กรุงเทพฯ--8 ธ.ค.--ดีซี คอนซัลแทนส์ แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง คอมมูนิเคชั่นส์
TAQA Award 2015 มุ่งยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย 7 ค่ายรถดัง 6 ผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่องคว้ารางวัลขวัญใจมหาชน
ค่ายรถดังพร้อม 6 ผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่อง ตบเท้ารับรางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยม ประจำปี 2558 หรือ Thailand Automotive Quality Award 2015 (TAQA) ตอกย้ำความเป็นผู้นำจากเสียงโหวตของผู้ใช้รถตัวจริงทั่วประเทศ สะท้อนความต้องการเชิงคุณภาพและความคุ้มค่า ด้วยการวัดความพึงพอใจรอบด้านครอบคลุมทั้งประสิทธิภาพรถยนต์ งานขาย ภาพลักษณ์แบรนด์ และบริการหลังการขาย ภายในงานประกาศผลรางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยมปีนี้ ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 14 ได้รับเกียรติจาก ดร.อรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานมอบรางวัล ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยคณะผู้จัดงานแสดงความมุ่งหวังว่า รางวัลดังกล่าวซึ่งวัดผลจากการทำวิจัยสำรวจความพึงพอใจของกลุ่มตัวอย่างผู้ใช้รถทั่วประเทศ จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในแง่ของการตัดสินใจซื้อ รวมถึงต่อค่ายรถผู้ผลิตต่างๆ ที่สามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปพัฒนาต่อยอด เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาได้ตรงจุดยิ่งขึ้น ซึ่งช่วยยกระดับและเสริมสร้างศักยภาพอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยโดยรวมให้แข็งแกร่งและก้าวหน้าในระดับสากลต่อไป
นายสุกิจ ตันสกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คัสต้อม เอเซีย จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยตลาดด้านยานยนต์มากว่า 30 ปี เปิดเผยว่า สถานการณ์อุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศปีนี้ถือว่ายังค่อนข้างซบเซา เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจไทยยังชะลอตัว ประกอบกับหนี้ในภาคครัวเรือนยังคงอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ธนาคารเพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น แต่ในช่วงไตรมาส 4 คาดว่าตลาดจะขยายตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นฤดูกาลขายรถซึ่งแต่ละค่ายจะแข่งขันกันออกกิจกรรมส่งเสริมการขาย ถือเป็นโอกาสดีสำหรับผู้บริโภคซึ่งมีทางเลือกมากขึ้น สามารถได้รถคุณภาพที่ถูกใจภายใต้งบประมาณที่ตั้งไว้
ผลสำรวจ TAQA Award 2015 ทางบริษัทได้ทำการสำรวจและวิจัยความพึงพอใจต่อผลิตภัณฑ์ การบริการ และภาพลักษณ์ของบริษัทรถยี่ห้อต่างๆ จากประสบการณ์ของผู้บริโภคผู้ใช้รถตัวจริงมากกว่า 5,900 ราย
ทั่วประเทศ โดยผลสำรวจชี้ให้เห็นว่า สัดส่วนอายุของผู้ซื้อรถส่วนใหญ่จะมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 31-40 ปี รายได้ต่อครัวเรือนโดยเฉลี่ย 60,000 บาท และมีรายได้เฉลี่ยต่อบุคคลอยู่ที่ 35,000 บาทต่อเดือน สิ่งที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อรถ โดยผู้บริโภคตัดสินใจจากรูปลักษณ์และสมรรถะของเครื่องยนต์ ยี่ห้อ บริการหลังการขาย รวมไปถึงความคุ้มค่าด้านราคาปีนี้ "โตโยต้า" สามารถกวาดรางวัลมากถึง 7 รางวัล ยังสามารถครองใจผู้ใช้รถด้วยรางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยมด้านการขาย (ประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ขนาด 1 ตัน) และรางวัลธุรกิจ
ยานยนต์ยอดนิยมด้านบริการหลังการขาย (ประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ขนาด 1 ตัน) รวมไปถึงรางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยมด้านคุณภาพแรกใช้ผลิตภัณฑ์ ในด้านรถกระบะดัดแปลงอเนกประสงค์ (Totoya Fortuner) รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ขนาด 1 ตัน แบบ 4 ประตู (Toyota Vigo) รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ขนาด 1 ตัน แบบกระบะตอนครึ่ง 2 ประตู (Toyota Vigo)
ด้าน "ฮอนด้า" ก็ไม่น้อยหน้า รับไปถึง 5 รางวัล โดยรางวัลที่ได้รับ ได้แก่ รางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยมด้านคุณภาพแรกใช้ผลิตภัณฑ์ ประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคล-อีโคคาร์ (Honda Brio Amaze) รถยนต์นั่งส่วนบุคคลขนาดเล็ก (Honda City) รถยนต์นั่งส่วนบุคคลขนาดกลางเล็ก (Honda Civic) รถยนต์นั่งส่วนบุคคลขนาดกลาง (Honda Accord) รวมไปถึงรางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยมด้านภาพลักษณ์ดีเด่น ด้านยี่ห้อน่าเชื่อถือได้
ขณะที่ "มาสด้า" คว้า 3 รางวัล คือ รางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยมด้านคุณภาพแรกใช้ผลิตภัณฑ์ สำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล-ซิทีคาร์ (Mazda Mazda 2) และรางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยมด้านภาพลักษณ์ดีเด่นใน 2 ประเภท ได้แก่ กลุ่มสร้างสรรค์นวัตกรรมและขับขี่สนุก ด้าน "ฟอร์ด" ได้รับ 2 รางวัล คือรางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยมด้านคุณภาพแรกใช้ผลิตภัณฑ์ ประเภทรถยนต์อเนกประสงค์สมรรถนะสูงขนาดเล็ก (Ford Eco Sport) และรางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยมด้านภาพลักษณ์ดีเด่น ในหมวดการควบคุมการขับขี่ได้ดี
ส่วน "เมอร์เซเดส-เบนซ์" ได้รับรางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยมด้านภาพลักษณ์ดีเด่น ประเภทความปลอดภัยสูง สำหรับ "บีเอ็มดับเบิลยู" คว้ามาได้ 2 รางวัล ได้แก่ รางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยมด้านภาพลักษณ์ดีเด่น ในหมวดรูปลักษณ์ดึงดูดใจ และเทคโนโลยีระดับสูง รวมไปถึง "อีซูซุ" คว้ารางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยมด้านภาพลักษณ์ดีเด่น ประเภทคุ้มค่าเงิน
สำหรับรางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยม ด้านผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่องกับรถยนต์ "ปตท." กวาดไป 2 รางวัลในประเภทสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงและน้ำมันเชื้อเพลิง ส่วน "เชลล์" ได้รับรางวัลด้านน้ำมันหล่อลื่น ขณะที่รางวัลด้านยางรถยนต์ตกเป็นของ "บริดจ์สโตน" รางวัลในหมวดฟิล์มกรองแสงเป็นของ "ลามิน่า" รางวัลด้านแบตเตอรี่รถยนต์ ได้แก่ "3เค" และรางวัลประเภทรถจักรยานยนต์ตกเป็นของ "เอ.พี.ฮอนด้า"
โดยในปีนี้ "เอ.พี.ฮอนด้า ยังได้รับการเชิดชูเกียรติด้วยการรับมอบรางวัล TAQA Excellence Award 2011 – 2015 ที่จะมอบให้กับผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลต่อเนื่อง 5 ปีซ้อนอีกด้วย
ด้าน ดร.อรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ทิศทางอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในปีหน้ามีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจปีหน้าที่คาดว่าอยู่ระหว่าง 3-4% โดยนโยบายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษในรูปแบบคลัสเตอร์สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนใน 7 จังหวัดที่รัฐบาลให้การสนับสนุนนั้น เชื่อว่าน่าจะมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในอนาคตเป็นอย่างมาก เนื่องจากจะสามารถดึงดูดนักลงทุนชาวไทยและต่างชาติ ด้วยสิทธิประโยชน์ด้านการยกเว้นและลดหย่อนภาษีของสำนักงานส่งเสริมการลงทุน อีกทั้งยังจะช่วยกระจายความเจริญไปสู่ท้องถิ่น สร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอีกด้วย
เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์โดย
บริษัท ดีซี คอนซัลแทนส์ แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด
ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน / ชลธิชา แนวมาลี / ไพฑูรย์ แซ่ฮ่อ/ ภานุวัฒน์ สาสนัส
โทรศัพท์ 0-2610-2380 / 2386 / 2316