รมว.พม. ชื่นชมหน่วยงาน พม. ได้รับรางวัลชมเชยองค์กรโปร่งใส ย้ำเจ้าหน้าที่ทำงานด้วยหลักธรรมาภิบาลพร้อมแนะทุกครอบครัวไม่ควรใช้ความรุนแรงแก้ปัญหา

ข่าวทั่วไป Wednesday December 9, 2015 17:52 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 ธ.ค.--กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ วันนี้ (๘ ธ.ค. ๕๘) เวลา ๐๘.๐๐ น. ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.) ครั้งที่ ๒๙๘/๒๕๕๗-๒๕๕๘ เพื่อรับทราบปัญหาทางสังคมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และร่วมหาแนวทางการแก้ไขและการป้องกันปัญหาดังกล่าว โดยมีผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานในกระทรวงฯ เข้าร่วมประชุม พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ โดยสำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้รับรางวัลชมเชยองค์กรโปร่งใส จากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จากโครงการมอบรางวัลองค์กรโปร่งใส ครั้งที่ ๕ (NACC Integrity Awards) ซึ่งเป็นกิจกรรมการมอบรางวัลเกียรติยศแห่งคุณธรรม จริยธรรม และความซื่อสัตย์สุจริต มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับความโปร่งใสของประเทศไทย สร้างขวัญกำลังใจ และยกย่องเชิดชูหน่วยงาน องค์กร สถาบัน ทั้งภาครัฐ วิสาหกิจ เอกชน และนิติบุคคลอื่นๆ ให้เป็นแบบอย่างที่ดี ตลอดจนเพื่อเป็นการสร้างกระแสให้สังคมเกิดค่านิยมส่งเสริมการบริหารจัดการด้วยหลักธรรมาภิบาล มีจรรยาบรรณในวิชาชีพ และรับผิดชอบต่อสังคม โดยหน่วยงาน องค์กร สถาบัน ที่ผ่านการคัดเลือกแล้ว จะได้รับโล่รางวัลองค์กรโปร่งใส เกียรติยศแห่งคุณธรรม จริยธรรม และความซื่อตรง (NACC Integrity Awards) เพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติให้เป็นที่ประจักษ์แก่สังคม รางวัลดังกล่าวนับเป็นรางวัลเชิดชูเกียรติแก่กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ในการทุ่มเทพลังกายพลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความโปร่งใส คำนึงถึงคุณธรรม จริยธรรม และความซื่อสัตย์สุจริต อันเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับองค์กรและสถาบันอื่นๆ และขอให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ปฏิบัติงานตามภารกิจของกระทรวงฯ ด้วยการยึดหลักธรรมาภิบาล เน้นความโปร่งใส เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนต่อไป พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อไป จากกรณีชาย อายุ ๔๒ ปี หึงหวงภรรยาอายุ ๒๘ ปี ที่มีอาชีพเป็นร่างทรงและหมอดู และทะเลาะกันอย่างรุนแรง จึงใช้มีดแทงภรรยาจนเสียชีวิต ก่อนจะใช้มีดแทงตัวเองแล้วกอดศพภรรยา เสียชีวิตด้วยกันทั้งคู่ ต่อหน้าลูกน้อย ๒ คน เป็นเด็กชายอายุ ๗ ขวบ และเด็กผู้หญิงอายุ ๕ ขวบ ที่จังหวัดปทุมธานี ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปทุมธานี (พมจ.ปทุมธานี) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และเร่งช่วยเหลือเยียวยาสภาพจิตใจเด็กทั้งสองคนตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวนับเป็นการใช้ความรุนแรงในครอบครัว และส่งผลกระทบต่อเด็กทั้งด้านจิตใจและการใช้ชีวิตประจำวันที่ต้องสูญเสียพ่อและแม่ ดังนั้นขอให้ทุกครอบครัวหยุดใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา ควรพูดคุยทำความความเข้าใจกันด้วยเหตุผล เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวขึ้นอีก "สำหรับกรณีหญิง อายุ๕๙ ปี ต้องรับภาระเลี้ยงดูผู้สูงอายุ และผู้พิการรวม ๕ คน ได้แก่ พ่อ-แม่ ที่อยู่ในวัยชรา สามีป่วยเป็นโรคต้อหินจนตาบอดทั้งสองข้าง น้องชายคนโต เป็นอัมพาตมา ๓ ปี และน้องชายคนสุดท้องมีสติไม่สมประกอบ ครอบครัวมีฐานะยากจน ที่จังหวัดนครราชสีมา และกรณีชายชรา อายุ ๖๔ ปี ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ ต้องรับภาระเลี้ยงดูลูกชายพิการ อายุ ๓๔ ปี เป็นโปลิโอ แขนขาลีบตั้งแต่กำเนิด ครอบครัวมีฐานะยากจน ที่จังหวัดนครศรีธีรรมราชนั้น ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครราชสีมา (พมจ.นครราชสีมา) และ พมจ.นครศรีธีรรมราช ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และเร่งช่วยเหลือทั้งสองครอบครัวตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ" พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวในตอนท้าย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ