กรุงเทพฯ--19 ก.ค.--สสวท.
ผลการแข่งขันฟิสิกส์โอลิมปิกระหว่างประเทศ ครั้งที่ 32 ณ เมืองอันตาลิยา ประเทศตุรกี ที่แข่งขันระหว่างวันที่ 28 มิถุนายน - 6 กรกฎาคม 2544 ปรากฏว่าผู้แทนประเทศไทยคว้า 1 เหรียญทองแดง และ 3 เกียรติคุณประกาศ จากการแข่งขันดังกล่าว เหรียญทองแเดง คือ นายธารา เฉลิม ทรงศักดิ์ โรงเรียนเซนต์คาเบรียล เกียรติคุณประกาศ ได้แก่นายธิติ เตชธนพัฒน์ โรงเรียนวัดสุทธิ วราราม นายสุปิติ บูรณวัฒนาโชค และนายอุชุพล เรืองศรี โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย
ดร.พิศาล สร้อยธุหร่ำ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เปิดเผยว่า การแข่งขันฟิสิกส์โอลิมปิกระหว่างประเทศครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมแข่งขัน 306 คน จาก 67 ประเทศ และสังเกตการณ์ 1 ประเทศ ประเทศที่ได้เหรียญทองมากที่สุดคือจีน ได้ 4 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน ประเทศไทยทำคะแนนอยู่ในอันดับที่ 29 จาก 67 ประเทศทั่วโลก
เกณฑ์การตัดสินเหรียญรางวัลนั้น ผู้ที่ได้เหรียญทองจะต้องทำคะแนนได้ 42 คะแนนขึ้นไป เหรียญเงินอยู่ที่ 36 คะแนน เหรียญทองแดงอยู่ที่ 30 คะแนน และเกียรติคุณประกาศ 23 คะแนน ในปีนี้มีผู้ได้รับรางวัลทั้งหมด 157 คน แบ่งเป็นได้เหรียญทอง 22 คน เหรียญเงิน 39 คน เหรียญทองแดง 49 คน และเกียรติคุณประกาศ 47 คน
ทั้งนี้ธารา เฉลิมทรงศักดิ์ ผู้แทนประเทศไทยที่ได้เหรียญทองแดงทำคะแนนได้ 31.60 คะแนนจากคะแนนเต็ม 50 คะแนน ประเทศที่ทำคะแนนได้สูงสุด คือรัสเซีย 47.55 คะแนน อิหร่าน 46.80 คะแนน และเปรารุส 46.10คะแนนตามลำดับ
จากสถิติที่ร่วมแข่งขันฟิสิกส์โอลิมปิกของเด็กไทย ที่ทำได้แค่เหรียญทองแดง หากจะไต่เต้าไปจนถึงเหรียญทอง อาจดูเหมือนว่าฝันไกล นับว่าการแข่งขันฟิสิกส์โอลิมปิกยากสำหรับเด็กไทย แต่ สักวันเราคงจะไปถึงฝั่งฝันได้ หากเด็กได้รับการปูพื้นฐานทั้งทางทฤษฎีและฝึกปฏิบัติการอย่างเพียงพอ
ธารา เฉลิมทรงศักดิ์ กล่าวถึงสาเหตุที่ช่วยให้เขาได้เหรียญทองแดงจากการแข่งขันครั้งนี้ว่า “ข้อสอบฟิสิกส์โอลิมปิกยากมาก แต่คิดว่าตอบคำถามได้ตรงใจกรรมการจึงได้คะแนนค่อนข้างดี และ ขอแนะนำผู้ที่จะไปแข่งฟิสิกส์โอลิมปิกปีหน้าที่อินโดนีเซียว่าในระหว่างการแข่งขันทำใจให้สงบ อย่า ตื่นเต้นกับข้อสอบ และใช้เวลา 5 ชั่วโมงในการทำข้อสอบอย่างไม่ต้องรีบร้อน จะช่วยให้มีสมาธิมากขึ้น”
สุปิติ บูรณวัฒนาโชค กล่าวถึงประสบการณ์จากการแข่งขันว่า “จากที่ได้ไปแข่งขันฟิสิกส์โอลิมปิกระดับทวีปเอเซียที่ไต้หวันมาก่อน ทำให้มีประสบการณ์จึงตื่นเต้นน้อยลง ประทับใจเพื่อน ต่างชาติที่เป็นกันเอง เพื่อชาวตุรกีเป็นเจ้าบ้านที่ดี เพื่อนประเทศจีนที่ได้เหรียญทองก็ไม่หยิ่ง เพื่อนไต้หวันที่ได้เหรียญทุกคนคุยสนุก รู้สึกภูมิใจมากที่ได้เกียรติคุณประกาศ”
อุชุพล เรืองศรี มีข้อแนะนำสำหรับผู้แทนประเทศไทยที่จัะไปแข่งขันฟิสิกส์โอลิมปิกปีหน้าว่า “ควรเตรียมตัวสำหรับโจทย์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และอย่าตกใจเกินไปเมื่อเห็นโจทย์ครั้งแรก หากทำไม่ได้ให้ทบทวนดูหลายครั้ง เพราะจริง ๆ แล้วเราอาจมีความรู้ตรงนั้นอยู่แล้ว ถ้าตกใจไปก่อนก็อาจจะทำไม่ได้เลย ไปแข่งครั้งนี้ได้เพื่อนใหม่จากต่างประเทศ และได้รู้ว่าโลกนี้ยังมีคนเก่งกว่าเราอยู่มาก แต่ก็ไม่ท้อ”ธิติ เตชธนพัฒน์ กล่าวว่า “ข้อดีของการไปแข่งครั้งนี้ทำให้เราพัฒนาความสามารถทางฟิสิกส์ให้ดีขึ้น ได้เห็นว่าต่างชาติมีความสามารถเพียงใด และมีโอกาสพบเพื่อนใหม่ ๆ ได้เห็น วัฒนธรรมของต่างชาติ ข้อสอบครั้งนี้อยู่ในระดับที่พอทำได้ อ่านโจทย์แล้วก็ทำได้บ้าง ซึ่งการ แก้ปัญหาโจทย์พยายามทำให้รอบคอบและเป็นขั้นตอน”
มนัญญา ยังประภากร สาวน้อยคนเดียวในกลุ่ม ซึ่งพลาดรางวัลจากการแข่งขันครั้งนี้อย่างน่าเสียดาย บอกว่า “การแข่งขันครั้งนี้ข้อสอบยากมาก พยายามทำเต็มที่แล้วแต่ก็จัดการกับความเครียดได้ไม่ดีนัก คิดว่าเป็นความเครียดที่ทำข้อสอบไม่ค่อยดี ประสบการณ์ครั้งนี้ทำให้เป็น ผู้ใหญ่ขึ้น ได้ใช้ชีวิตด้วยตัวเอง และจัดการกับความคิดของตัวเองเวลาเกิดความเครียด”
การจัดส่งเด็กไทยไปแข่งโอลิมปิกวิชาการนอกจากเหรียญรางวัลแล้ว ยังได้ช่วยกระตุ้น ให้เกิดบรรยากาศทางวิชาการด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เพื่อให้เด็กไทยสนใจศึกษาวิชาดังกล่าวอย่างจริงจัง และเปิดโอกาสให้เด็กไทยที่มีความสามารถด้านนี้ได้เปิดตัวและมีโอกาสพัฒนาความสามารถของตัวเอง อย่างน้อยเด็กไทยหลายพันคนจากทั่วประเทศที่ก้าวเข้ามาร่วมแข่งขันคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์โอลิมปิกแห่งประเทศไทยและผ่านการแข่งขันจำนวนหนึ่ง ก็มีโอกาสได้ร่วมเข้าค่ายติวเข้มทางทฤษฎีและปฏิบัติ และรับการถ่ายทอดกลยุทธ์จากวิทยากรมือฉมังอย่าง เต็มที่แล้ว ซึ่งเป็นการปูพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ดีให้แก่เด็กกลุ่มนี้เพื่อไปต่อยอดในช่วงที่เรียนระดับสูงขึ้นไป--จบ--
-อน-