รมว.พม. กำชับเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือเยียวยาจิตใจเด็กหญิงและเด็กชายวัย ๓ และ ๔ ขวบ ที่กำพร้า แม่หนีไป และพ่อผูกคอเสียชีวิต ที่ จ.นครปฐม พร้อมช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาและผู้ด้อยโอกาสทางสังคม ที่ จ.ระยอง สุโขทัย และลำปาง

ข่าวทั่วไป Tuesday January 5, 2016 16:42 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 ม.ค.--กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ วันนี้ (๔ ม.ค. ๕๙) เวลา ๐๘.๓๐ น. ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.) ครั้งที่๓๑๔/๒๕๕๗-๒๕๕๙ เพื่อรับทราบปัญหาทางสังคมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และร่วมหาแนวทางการแก้ไขปัญหาและการป้องกันปัญหาดังกล่าว โดยมีผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานในกระทรวงฯ เข้าร่วมประชุม พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า จากกรณีชายอายุ ๓๙ ปี มีอาชีพเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย พาลูกชายวัย ๔ ขวบ และลูกสาววัย ๓ ขวบ ขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนออกตามหาภรรยาที่หนีออกจากบ้านไป แต่ภรรยาไม่ยอมกลับ จึงเกิดความน้อยใจ ก่อนตัดสินใจผูกคอเสียชีวิตในบ้านพัก ทิ้งลูกน้อย ๒ คน ให้กำพร้า ที่จังหวัดนครปฐม ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครปฐม (พมจ.นครปฐม) ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจกระทรวงฯ พร้อมเร่งเยียวยาฟื้นฟูสภาพจิตใจเด็กทั้ง ๒ คนโดยด่วน และหากตรวจสอบพบว่าไม่มีครอบครัวหรือญาติดูแลให้รับเข้ามาอยู่ในความดูแลที่สถานสงเคราะห์ ในสังกัดของกระทรวงฯ ต่อไป และกรณีหญิงคนงานรับจ้างกรีดยางชาวกัมพูชา เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าลูกสาววัย ๕ ขวบ ถูกคนร้ายเป็นชายสัญชาติเดียวกัน อายุ ๒๘ ปี ข่มขืนกระทำชำเราภายในบ้านพักคนงาน ที่จังหวัดระยอง ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดระยอง (พมจ.ระยอง) ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น ตามภารกิจกระทรวงฯ พร้อมเร่งเยียวยาฟื้นฟูสภาพจิตใจเด็กหญิงและครอบครัวโดยด่วน พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกรณีข่าวสังคมออน์ไลน์มีการแชร์เรื่องราวขอความช่วยเหลือชายพิการสู้ชีวิต อายุ ๑๘ ปี มีเนื้องอกบริเวณใบหน้า ทำให้ตาขวาบอดสนิท และศีรษะด้านขวาไม่มีกะโหลก ไม่ได้เรียนหนังสือและต้องรับภาระเลี้ยงดูพ่อที่ป่วยทำงานไม่ไหว ด้วยการรับจ้างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ทั้งที่ไม่เคยเรียนมาก่อน มีรายได้วันละ๑๐๐-๒๐๐ บาท ทั้ง ๒ ชีวิตอาศัยในบ้านสภาพเก่าทรุดโทรมใกล้ผุพัง ที่จังหวัดลำปาง ด้านผู้เป็นพ่อเผยว่าภูมิใจในตัว ลูกชาย เพราะดูแลตนมานานกว่า ๕ ปี ตนขอชื่นชมในความขยันหมั่นเพียรและมีมานะพยายาม ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค ทางร่างกาย มีความกตัญญู น่ายกย่องชื่นชมเป็นตัวอย่างที่ดีของผู้พิการสู้ชีวิต ทั้งนี้ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดลำปาง (พมจ.ลำปาง) ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น ตามภารกิจกระทรวงฯ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องการรักษาพยาบาลของผู้ป่วย และดูแลเรื่องการปรับปรุงสภาพที่อยู่อาศัยให้เหมาะสมถูกสุขลักษณะ และกรณีหญิงสู้ชีวิต รับภาระเลี้ยงดูลูก ๓ คน อายุ ๒๒-๓๐ ปี และหลานชายอายุ ๑๓ ปี ซึ่งทั้งหมดป่วยสมองพิการ เคราะห์ซ้ำลูกสาวพิการยังถูกข่มขืนจนตั้งครรภ์คลอดลูกพิการอีก ๑ คน ต้องใช้เชือกล่ามขาหลานเอาไว้เวลาออกไปทำงานและเลี้ยงตามยถากรรม มีรายได้ส่วนใหญ่จากเบี้ยความพิการ ๔ คน รวม ๓,๒๐๐ บาทต่อเดือน ด้านผู้เป็นแม่ไม่เคยย่อท้อหรือร้องขอความช่วยเหลือจากใคร ที่จังหวัดสุโขทัย ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุโขทัย (พมจ.สุโขทัย) ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจกระทรวงฯ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องการรักษาพยาบาลผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ