กรุงเทพฯ--24 ธ.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง โดยระดมรถบรรทุกน้ำนำน้ำไปแจกจ่ายรวมทั้งสิ้น 2,960,334 ลิตร ขุดเจาะบ่อบาดาล จำนวน 80 บ่อ เพื่อเพิ่มพื้นที่กักเก็บน้ำและสำรองน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง พร้อมดำเนินโครงการบริหารจัดการน้ำแล้วเสร็จ 953 โครงการ จากเป้าหมาย 2,229 โครงการ คาดว่าเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะช่วยเหลือประชาชนได้ 1.08 ล้านครัวเรือน พื้นที่การเกษตรกว่า 3.1 ล้านไร่ อีกทั้งดำเนินมาตรการจ้างงานเพื่อสร้างรายได้แก่ประชาชนใน 25 จังหวัด โดยใช้จ่ายงบประมาณจากเงินทดรองราชการในเชิงป้องกันหรือยับยั้งภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน รวมวงเงินงบประมาณกว่า 105 ล้านบาท
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์น้ำ พบว่าหลายพื้นที่มีแนวโน้มได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้ง เนื่องจากปริมาณน้ำที่ใช้การได้ของอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และเขื่อนหลัก ลุ่มน้ำเจ้าพระยาต่ำกว่าเกณฑ์ค่าเฉลี่ยและปีที่ผ่านมา กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง โดยระดมรถบรรทุกสูบน้ำระยะไกล รถสูบน้ำ รถผลิตน้ำดื่ม รถบรรทุกน้ำ เครื่องสูบน้ำ นำน้ำไปแจกจ่ายรวมทั้งสิ้น 2,960,334 ลิตร พร้อมปฏิบัติการสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการขุดเจาะบ่อบาดาลหรือบ่อน้ำตื้น จำนวน 80 บ่อ เพื่อเพิ่มพื้นที่กักเก็บน้ำและสำรองน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง อีกทั้งได้ดำเนินโครงการบริหารจัดการน้ำ จำนวน 2,229 โครงการ โดยขุดลอกคูคลองปรับปรุงสภาพแหล่งน้ำเดิม และสร้างแหล่งกักเก็บน้ำใหม่ ขณะนี้ดำเนินการแล้วเสร็จ จำนวน 953 โครงการ คาดว่าเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะมีปริมาตรน้ำเก็บกัก 294.5 ล้านลูกบาศก์เมตร ประชาชนจะได้รับประโยชน์กว่า 1.08 ล้านครัวเรือน และพื้นที่การเกษตรกว่า 3.1 ล้านไร่ นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 และ 28 กรกฎาคม 2558 ได้มีมติให้ดำเนินการจ้างงานเพื่อสร้างรายได้แก่เกษตรกรในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง มุ่งเน้นการจ้างงานประชาชนในพื้นที่ดำเนินกิจกรรมที่เป็นการป้องกัน ยับยั้ง หรือลดความเสียหายจากสถานการณ์ภัยพิบัติ โดยใช้งบประมาณจากเงินทดรองราชการในเชิงป้องกันหรือยับยั้งภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน วงเงินจังหวัดละ 10 ล้านบาท ปัจจุบันดำเนินการแล้วใน 25 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ กาญจนบุรี กาฬสินธุ์ กำแพงเพชร ฉะเชิงเทรา ชัยนาท ชัยภูมิ เชียงใหม่ นครปฐม นครราชสีมา นครสวรรค์ ปราจีนบุรี พระนครศรีอยุธยา มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ราชบุรี ลพบุรี ลำปาง ศรีสะเกษ สกลนคร สระบุรี สิงห์บุรี หนองบัวลำภู อ่างทอง และอำนาจเจริญ รวมวงเงินงบประมาณ 105,825,968 บาทแยกเป็น จ้างแรงงาน จำนวน 161,961 คน เป่าล้างบ่อบาดาล จำนวน 3,137 บ่อ ฝึกอบรมอาชีพ จำนวน 189 รุ่น ขุดลอกแหล่งน้ำ จำนวน 48 โครงการ และซ่อมแซมระบบประปา จำนวน 23 แห่ง เพื่อส่งเสริมการสร้างงาน สร้างอาชีพและสร้างรายได้แก่ชุมชนที่ประสบภัย ซึ่งจะเป็นการสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเข้มแข็งในทุกมิติ
0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th