2 โปรสาว ลั่นพร้อมล่าแชมป์ “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2016”

ข่าวกีฬา Thursday December 24, 2015 13:48 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 ธ.ค.--สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 "โปรแหวน" พรอนงค์ และ "โปรเม" เอรียา สองสาวไทยที่กำลังโลดแล่นอยู่ในแอลพีจีเอทัวร์ซึ่งได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันในรายการฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2016 แน่นอนแล้วจากอันดับทำเงินในทัวร์ซึ่งปีนี้ พรอนงค์ จบที่อันดับ 38 ขณะที่ เอรียา อันดับ 35 โดยทั้งสองคนต่างมั่นใจว่าประสบการณ์ในทัวร์และการเล่นในบ้านต่อหน้าแฟนกอล์ฟจะทำให้พวกเธอมีลุ้นกลายเป็นสาวไทยคนแรกที่ได้แชมป์ในแอลพีจีเอทัวร์ "ตอนนี้แหวนก็กำลังเตรียมพร้อมสำหรับฤดูกาลใหม่และหวังว่าฟอร์มจะเข้าที่พอดีกับการแข่งขันฮอนด้า แอลพีจี ไทยแลนด์ แหวนมุ่งมั่นเต็มที่กับการเล่นในเมืองไทย ต้องการคว้าแชมป์ต่อหน้าแฟนๆ แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะนักกอล์ฟที่มาล้วนเป็นมือดีๆ ของโลกทั้งสิ้น ซึ่งการเล่นต่อหน้าแฟนกอล์ฟชาวไทยทำให้นักกอล์ฟไทยคนอื่นๆ มีกำลังใจอย่างมากรวมทั้งตัวแหวนเองด้วย" โปรแหวน มือ 43 ของโลกจากจังหวัดชัยภูมิกล่าว "ไม่คิดว่าการได้เล่นในสนามแห่งนี้จะทำให้พวกเราได้เปรียบมากนักเหมือนในปีแรกๆ ของการแข่งขัน เพราะว่าสนามนี้จัดการแข่งขันมาแล้วหลายครั้งและนักกอล์ฟส่วนมากก็มาเล่นเกือบทุกปีทำให้รู้สภาพสนามได้ดีไม่ต่างจากนักกอล์ฟไทย แต่เราอาจจะได้เปรียบนิดหน่อยในเรื่องสภาพอากาศ และเราอาจจะได้เปรียบคู่แข่งในฐานะเจ้าบ้าน ซึ่งแหวนก็ยังมุ่งมั่นเป็นพิเศษที่จะคว้าแชมป์แอลพีจีเอทัวร์แรกให้แฟนกอล์ฟได้ชื่นชม" พรอนงค์เข้าร่วมการแข่งขัน ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ครั้งแรกเมื่อปี 2006 ซึ่งก็เป็นปีแรกของการแข่งขันรายการนี้อีกด้วยจากนั้นเธอก็ได้ลงแข่งขันอีก 5 ครั้ง โดยผลงานดีสุดคืออันดับ 13 ร่วม เมื่อปี 2011 ผลงานดีสุดสำหรับพรอนงค์ในแอลพีจีเอทัวร์ 2015 คือการจบอันดับสองในรายการ คัมเบีย พอร์ตแลนด์ คลาสสิค และจบที่ 38 ในอันดับทำเงิน โดยรับเงินรางวัลทั้งสิ้น 445,383 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 16 ล้านบาท จากการเล่น 28 รายการ และหากรวมเงินรางวัลที่เธอทำได้ในแอลพีจีเอทัวร์ทั้งสิ้นจำนวน 2,163,951 เหรียญสหรัฐ หรือราว 78 ล้านบาท พรอนงค์ยอมรับว่า ผลงานในปีนี้ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่เธอต้องการให้ติดท็อป 10 ในอันดับทำเงิน หลังจากที่เมื่อปีที่แล้วเธอทำผลงานสุดยอดด้วยการขยับขึ้นไปจบที่อันดับ 20 "ต้องยอมรับว่าแหวนตั้งเป้าไว้ค่อยข้างสูงในปีนี้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะว่านักกอล์ฟคนอื่นๆ ก็พัฒนากันเร็วมาก ที่สำคัญก็คือฟอร์มการเล่นของแหวนดร็อปลงไปเองด้วยเพราะสภาพร่างกายไม่ค่อยฟิตเท่าที่ควร อาจจะเป็นวางแผนการแข่งขันหรือจัดโปรแกรมแข่งขันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ซึ่งปีหน้าก็จะวางแผนดีๆ และมั่นใจว่าจะเรียกฟอร์มกลับมาได้แน่นอน" พรอนงค์ จะเริ่มต้นฤดูกาลหน้าด้วยการแข่งขันรายการ เพียว ซิลค์ บาฮามาส แอลพีจีเอ คลาสสิค วันที่ 28-31 มกราคม ตามมาด้วย โคทส์ กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพ พรีเซนท์เท็ด บาย อาร์พลัสแอลแคร์เรียส์ วันที่ 3-6 กุมภาพันธ์ จากนั้นเธอจะพักเตรียมความพร้อมเพื่อการแข่งขัน ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2016 ส่วน "โปรเม" เอรียา มั่นใจเช่นกันว่าปีหน้าเธอจะกลับมามีลุ้นแชมป์อีกครั้ง เพราะช่วงนี้ฟอร์มกลับมาดีอีกครั้งหลังจากตกไปในช่วงกลางปี "ตอนนี้เมค่อนข้างมั่นใจในฟอร์มการเล่นค่ะ ซ้อมหนักแล้วก็ดูแลตัวเองอย่างดีค่ะ" เอรียา ซึ่งเข้าร่วมการแข่งขันฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2007 ด้วยวัยเพียงแค่ 11 ปี กล่าว สำหรับผลงานในแอลพีจีเอทัวร์ 2015 นั้น เอรียา ลงเล่น 29 รายการ ทำเงินรางวัล 482,527 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 17.3 ล้านบาท ผลงานดีสุดก็คืออันดับสองร่วมในรายการเพียว ซิลค์ บาฮามาส แอลพีจีเอ คลาสสิค ซึ่งเธอแพ้ในการเล่นเพลย์ออฟต่อ คิม เซ ยัง โปรสาวชาวเกาหลีใต้ และก็นับเป็นการได้อันดับสองเป็นครั้งที่สองในแอลพีเอทัวร์ หลังจากพลาดแชมป์อย่างน่าเสียดายในศึก ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2013 ซึ่งครั้งนั้นเธอนำคู่แข่งถึง 2 สโตรกก่อนเข้าสู่หลุมสุดท้าย ก่อนจะพลาดเสียทริปเปิ้ลโบกี้ อย่างไรก็ตาม "โปรเม"เอรียา วัย 20 ปี เชื่อว่า ด้วยวัยและประสบการณ์ที่มากขึ้น เธอจะกลับมามีลุ้นแชมป์อีกครั้งแน่นอนในกุมภาพันธ์ปีหน้า โดยในปีนี้นับเป็นปีแห่งการเรียนรู้สำหรับเธอโดยแท้และเธอก็สามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆ มาได้ โดยออกเธอเริ่มต้นปีได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการติดท็อป 3 ถึง 2 รายการในการเล่น 5 รายการแรก แต่หลังจากนั้นฟอร์มก็เริ่มตกลงเรื่อยๆ จนไม่ผ่านตัดตัวถึง 10 รายการติดต่อกัน อย่างไรก็ตาม ช่วงปลายปีเธอก็เรียกฟอร์มกลับคืนมาได้ก่อนจะจบอันดับ 5 ในกอล์ฟ ToTo Japan Classic เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยรวมแล้วเธอติดท็อป 10 ถึง 4 รายการในปีนี้ "ปีนี้เป็นปีแรกของเมในการเล่นในทัวร์ นับเป็นปีแห่งการเรียนรู้สำหรับเม มีทั้งช่วงเวลาที่ดีที่สุดและจะเรียกว่าแย่ที่สุดในชีวิตการเล่นกอล์ฟมาเลยก็เกิดขึ้นในปีนี้ มันทำให้เรารู้ว่าเราขึ้นมาดีได้ขนาดไหนและแย่ขนาดไหน ที่สำคัญก็คือเราสามารถก้าวข้ามผ่านตรงนี้ไปได้" โปรเมกล่าวทิ้งท้าย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ