กรุงเทพฯ--23 ธ.ค.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 23 ธันวาคม 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,070.35-1,075.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,400 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,450 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ15 อยู่ที่ 18,120 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 120 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,520 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.57 น.ของวันที่ 23/12/15)
แนวโน้มวันที่ 24 ธันวาคม 2558
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้ายของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 3/2015 ขยายตัว 2.0% โดยลดลงจากตัวเลข ประเมินครั้งก่อนที่ 2.1 % แต่อยู่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่ 1.9% ขณะที่สำนักงานวิเคราะห์เศรษฐกิจสหรัฐ (BEA) รายงานว่าปริมาณการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐานปรับขึ้นสู่ 1.4% ในไตรมาส 3 จากเดิมที่เคยรายงานว่าอยู่ที่ 1.3% โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มักจะใช้ตัวเลขนี้เป็นมาตรวัดภาวะเงินเฟ้อ อย่างไรก็ดีสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านมือสองลดลงเกินคาดถึง 10.5% โดยลดลงสู่ 4.76 ล้านยูนิตต่อปีในเดือนพฤศจิกายน จาก 5.32 ล้านยูนิตต่อปีในเดือนตุลาคม ถือเป็นการดิ่งลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2010 ซึ่งตัวเลขเศรษฐกิจไร้ทิศทาง ทำให้เกิดราคาทองคำเคลื่อนไหวในลักษณะไร้ทิศทางเช่นกัน ทั้งนี้ แรงขายในตลาดทองคำไม่นากนัก โดยทองคำได้รับแรงหนุนจาก ธนาคารบาร์เคลย์สปรับลดตัวเลขคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐประจำไตรมาส 4 ลง 0.1% สู่ 1.6% ประเด็นดังกล่าวเพิ่มมุมมองเชิงลบให้กับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งกระตุ้นแรงซื้อเข้ามายังตลาดทองคำ ประกอบกับดัชนีดอลลาร์สหรัฐร่วงลงมาแล้ว 3 วันติดต่อกัน และออกห่างจากจุดสูงสุดรอบ 2 สัปดาห์ที่ 99.294 ที่ทำไว้ในวันพฤหัสบดีที่ 17 เนื่องจากนักลงทุนจำนวนมากขายทำกำไรดอลลาร์หลังเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบางในตลาดทองคำ โดยสกุลเงินสำคัญและราคาทองคำเคลื่อนตัวในกรอบแคบ คาดว่าการซื้อขายจะเบาบางลงในช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้ เนื่องจากตลาดจะปิดทำการเร็วขึ้นในวันพฤหัสบดีและปิดทำการทั้งวันในวันศุกร์ เนื่องในวันคริสต์มาส ซึ่งนักลงทุนหลายรายหยุดพักผ่อนเนื่องในเทศกาลคริสต์มาสแล้ว
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำในระยะสั้นยังเคลื่อนไหวในกรอบในทิศทางที่แกว่งตัวออกด้านข้าง ซึ่งบริเวณแนวต้าน 1,081-1,088 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยบริเวณนี้อาจมีแรงขายทำกำไรออกมาซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวัง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้แนะนำให้ถือต่อไป เพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมา ไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเก็งกำไรระยะสั้น โดยเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้นจากการดีดตัวเท่านั้น ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,060-1,054 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,046 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมตั้งจุดตัดขาดทุน หากราคาไม่เป็นไปตามคาดการณ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,060 (18,040บาท) 1,054 (17,930บาท) 1,046 (17,800บาท)
แนวต้าน 1,081 (18,430บาท) 1,088 (18,510บาท) 1,100 (18,720บาท)
GOLD FUTURES (GFZ15)
แนวรับ 1,060 (18,530บาท) 1,054 (18,430บาท) 1,046 (18,290บาท)
แนวต้าน 1,081 (18,890บาท) 1,088 (19,010บาท) 1,100 (19,210บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148