กรุงเทพฯ--24 ก.ค.--ZDNETTHAILAND.COM
ไทยเมล์ดอตคอมอัพเกรดเวอร์ชัน 4 ฟื้นชุมชนอาม่า ออนไลน์ เพิ่มพันธมิตร บริการคอมเมิร์ซให้สมาชิก ซื้อของราคาถูก ดีเดย์ ต.ค.นี้ พร้อมชู 10 กลยุทธ์ดึงโฆษณาเข้าเว็บ มั่นใจมีฐานสมาชิกเพิ่มเป็น 2 ล้านคน สิ้นปีนี้ เผยหลังเปิดเวอร์ชัน 4 มั่นใจมีรายได้เดือนละ 1 ล้านบาท
นายประสิทธิ์ วรฉัตราวณิช ที่ปรึกษาทางการตลาดและเว็บไซต์ บริษัทแอดวานซ์รีเสิร์ชกรุ๊ป จำกัด เจ้าของเว็บไซต์ไทยเมล์ดอตคอม เปิดเผยว่า บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาเว็บไซต์ไทยเมล์ดอตคอมเป็นเวอร์ชัน 4 คาดว่าจะสามารถเริ่ม ให้บริการได้ในเดือนตุลาคมศกนี้ สำหรับไทยเมล์ดอตคอมเวอร์ชัน 4 จะมีลักษณะของความเป็นชุมชนมากขึ้น จะมีบริการ เพิ่มจากเดิม ที่มีเว็บบอร์ด ห้อง chat มายเว็บบอร์ด และห้องเรียนไทยเมล์ โดยจะเพิ่มชุมชนอาม่าซิตี้เข้ามา เพิ่มพันธมิตรและสร้างความสัมพันธ์ระหว่างพันธมิตรให้แน่นแฟ้น รวมถึงให้บริการอี-คอมเมิร์ซกับลูกค้า และการขายพื้นที่โฆษณาอย่างมีประสิทธิภาพ
"ถ้ายังจำกันได้ ก่อนหน้านี้มีเว็บไซต์ชุมชนอาม่าออนไลน์ เป็นชุมชนออนไลน์ที่เข้มแข็งพอสมควร เคยมีการจัดงานรวมพลชาวอาม่าขึ้น ปรากฏว่า มีสมาชิกเข้าร่วมงานเกือบ 10,000 คน ตอนนี้เราจะพัฒนาชุมชนขึ้นมาใหม่ สร้างภาพของชุมชนให้ชัดเจนขึ้นเป็น armacity.com ใส่ ไว้ในไทยเมล์ดอตคอม มีการนำฟังก์ชันหลักๆ ที่มีคนชื่นชอบตอนที่เป็นอาม่าออนไลน์มาไว้"
นายประสิทธิ์กล่าวต่อถึงแผนการทำอีคอมเมิร์ซของเว็บไซต์ว่า เป็นการซื้อสินค้าในลักษณะม็อบช็อป (mob shop) ภายใต้แนวคิด "ซื้อกันเป็นหมู่เหล่าเขย่าราคา" กล่าวคือ เราจะเป็นผู้หาผู้ค้าให้ลูกค้าที่เป็นสมาชิกของเราซื้อ สินค้าพร้อมกันเป็นงวดใหญ่ เพื่อให้ได้ราคาที่ถูกลง อย่างเช่น กรณีที่เราติดต่อพันธมิตรผู้ค้า คอมพิวเตอร์ให้ขายสินค้าให้เราในราคาพิเศษได้ แต่เงื่อนไขว่า ซื้อ 10 เครื่อง ลด 5% ซื้อ 20 เครื่อง ลด 10% หรือซื้อ 50 เครื่อง ลด 15% เราจะประกาศให้สมาชิกทราบเพื่อสั่งซื้อสินค้าในระยะเวลาที่กำหนด จากนั้นเราจะส่งยอดการสั่งซื้อไปให้แก่ผู้ค้ารายนั้น ตอนนี้อยู่ในระหว่างการเจรจา กับพันธมิตรทางการค้าอยู่ 5 ราย และสถาบันการเงินอีก 1 แห่ง คาดว่าจะสรุปผลได้ในเร็วๆ นี้ นอกจากพันธมิตรทางการค้า เราก็ได้ทาบทามไปยังพันธมิตรอีกหลายๆ รูปแบบ อาทิ ผู้ให้บริการข่าวสาร แหล่งบันเทิงและแหล่งช้อปปิ้ง เป็นต้น พันธมิตรรายใหญ่ที่เรามีอยู่ตอนนี้ เช่น หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นต้น
"การหาพันธมิตรของเรา ค่อนข้างพิถีพิถัน จะดูว่ามีกิจกรรมอะไรบ้างที่สามารถทำร่วมกันได้ ทำงานร่วมกันแล้ว ต้องประสบความสำเร็จทั้ง 2 ฝ่าย ส่วนใหญ่ผู้ประกอบการในปัจจุบันนี้มักจะคำนึงเฉพาะการหาพันธมิตรมาช่วยให้ธุรกิจของตนประสบความสำเร็จแต่เพียงฝ่ายเดียว" นายประสิทธิ์กล่าวและว่า
นอกจากนั้นเรายังได้จัดกลยุทธ์ในการวางโฆษณาบนเว็บไซต์ใหม่ ประมาณ 10 กว่ากลยุทธ์ เช่น สมาร์ท ลิงค์ แอดเวอร์ไทซิ่ง เป็นการวางโฆษณาไว้ที่หน้าอินบ็อกซ์ โดยโฆษณาที่สื่อ ออกมานั้น มีลักษณะเหมือนกับเจ้าของสินค้า พูดคุยกับผู้ใช้โดยตรง และวางโฆษณาที่หน้าบอกสถานะการส่งข้อมูล (Send Page) จากการศึกษาพฤติกรรมผู้ใช้พบว่า หลังจากผู้ใช้ส่ง อี-เมล์ หรือทำธุระในเมล์บ็อกซ์ของเขาเสร็จแล้ว ผู้ใช้จะรู้สึกว่างและยังไม่มีเป้าหมายว่าจะ ทำอะไรต่อไป การนำโฆษณาไปวางที่จุดนี้จะทำให้โอกาสที่ลูกค้าจะคลิกเข้าไปดูสินค้ามีสูงขึ้น
"เฉพาะในส่วนของสมาร์ท ลิงค์ แอดเวอร์ไทซิ่ง ได้ทดลองให้บริการประมาณ 10 วันกับผู้ให้บริการจดโดเมนเนมพบว่า มีผู้คลิกเข้ามาดู ถึง 40,000 คน โดยเมื่อลูกค้าเข้าไปที่อินบ็อกซ์ ระบบจะทำงาน เช่น นาย ก.เปิดตู้จดหมายใน ส่วนพื้นที่โฆษณาจะปรากฏคำว่า ขณะนี้ชื่อโด เมนเนม นายกดอตคอม ยังว่างท่านสนใจหรือ ไม่"
นายประสิทธิ์กล่าวต่อว่า แม้ว่าการคิดค่าพื้นที่โฆษณาทั่วไปของเว็บไซต์ไทยเมล์ดอตคอม จะสูงกว่าพื้นที่โฆษณาของเว็บไซต์อื่นมาก คือ ราคา ชิ้นละประมาณ 50,000 บาทต่อเดือน แต่ก็มีลูกค้ามาจองพื้นที่โฆษณาโดยตลอด เพราะเมื่อมองจากผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตในประเทศไทยมีทั้งหมดประมาณ 2 ล้านคน ขณะที่ไทยเมล์ดอตคอมมีสมาชิกราว 1,500,000 คน และคาดว่าจะเพิ่ม เป็น 2,000,000 คนในสิ้นปีนี้ นอกจากนี้การลงโฆษณากับเราไม่ได้ลงเฉพาะในเว็บไซต์เท่านั้น แต่จะมีการลงโฆษณาให้บนหนังสือในเครือ ARIP อีกด้วย และยังมีการจัดกิจกรรมนอกสถานที่กับชุมชนอาม่าซิตี้ ซึ่งน่าที่จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะทำให้โฆษณาได้ผ่านตาผู้บริโภคมากขึ้น
ที่ผ่านมาเว็บไซต์มีรายได้จากโฆษณาเป็นหลักในช่วงปี 2541 ที่เริ่มทำเว็บไซต์และขายพื้นที่โฆษณา บริษัทมีรายได้จากส่วนนี้ถึงเดือนละ 700,000 บาท ต่อมาในช่วงปี 2542-2543 ตกลงมาเหลือเดือนละ 500,000 บาท เนื่องจากต้องลดค่าพื้นที่โฆษณาลงเล็กน้อยและหลังจาก การพัฒนาไทยเมล์ดอตคอมเวอร์ชัน 4 เสร็จแล้ว คาดว่าจะมีรายได้เดือนละไม่ต่ำกว่า 1,000,000 บาท มาจากสองช่องทางหลัก คือ การเก็บค่าโฆษณาและเปอร์เซ็นต์จากการสั่งซื้อสินค้าของสมาชิก--จบ--
-สส-