ปัฐมพงศ์ ประถมภัฏ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดงานเกษตรกำแพงแสน ครั้งที่ 19 ประจำปี 2558 ภายใต้คำขวัญ "ตามรอยพระยุคลบาท เกษตรศาสตร์กำแพงแสน" ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-10 ธันวาคม 2558 ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ว่า การจัดงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้ทางด้านวิชาการ ผลงานวิจัย การบนริการวิชาการให้แก่เกษตรกร นักเรียน นิสิต และประชาชนทั่วไป รวมทั้งชุมชนระดับตำบล อำเภอ และจังหวัด ซึ่งภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ การสัมมนาวิชาการ การแข่งขัน การให้ความรู้ การอบรม สาธิต การจัดแสดงผลงานและนวัตกรรมทางด้านการเกษตรที่น่าสนใจ ครอบคลุมทั้งด้านพืช ประมง ปศุสัตว์ และเทคโนโลยี เครื่องจักรกลทางการเกษตร ที่สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงเกษตรฯ และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ ที่แบ่งการทำงานออกเป็น 3 ระยะ คือ ระยะเร่งด่วน ในการเร่งรัดดำเนินการลดต้นทุนการผลิต จัดทำฐานข้อมูลเกษตรกร ที่ครอบคลุม สามารถนำไปใช้ในการแก้ไขปัญหาได้ รวมถึงสนับสนุนเกษตรอินทรีย์ ระยะต่อเนื่อง มุ่งเผยแพร่พระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้านการเกษตร ทำการเกษตรให้เหมาะสมกับพื้นที่ ผลิตสินค้าเกษตรให้ได้คุณภาพ และ ระยะยั่งยืน ด้านการสนับสนุนโครงการในพระราชดำริ สนับสนุนงานวิจัยในทุกแผนงาน/โครงการ การจัดทำ Zoning สร้างระบบสหกรณ์ให้เข้มแข็ง ทั้งนี้ นอกจากการเปิดงานเกษตรกำแพงแสนแล้ว ยังได้เปิดงานวันสุกรแห่งชาติ ครั้งที่ 9 และงานมหกรรมแทรกเตอร์และจักรกลการเกษตรไทย 2558 ณ ภาควิชาเกษตรกลวิธาน คณะเกษตร กำแพงแสน ซึ่งมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมายที่มีส่วนช่วยในการพัฒนาศักยภาพภาคเกษตร ของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเครื่องจักรกลเกษตรที่เหมาะสม ในการผลิตพืชต่างๆ การสาธิต เครื่องจักรกลเกษตรให้แก่เกษตรกร ระบบการปลูกพืชที่ใช้เทคโนโลยีควบคุมอัตโนมัติ ซึ่งทุกกิจกรรมสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ที่จะลดต้นทุน การทำนาข้าว ด้วยเครื่องจักรกลเกษตร และเทคโนโลยี ซึ่งอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลเกษตรไทย มีคุณภาพดี เป็นที่ยอมรับ ของประเทศเพื่อนบ้าน ในการเข้าสู่ ประชาคมอาเซียน รวมถึงประเทศในกลุ่มอาฟริกา และมีศักยภาพในการแข่งขัน ในระดับสากลได้ นับเป็นสินค้าไทยที่รัฐต้องให้การสนับสนุนต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ