ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยปี 59 พร้อมเติบโตด้วยคุณภาพ สร้าง S-Curve ใหม่ เพิ่มความหลากหลายและเป็นสากล

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday December 17, 2015 15:39 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 ธ.ค.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกาศกลยุทธ์หลักในปี 2559 มุ่งขยายฐานและพัฒนาคุณภาพบริษัทจดทะเบียนสู่ความยั่งยืน สนับสนุนทิศการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศตามนโยบายรัฐบาล เพื่อให้ภาคเอกชนทั้งบริษัทขนาดกลางและเล็ก (SME) และธุรกิจที่มีศักยภาพเข้าถึงแหล่งเงินทุนในตลาดทุน สร้างจุดเริ่มต้นใหม่ของการเติบโตในตลาดทุนไทย (New S-Curve) มุ่งเพิ่มสินค้าใหม่ที่หลากหลายและโอกาสการระดมทุนของบริษัทต่างชาติ สร้างฐานผู้ลงทุนสถาบันในประเทศให้แข็งแรง ขยายฐานผู้ลงทุนบุคคล รวมถึงส่งเสริมคุณภาพบริษัทจดทะเบียนให้ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental, Social, Governance: ESG) อย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งสู่การเติบโตที่มั่นคงยั่งยืน ปี 2558 ตลาดหลักทรัพย์ฯ แสดงศักยภาพที่โดดเด่นในระดับภูมิภาคอย่างต่อเนื่องทั้งด้านธุรกิจและด้านคุณภาพ ได้แก่ 1) มูลค่าซื้อขายหุ้นเฉลี่ยต่อวันสูงสุดในอาเซียนต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 อยู่ที่ 44,527 ล้านบาท (หรือ 1.24 พันล้านเหรียญสหรัฐ) (ข้อมูล ณ สิ้น 16 ธ.ค. 58) 2) มูลค่าตลาดรวมของหลักทรัพย์ที่เข้าจดทะเบียนใหม่ จนถึงสิ้นปี 2558 อยู่ที่ 2.97 แสนล้านบาท จาก 42 หลักทรัพย์ 3) จัดให้มีรายชื่อหุ้นยั่งยืน Thailand Sustainability Investment (THSI) 51 บริษัทจดทะเบียน 4) ผลักดันบริษัทจดทะเบียนไทยให้ได้รับคัดเลือกเป็นองค์ประกอบในดัชนี Dow Jones Sustainability Index (DJSI) 13 แห่ง มากที่สุดในอาเซียน 5) ยกระดับบรรษัทภิบาล (Corporate Governance) ของไทยส่งผลให้ บจ.ไทยได้คะแนน ASEAN CG Scorecard สูงสุดในภูมิภาค 6) ประสบความสำเร็จในการรวมศูนย์ซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าระหว่างตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) กับตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) ดร. ชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า "การมุ่งสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน เป็นทิศทางที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังคงให้ความสำคัญและจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องในปี 2559 เพื่อมุ่งสู่ความเป็น Sustainable Stock Exchange (SSE) ตามกรอบการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ พร้อมที่จะเติบโตควบคู่กับแนวนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐบาลและส่งเสริมความรู้ทางการเงินให้กับประชากรไทย รวมถึงผลักดันบริษัทขนาดกลางและเล็ก และธุรกิจในครอบครัวให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อให้กิจการเหล่านี้สามารถสร้างประโยชน์ให้กับเศรษฐกิจและสังคมได้อย่างยั่งยืน ทั้งนี้ แนวทางที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ มุ่งเน้นจะพัฒนาต่อไปนั้นจะมีความทันสมัย เป็นสากล ครบทุกมิติทั้งความลึก ความกว้าง และคุณภาพ เพื่อตอบสนองผู้มีส่วนได้เสียในตลาดทุน สังคม และประเทศชาติ" นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวถึงแผนกลยุทธ์ในปี 2559 ว่า "ในปีหน้าตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมุ่งเติบโตควบคู่กับการพัฒนาเชิงคุณภาพ โดยเห็นว่าทิศทางการลงทุนในปีหน้ามีโอกาสเติบโตขึ้นตามการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยว่าจะเติบโตมากกว่าปีนี้ ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องการสนับสนุนทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐบาล จึงพร้อมส่งเสริมและสร้างความแข็งแกร่งให้กับ SME รวมถึงการสร้างฐานผู้ลงทุนสถาบันในประเทศให้แข็งแรงอีกด้วย เพื่อสร้าง New S-Curve ในธุรกิจใหม่ๆ ให้กับตลาดทุนไทย ขณะเดียวกันยังคงเดินหน้าพัฒนาคุณภาพของบริษัทจดทะเบียนไทย ขยายเครื่องมือและบริการด้านการลงทุนให้มีความหลากหลาย และเพิ่มสภาพคล่องให้กับผู้ลงทุน เพื่อสร้างตลาดทุนไทยให้มีคุณภาพทัดเทียมสากล" ในปี 2559 ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงวางกลยุทธ์หลักเพื่อนำไปสู่ S-Curve ใหม่ ในปีหน้า 6 ด้าน ได้แก่ขยายฐานและพัฒนาคุณภาพบริษัทจดทะเบียนรวมถึงสร้างความแข็งแกร่งให้ SME โดยตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าตามราคาตลาด ของหลักทรัพย์จดทะเบียนใหม่ 270,000 ล้านบาท ทั้งจากบริษัทที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรม (Industry Leader) รัฐวิสาหกิจ และบริษัทต่างชาติทั้งในกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขงและอื่นๆ พร้อมสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและโอกาสทางธุรกิจให้กับ SME และตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าตามราคาตลาดจากบริษัทหลักทรัพย์จดทะเบียนที่มีอยู่ อีก 255,000 ล้านบาท พร้อมพัฒนาคุณภาพของหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯอย่างต่อเนื่อง โดยพัฒนาทั้งกระบวนการ ตั้งแต่การระดมทุนจากประชาชนครั้งแรก การซื้อขายและตัวกลางในการซื้อขาย จนถึงการกำกับดูแล รวมถึงส่งเสริมคุณภาพตามกรอบตัวชี้วัดด้าน ESG อย่างต่อเนื่อง และสนับสนุนบริษัทจดทะเบียนที่มีศักยภาพสู่ตัวชี้วัดสากล (Dow Jones Sustainability Indices: DJSI) เพิ่มสินค้าใหม่ และขยายขอบเขตของสินค้าและบริการปัจจุบัน เช่น การจัดทำดัชนีหุ้นกลุ่มใหม่ และการซื้อขาย Electronic Gold ในรูปแบบของสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นต้น นอกจากนี้ ยังหาโอกาสเข้าร่วมพัฒนาตลาดทุนในประเทศกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขง (Greater Mekong Subregion: GMS) และมีบทบาทด้านการพัฒนาความรู้ผู้ประกอบวิชาชีพใน GMS สร้างฐานผู้ลงทุนสถาบันในประเทศให้แข็งแรง ส่งเสริมด้านการวางแผนเกษียณ รองรับสังคมสูงอายุ โดยร่วมมือกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ส่งเสริมการลงทุนผ่านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและกองทุนรวม และพัฒนาระบบงานกลางสำหรับกองทุนรวม (Fund Service Platform) เพื่อรองรับการขยายตัวของกองทุนรวมและเพิ่มช่องทางให้กับผู้ลงทุน นอกจากนี้ยังมุ่งส่งเสริมช่องทางการขายเป็น Digital Tools จากเทคโนโลยีทางการเงินรูปแบบใหม่ ส่งเสริมคุณภาพและขยายฐานผู้ลงทุนบุคคล ด้วยการขยายฐานและพัฒนาคุณภาพผู้ลงทุนเป้าหมายผ่านสถาบันตัวกลางพันธมิตร และพัฒนาทักษะความรู้ผู้ลงทุนในตลาดทุน และส่งเสริมสื่อเทคโนโลยีทางการเงินรูปแบบใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุนรุ่นใหม่ รวมถึงพัฒนาช่องทางการตลาดเพื่อขยายฐานผู้ลงทุนในต่างจังหวัดและเชื่อมโยง GMS ผ่านตัวกลาง โดยตั้งเป้าเพิ่มผู้ลงทุนในหุ้นอีก 110,000 ราย และในตราสารอนุพันธ์อีก 10,000 ราย และเพิ่มบัญชี Online อีก 180,000 บัญชี พัฒนาบุคลากรตัวกลางและโครงสร้างพื้นฐานตลาดทุน เพื่อรองรับการแข่งขันในอนาคต นอกเหนือจากการสร้างฐานและเสริมความรู้ให้แก่ผู้ประกอบวิชาชีพตลาดทุนอย่างต่อเนื่องแล้ว ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังสนับสนุนเพื่อให้กระบวนการในตลาดทุนพัฒนาเป็น Digital เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพธุรกรรมการซื้อขายหลักทรัพย์ มุ่งสู่การเป็น Employer of Choice หรือ องค์กรที่เป็นที่ปรารถนาของคนทำงาน โดยมุ่งสร้างให้องค์กรสามารถ สรรหา พัฒนา และรักษาผู้ที่มีศักยภาพให้มีความพร้อมและเติบโต ก้าวสู่การเป็นผู้นำขององค์กรในอนาคต เพื่อร่วมสร้างให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นองค์กรที่ยั่งยืน "สู่ทศวรรษที่ 5 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อคนไทยเข้าถึงการลงทุนที่มั่งคั่งยั่งยืน"

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ