รมว.พม. ชี้ไม่เหมาะสมและเข้าข่ายผิดกฎหมาย หากคาร์แคร์จัดโปรโมชั่นพิเศษล้างรถแลกทำกิจกรรม กับพริตตี้ พร้อมเตือนคนในครอบครัวดูแลเด็กและผู้สูงอายุอย่างใกล้ชิด ป้องกันการถูกล่วงละเมิดทางเพศ

ข่าวทั่วไป Monday December 7, 2015 12:09 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--7 ธ.ค.--กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ วันนี้ (๓๐ พ.ย. ๕๘) เวลา ๐๙.๐๐ น. ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.) ครั้งที่๒๙๓/๒๕๕๗-๒๕๕๘ เพื่อรับทราบปัญหาทางสังคมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และร่วมหาแนวทางการแก้ไขและการป้องกันปัญหาดังกล่าว โดยมีผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานในกระทรวงฯ เข้าร่วมประชุม พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า จากกรณีที่มีสื่อมวลชนสนใจเรื่องร้านคาร์แคร์แห่งหนึ่งในพื้นที่กรุงเทพฯ จัดโปรโมชั่นพิเศษล้างรถหลายครั้งแล้ว ได้รับประทานอาหารและทำกิจกรรมร่วมกับพริตตี้ของร้านนั้น ในฐานะที่กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ มีภารกิจหลักในการดูแล พิทักษ์ และคุ้มครองสิทธิด้านสตรี โดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว(สค.) ได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า ร้านดังกล่าวได้ปิดให้บริการแล้ว ทั้งนี้ หากสถานประกอบการใดมีแนวคิดในลักษณะดังกล่าว นับว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม อีกทั้งเป็นการประกอบธุรกิจที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย สำหรับกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมคนร้ายเป็นชาย อายุ ๓๑ ปี ก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเรา ด.ญ. อายุ ๑๒ ปี ภายหลังเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพะเยา พร้อมญาติได้พาเด็กหญิงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ที่จังหวัดพะเยา และกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ จับกุมชาย อายุ ๔๕ ปี ก่อเหตุทำร้ายร่างกายก่อนข่มขืนกระทำชำเรา หญิงชรา อายุ ๗๖ ปี ภายหลังพบว่าคนร้ายเป็นเพื่อนลูกชายของผู้เสียหาย โดยคาดว่าเกิดจากอาการเมาสุรา ที่จังหวัดขอนแก่น ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพะเยา (พมจ.พะเยา) และจังหวัดขอนแก่น (พมจ.ขอนแก่น) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจของกระทรวงฯ พร้อมทั้งเร่งเยียวยาสภาพจิตใจผู้เสียหายที่เป็นเด็กและผู้สูงอายุอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม ทั้งสองกรณีนับว่าเป็นปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศที่ผู้เสียหายเป็นเด็กและผู้สูงอายุ ดังนั้นสมาชิกในครอบครัวควรดูแลเด็กและผู้สูงอายุอย่างใกล้ชิด ไม่ควรปล่อยให้เด็กและผู้สูงอายุอยู่ตามลำพัง เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวขึ้นอีก "สำหรับกรณีที่ทหาร ตำรวจ สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดระยอง ตรวจจับแรงงานต่างด้าวภายในโรงงานงานแห่งหนึ่ง พบว่ามีแรงงานต่างด้าวจำนวน ๔๖ คน ไม่มีใบอนุญาตการทำงาน ซึ่งมีแรงงานเด็กรวมอยู่ด้วยจำนวน ๑๔ คน แบ่งเป็น หญิง ๑๒ คน ชาย ๒ คน ตนได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามกรณีดังกล่าวอย่างใกล้ชิดและตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ด้วยหรือไม่ ซึ่งหากมีการคัดแยกแล้วพบว่ามีผู้เสียหายจาการค้ามนุษย์จะได้ดำเนินการคุ้มครองและดูแลงตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ต่อไป" พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวในตอนท้าย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ