ศปถ.กำชับจังหวัดปรับแผน – เพิ่มการเรียกตรวจ เข้มข้นสร้างความปลอดภัยทุกเส้นทาง

ข่าวทั่วไป Monday January 4, 2016 15:20 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--4 ม.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2559 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 1 ม.ค.59 เกิดอุบัติเหตุ 647 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 75 ราย ผู้บาดเจ็บ 657 คน รวม 4 วัน (29 ธ.ค.58 – 1 ม.ค.59) เกิดอุบัติเหตุ รวม 2,338 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 253 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 2,412 คน ทั้งนี้ ได้กำชับให้จังหวัดปรับแผนการดูแลความปลอดภัยในการเดินทางกลับของประชาชน พิจารณาปรับย้ายจุดตรวจให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ ปริมาณการจราจรและช่วงเวลาในการเดินทาง พร้อมเพิ่มความถี่ในการเรียกตรวจคุมเข้มการปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด เน้นย้ำจุดตรวจ จุดสกัดตามชุมชน หมู่บ้านกวดขันการดื่มแล้วขับ ขณะที่เส้นทางสายหลักให้เข้มข้นการตรวจจับการใช้ความเร็ว และเรียกตรวจความพร้อมของผู้ขับขี่ โดยเฉพาะรถโดยสารสาธารณะ เพื่อป้องกันการหลับในและความอ่อนล้าที่อาจเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุได้ นายแพทย์ โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข รองประธานกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนคนที่สาม ประธานแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2559 เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2559 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่ายได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 1 มกราคม 2559 ซึ่งเป็นวันที่สี่ของการรณรงค์ "สุขกาย สุขใจ ขับขี่ปลอดภัย รับปีใหม่ 2559" เกิดอุบัติเหตุ 647 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 75 ราย ผู้บาดเจ็บ 657 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาสุรา ร้อยละ 33.08 ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 15.90ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 82.34 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 60.12 บนถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 38.64 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 30.45 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 00.01 – 04.00 น. ร้อยละ 31.38 ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงาน ร้อยละ 55.94 ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,103 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 65,642 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 646,978 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 106,661 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 29,987 ราย ไม่มีใบขับขี่ 29,959 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 29 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ปทุมธานี 5 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช 35 คน สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม 4 วัน (29 ธ.ค.58 – 1 ม.ค. 59) เกิดอุบัติเหตุรวม 2,338 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 253 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 2,412 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 8 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ ตรัง พังงา แพร่ ระนอง สมุทรปราการ สิงห์บุรี และสุโขทัย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 91 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา เชียงราย สงขลา และปทุมธานี จังหวัดละ 9 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 91 คน นายแพทย์ โสภณ กล่าวต่อไปว่า ในวันนี้ประชาชนเริ่มทยอยเดินทางกลับ ขณะที่บางส่วนยังคงเฉลิมฉลองอยู่ในพื้นที่ ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) จึงได้สั่งกำชับให้จังหวัดเข้มข้นดูแลทั้งเส้นทางสายหลักและสายรองอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากข้อมูลสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2559 พบว่า ดื่มแล้วขับเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงกว่าร้อยละ 33 และเวลา 00.01 – 04.00 น. เป็นช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด จึงขอเน้นย้ำจุดตรวจ จุดสกัดตามชุมชน หมู่บ้านเข้มงวดในการเรียกตรวจ โดยเฉพาะช่วงกลางคืนหลังเวลา 23.00 น. ไปแล้ว เพื่อตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์และประเมินความพร้อมในการขับรถของผู้ขับขี่ อีกทั้งจากสถิติอุบัติเหตุพบว่า กว่าร้อยละ 60 เกิดบนเส้นทางตรง โดยมีสาเหตุจากการขับรถเร็ว การตัดหน้ากระชั้นชิด การใช้โทรศัพท์มือถือ จึงขอให้จังหวัดเข้มข้นการตรวจจับการใช้ความเร็ว ปรับแผนเพิ่มจำนวนจุดตรวจบนเส้นทางสายตรงที่มีระยะทางยาว เพิ่มความถี่ในการตรวจจับ เรียกตรวจเพื่อประเมินความพร้อมของผู้ขับขี่ โดยเฉพาะพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะ พร้อมตักเตือนให้ผู้ขับขี่ใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง นอกจากนี้ ให้พิจารณาปรับย้ายจุดตรวจ จุดบริการ และปรับแผนการดูแลความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนให้สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ ปริมาณการจราจร และช่วงเวลาในการเดินทางของประชาชน นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เปิดเผยว่า ในวันนี้ประชาชนบางส่วนเริ่มทยอยเดินทางกลับ ซึ่งความอ่อนล้าจากการเฉลิมฉลองและการขับรถระยะทางไกล อาจเป็นสาเหตุที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ นายกรัฐมนตรีห่วงใยความปลอดภัยของประชาชน จึงได้สั่งการให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนกำชับจังหวัดประสานการปฏิบัติงานของจุดตรวจที่อยู่บริเวณรอยต่อระหว่างจังหวัด เพื่อส่งต่อการดูแลความปลอดภัยของประชาชน โดยกวดขันความพร้อมของผู้ขับรถ โดยเฉพาะพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะทั้งประจำทาง ไม่ประจำทาง รถตู้โดยสารเป็นพิเศษ พร้อมยึดมาตรการบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด ควบคู่กับการผลักดันกลไกมาตรการทางสังคมและชุมชนให้มีความเข้มแข็ง อีกทั้งปรับแผนการปฏิบัติการสร้างความปลอดภัย โดยเพิ่มความเข้มข้นในการดูแลเส้นทางขากลับที่มุ่งสู่จังหวัดใหญ่ และกรุงเทพฯ จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก จัดระบบการจราจรให้สอดคล้องกับปริมาณรถในแต่ละเส้นทาง ทั้งนี้ ขอฝากเตือน ผู้ขับขี่ไม่ขับรถเร็ว ดื่มไม่ขับ ไม่ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ หากมีอาการเหนื่อยล้าหรือง่วงนอน ให้จอดพักรถตามจุดบริการของหน่วยงานภาครัฐ และสถานีบริการน้ำมัน อีกทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการขับรถผ่านเส้นทางที่มีร้านค้าริมทาง ซึ่งอาจมีรถจอดกีดขวางช่องทางจราจร ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ ทั้งนี้ เพื่อให้เทศกาลปีใหม่ 2559 เป็นเทศกาลที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขและความปลอดภัย 0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ