กรุงเทพ--3 ก.พ.--แอร์ฟรานซ์ "สายการบินแอร์ฟรานซ์" เผยทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2000 ประกาศเดินหน้ารุกปรับการบริการบนเครื่องตามนโยบาย Envol Asie หรือ Top 5 In-flight หลังประสบความสำเร็จจากการยกระดับบริการภาคพื้นดินเมื่อปีที่ผ่านมา รุดหน้าขยายฐานลูกค้าในเอเชีย พร้อมมุ่งก้าวสู่สายการบินที่ครองใจลูกค้ากลุ่มนักธุรกิจชาวเอเชียไว้อย่างเหนียวแน่นตลอดไป พร้อมทั้งร่วมเป็นพันธมิตรกับสายการบินเดลต้า สายการบินสัญชาติอเมริกันขยายเส้นทางบินสู่หัวเมืองหลักในอเมริกาเป็น 89 แห่ง เพื่อตอกย้ำความเป็นสายการบินชั้นนำของนักธุรกิจทั่วโลกพร้อมเผยผลประกอบการปี 2542 เติบโตขึ้นร้อยละ 5 สวนกระแสตลาดการบินที่ค่อนข้างซบ ส่วนปีนี้ตั้งเป้าเติบโตไว้ร้อยละ15 มร. ฌอง-ฟรองซัวส์ โฟโว ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย กัมพูชา ลาว และพม่า สายการบินแอร์ฟรานซ์ เปิดเผยถึงแผนการบุกตลาดในปี 2000 ว่า เมื่อพิจารณาสภาวะตลาดในประเทศไทยจะพบว่า ตลาดมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวขึ้น เนื่องจากมาตรการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของภาครัฐ ภาคธุรกิจและเอกชนซึ่งมีการดำเนินธุรกิจเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจนี้จะส่งผลให้ผู้เดินทางออกจากประเทศไทยมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งนักธุรกิจและนักท่องเที่ยว แอร์ฟรานซ์จะร่วมมือกับบริษัทตัวแทนนักท่องเที่ยวในการส่งเสริมตลาดเมืองไทยที่สำคัญแห่งนี้" มร. โฟโวกล่าวเสริมว่า "เพื่อเตรียมความพร้อมรับการแข่งขันในสหัสวรรษใหม่ โดยเฉพาะในตลาดเอเชีย แอร์ฟรานซ์ได้มุ่งให้ความสำคัญกับการปรับปรุงบริการทั้งภาคพื้นดินและบนเครื่องบิน โดยเน้นการอำนวยความสะดวกสบายและตอบสนองความต้องการของลูกค้าชาวเอเชียได้อย่างตรงจุด ทั้งนี้แอร์ฟรานซ์จะเปิดบริการเที่ยวบินจาก มะนิลา-กรุงเทพฯ-ปารีส 4 เที่ยวทุกสัปดาห์ในเดือนมีนาคม 2543 นี้ เพื่อตอบสนองความต้องการนักเดินทางที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย โดยคาดว่าจะสามารถเพิ่มยอดผู้โดยสารชั้นนักธุรกิจเพิ่มขึ้นถึง 30% "นอกจากนี้ แอร์ฟรานซ์ยังได้ดำเนินตามแผนที่จะขยายฐานธุรกิจในภูมิภาคเอเชียให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ซึ่งเราได้ทำการปรับปรุงบริการให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้ากลุ่มดังกล่าว แผนการยกระดับบริการภาค พื้นดิน อาทิ ระบบจองตั๋วเครื่องบิน บริการเช็คอิน บริการห้องพักรับรองพิเศษ (Business Lounge) นับตั้งแต่ปี 2540 ภายใต้โครงการ 'Top 5' ซึ่งได้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ไปเมื่อปีที่ผ่านมา และมีผลตอบรับที่ดีจากผู้โดยสาร และเมื่อปลายปีที่ผ่านมา เราจึงเริ่มเดินหน้าปรับปรุงบริการบนเครื่องต่อไปตามโครงการ Envol Asie หรือ Top 5 In-flight" มร. โฟโว กล่าวเพิ่มเติม โครงการ Envol Asie หรือ Top 5 In-flight เป็นโครงการที่มุ่งศึกษาขนบธรรมเนียมประเพณีอันละเอียดอ่อนของเอเชีย ตลอดจนความต้องการของลูกค้าชาวเอเชียแต่ละชาติ เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาปรับปรุงการบริการให้มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับรสนิยมของลูกค้าชาวเอเชียได้ดียิ่งขึ้น (Customization) โดยมุ่งเน้นการให้ข้อมูลที่ผู้โดยสารต้องการทราบให้มากที่สุด พร้อมทั้งการมีฝึกอบรมให้พนักงานต้อนรับบนเครื่องอย่างต่อเนื่อง "เราตระหนักดีว่า ผู้โดยสารจากต่างชาติต่างภาษามีรสนิยมและความชอบที่แตกต่างกันไป โดยเฉพาะชาวเอเชียซึ่งเป็นชาติที่มีความละเอียดอ่อนและให้ความสำคัญกับการบริการค่อนข้างมาก เช่น อาหาร ที่มีรสชาติถูกใจ การบริการที่รวดเร็วและสุภาพอ่อนน้อม ตลอดจนการรับทราบข้อมูลสำหรับการเดินทางที่สมบูรณ์และครบถ้วน ดังนั้น โครงการ Top 5 In-flight จึงเกิดขึ้นเพื่อต้องการหารูปแบบและแนวทางการให้บริการที่จะสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า อันจะส่งผลให้สายการบินแอร์ฟรานซ์มุ่งสู่ความเป็นเลิศและสามารถครองใจนักธุรกิจชาวเอเชียซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของเราได้อย่างต่อเนื่อง" มร. โฟโว กล่าว นอกจากนี้ นโยบายหลักที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือของสายการบินแอร์ฟรานซ์ในปี 2000 นี้คือ การขยายเส้นทางบินให้ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกา แอร์ฟรานซ์มีขีดความสามารถในการให้บริการเส้นทางบินสู่สหรัฐอเมริกาเพิ่มมากขึ้น หลังจากจับมือเป็นพันธมิตรกับสายการบินเดลต้า โดยในปัจจุบัน แอร์ฟรานซ์ให้บริการเที่ยวบินไปยังเมืองหลักต่างๆ ในสหรัฐอเมริกาถึง 89 ที่หมาย เพื่อสามารถตอบสนองการเดินทางของนักเดินทางได้ทุกเส้นทางครอบคลุมทั่วโลก "ท่ามกลางการแข่งขันอันรุนแรงในตลาด การขยายเส้นทางการบินของแอร์ฟรานซ์นับเป็นจุดแข็งอีกด้านของเราที่จะสร้างแต้มต่อในเชิงการแข่งขันกับสายการบินอื่นๆ ในยุคของการเปิดเสรีน่านฟ้า" มร โฟโว กล่าวสรุป นายสมเกียรติ เหลืองทวีบุญ ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาดประจำประเทศไทย กัมพูชา ลาวและพม่า สายการบินแอร์ฟรานซ์ กล่าวว่า "จากการคาดการณ์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คาดว่าในปี 2543 จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางออกนอกประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 1.85 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.1 ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้เดินทางไปยุโรปคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 8 หรือราว 150,000 คน ทั้งนี้ ฝรั่งเศสเป็นประเทศที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเป็นอันดับสองรองจากอิตาลี โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นร้อยละ 63 ในระหว่างปี 2541-2542แอร์ฟรานซ์จึงได้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ในการรองรับตลาดการบินในยุโรปซึ่งมีการขยายตัวสูงขึ้น" นายสมเกียรติ กล่าวเสริมว่า "จากแนวโน้มการฟื้นตัวของตลาดท่องเที่ยวในไทย แอร์ฟรานซ์ได้ตั้งเป้าการเติบโตในปีนี้ไว้ที่ร้อยละ 15 โดยมุ่งเน้นการให้บริการชั้นเลิศสำหรับกลุ่มนักธุรกิจและองค์กรเป็นหลัก โดยเมื่อเร็วๆ นี้ แอร์ฟรานซ์ได้มีแต่งตั้งผู้จัดการฝ่ายบริการลูกค้าขึ้นเพื่อศึกษาความต้องการของลูกค้าชาวเอเชียโดยเฉพาะ นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นการจัดกิจกรรมการส่งเสริมการขายและการตลาดตลอดทั้งปีอีกด้วย" แอร์ฟรานซ์ปลื้มผลประกอบการทั่วโลกเติบโตขึ้น 52% (ปีการเงิน 2542-2543)สำหรับผลประกอบการของสายการบินแอร์ฟรานซ์ในช่วงครึ่งปีแรกของปีการเงิน 2542-2543 (ระหว่างเดือนเมษายน ถึงเดือนกันยายน 2542) ปรากฎว่า สายการบินแอร์ฟรานซ์นับเป็นสายการบินแห่งเดียวมีอัตราการเติบโตพุ่งสูงขึ้นสวนกระแสเศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยมีกำไรสุทธิรวมถึง 310 ล้านยูโร (2,035 ล้านฟรังก์ฝรั่งเศส) หรือเพิ่มขึ้นถึง 52% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ในช่วงสามไตรมาสแรกของปีการเงิน 2542-2543 (เมษายน-ธันวาคม 2542) แอร์ฟรานซ์มีจำนวนเครื่องบินที่ขึ้นลงในสนามบินเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.3 ในขณะที่มีขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 และมีจำนวนผู้โดยสารต่อจำนวนที่นั่งบนเครื่องบินถึงร้อยละ 76.4 ทั้งนี้ในส่วนของผลการดำเนินงานด้านการขนส่งสินค้า (Cargo) ตลอด 9 เดือนแรกของปีการเงิน 2542-2543 แอร์ฟรานซ์มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.4 ส่งผลให้จำนวนสินค้าขนส่งต่อพื้นที่บนเครื่องเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ร้อยละ 65.9 ตัวเลขดังกล่าวนี้สะท้อนถึงการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมด้านขนส่งสินค้าในภูมิภาคเอเชีย ปัจจุบัน แอร์ฟรานซ์ให้บริการเที่ยวบินจากสนามบิน ชาร์ล เดอ โกลล์ สู่พื้นที่ครอบคลุม 89 แห่งในสหรัฐอเมริกา ในส่วนเส้นทางการบริการในภูมิภาคเอเชีย แอร์ฟรานซ์ให้บริการเที่ยวบินจำนวน 15 เส้นทาง รวมถึงบริการเที่ยวบินตรงสู่เมืองต่างๆ ในเอเชียจำนวน 10 เมือง ได้แก่ กรุงเทพฯ บอมเบย์ เดล์ลี ฮ่องกง ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ โซล สิงคโปร์ และบริการร่วมกับสายการบิน เจแปน แอร์ไลน์สู่กรุงโตเกียว และเมืองโอซาก้า นอกจากนี้ยังมีเที่ยวบินตรงสู่เมืองฮานอย โฮจิมินห์ ซิตี้ มะนิลา และนูเมีย ในส่วนของเที่ยวบินกรุงเทพ-ปารีส จะออกเดินทางเวลา 23.10 น. และมาถึงสนามบินชาร์ล เดอ โกลล์ ณ กรุงปารีสในเช้าวันถัดไปเวลา 06.00 น. เที่ยวบินจากปารีสสู่กรุงเทพฯ จะออกเดินทางเวลา 19.25 น. ถึงสนามบินดอนเมืองในวันถัดไปเวลา 12.40 น.--จบ--