กรุงเทพฯ--12 ม.ค.--โปรเฟสชันแนล มีเดีย บิสซิเนส
งาน SETA 2016 (ออกเสียงว่า "เซต้า 2016") หรือ โครงการพลังงงานและเทคโนโลยี่ที่ยั่งยืนแห่งเอเชีย เป็นงานแสดงนิทรรศการและงานประชุมด้านพลังงานและเทคโนโลยีนานาชาติที่ครบวงจร จัดเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแรงส่งให้ประเทศไทยก้าวสู่ความเป็นผู้นำด้านพลังงานในภูมิภาคอาเซียน อีกทั้งเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนความรู้ นวัตกรรม และประสบการณ์ด้านพลังงาน,เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม จากทั้งนักวิชาการ นักวิจัย นักลงทุน และผู้สนใจจากทั้งภาครัฐและเอกชนของไทย และทั่วโลก เพื่อส่งเสริมให้เกิดการรับรู้ และความเข้าใจในเรื่องพลังงานและเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม ให้กับคนไทยให้มากยิ่งขึ้น
คุณนภปฎล สุขเกษม กรรมการผู้จัดการบริษัท แกท อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า "แกทฯ เป็นบริษัทผู้บริหารงานโครงการด้านการจัดแสดงสินค้า และงานประชุมนานาชาติ ที่มีเครือข่ายและพันธมิตรในหลากหลายภูมิภาคทั่วโลก และถือเป็นผู้นำด้านการจัดการไมซ์ของประเทศ โดยการจัดงาน SETA 2016 ในครั้งนี้ เราเล็งเห็นความสำคัญของพลังงานและเทคโนโลยี ที่ควรจะให้มีการจัดขึ้นในประเทศไทย โดยผู้บริหารงานคนไทย นอกเหนือไปจากกระแสการตื่นตัวด้านพลังงานของทุกประเทศทั่วโลกแล้ว ยังเป็นการส่งเสริม สนับสนุนในการสร้างภาพพจน์ที่ดีให้กับประเทศไทย เป็นการกระตุ้น การหมุนเวียนด้านการลงทุนการเข้าถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรม ของประเทศ และการต่อยอด ที่มุ่งหวังถึงภาพที่ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางหรือ Hub ด้านพลังงานของอาเซียนในที่สุด
สิ่งเหล่านี้เป็นแรงบันดาลใจและเป็นโปรเจคที่สำคัญของบริษัทฯ ที่ต้องการสร้างมูลค่าให้กับประเทศ อย่างน้อยก็เป็นการสร้างการรับรู้ให้กับเยาวชน และประชาชนทั่วไปในเรื่องการใช้พลังงานที่มีจำกัดได้อย่างมีคุณค่า
"งาน SETA 2016 นี้จะจัดขึ้นบนพื้นที่นิทรรศการ มากกว่า 5,500 ตารางเมตร มีผู้ประกอบการจากทั้งบริษัท ห้างร้าน สมาคมต่างๆ และองค์กรชั้นนำทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ในการเข้าร่วมแสดงงาน จำนวนกว่า 150 บูธ เราได้เชิญ รศ.ดร.ธัชชัย สุมิตร ผู้ทรงคุณวุฒิด้านพลังงานของไทย มาเป็นประธานคณะกรรมการดำเนินงาน"เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพของทุกอณูความรู้ ที่ทุกคนจะได้รับจากการร่วมงานในครั้งนี้ รวมไปถึงการ เชิญผู้ทรงคุณวุฒิท่านอื่นๆจากทั้งในประเทศและต่างประเทศกว่าหนึ่งร้อยท่าน มาร่วมเป็นวิทยากรบรรยายภายในงานคุณนภปฏล กล่าวเสริม
รศ.ดร.ธัชชัย สุมิตร ประธานคณะกรรมการดำเนินงานโครงการพลังงานและเทคโนโลยียั่งยืนแห่งเอเชีย 2559 หรือ SETA 2016 ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า "การจัดแสดงนิทรรศการแบ่งออกเป็น 4หัวข้อหลัก ประกอบด้วย 1. นโยบายและทิศทางของพลังงาน 2. ระบบเทคโนโลยีการผลิตกระแสไฟฟ้า 3.การขนส่งและเชื้อเพลิงทางเลือก และ 4. พลังงานที่ยั่งยืนและเทคโนโลยีพลังงานสีเขียวโดยในแต่รายละเอียดของทั้ง 4 หัวข้อนั้นมีการแบ่งโซนนิทรรศการที่แสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีในแต่ละด้าน รวมทั้งการแสดงผลงานสำคัญๆจากกระทรวงพลังงานและกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีรวมไปถึงการแสดง"นิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในพระราชกรณียกิจด้านพลังงานที่ยั่งยืน" อีกด้วย
"นอกจากนั้น ภายในงานยังมีการจัดการประชุมทางวิชาการระดับนานาชาติกว่า 100 หัวข้อ ใน 4 เนื้อหาหลัก มากกว่า 30 ประเด็น
โดยมีประเด็นที่น่าสนใจที่เป็นไฮไลท์ภายในงาน คือ การเสวนาของตัวแทนในระดับองค์กรระหว่างประเทศ ในหัวข้อ "การเตรียมการการจัดการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศ(Climate Change)ในข้อตกลงการลดคาร์บอน ณ กรุงปารีส ของอาเซียน" และเทคโนโลยีใหม่ในการผลิตพลังงานจากไฮโดรเจน โดยผู้เชี่ยวชาญจากอเมริกา เป็นต้น และการจัดสัมมนาคู่ขนาน ภายในงาน SETA 2016 อาทิ การจัดประชุมเวิร์คชอพ โดยกลุ่มประชาคมเอเปค (APEC) ในหัวข้อทิศทางของพลังงานนิวเคลียร์ในกลุ่มประเทศภูมิภาคเอเปค การจัดสัมมนาในหัวข้อการสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน โดย ERIN ( Energy Research Institute Network) จากตัวแทนสิบกว่าประเทศ ,การร่วมจัดงานสัมมนาวิชาการนานาชาติโดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) และการสัมมนาด้านเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ ,เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า และ อื่นๆ อีกหลายงานที่จัดร่วมกับ SETA 2016 ในครั้งนี้
งาน SETA 2016 ได้รับการสนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยหรือ EGAT, บริษัท ปตท จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ,การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ PEAบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCG ,บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด หรือ BMW,บริษัท มิตซูบิชิ ฮิตาชิ พาวเวอร์ ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด,การไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA บริษัท ซีเมนส์ ประเทศไทย,สำนักงานผู้แทน ไชน่า เจนเนอรัล นิวเคลียร์ พาวเวอร์ กรุ๊ป หรือ CGN และ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.)หรือ TCEB โดยงานจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 23-25 มีนาคม2559 ณ ศูนย์แสดงสินค้าไบเทคบางนา (เข้าชมฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย) สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.seta.asia