กรุงเทพฯ--25 ม.ค.--TQPR
กลุ่มลุฟท์ฮันซ่า ซึ่งเป็นลูกค้าและผู้ปฏิบัติการเครื่องบินรายใหญ่ที่สุดของแอร์บัส บันทึกประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญในอุตสาหกรรมการบินเมื่อเร็วๆ นี้ ด้วยการรับมอบเครื่องบินแอร์บัส เอ320นีโอ ลำแรก ซึ่งเป็นเครื่องบินทางเดินเดี่ยวที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดและขายดีที่สุดในโลก
เครื่องบินแอร์บัส เอ320นีโอ ได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์ แพรทท์ แอนด์ วิทนีย์ เพียวพาวเวอร์ เกียร์ เทอร์โบแฟน (Pratt & Whitney PurePower® Geared Turbofan™) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ทั้งหมด ทำให้สามารถสร้างมาตรฐานครั้งใหม่ที่มีระดับสูงยิ่งขึ้นกว่าเดิมในด้านประสิทธิภาพของเครื่องบิน การลดการปล่อยก๊าซและเสียงรบกวน รวมถึงความสามารถในการลดการเผาผลาญเชื้อเพลิงได้มากกว่าเครื่องบินรุ่นปัจจุบันในอัตราถึงร้อยละ 15 ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มปฏิบัติการบิน และจะเพิ่มขึ้นเป็นอัตราร้อยละ 20 ภายในปี พ.ศ.2563
"เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เราเป็นสายการบินแรกของโลกที่ได้ทำการรับมอบเครื่องบินแอร์บัส เอ320นีโอ จากการนำเทคโนโลยีชั้นนำของแอร์บัสและบริษัท แพรทท์ แอนด์ วิทนีย์ มาทำงานร่วมกัน ทำให้เครื่องบินแอร์บัส เอ320นีโอ เป็นเครื่องบินที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดและนำเสนอความเงียบสูงสุดในเส้นทางพิสัยการบินระยะกลางและระยะไกลในปัจจุบัน จากความสามารถในการใช้เชื้อเพลิงลดลงซึ่งส่งผลให้การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลดลง ทำให้เครื่องบินแอร์บัส เอ320นีโอ มีประสิทธิภาพในการปฏิบัติการเชิงสิ่งแวดล้อมที่พัฒนายิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งไปกว่านั้น เทคโนโลยีเครื่องยนต์ใหม่นี้ยังช่วยให้เครื่องบินมีความเงียบมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้ทำการสั่งซื้อเครื่องบินรุ่นดังกล่าวเป็นจำนวนทั้งหมด 116 ลำ สำหรับสายการบินต่างๆ ในกลุ่มลุฟท์ฮันซ่า" มร. คาร์สเตน สโปห์ ประธานกรรมการบริหารและประธานบริหารของบริษัท ลุฟท์ฮันซ่า เยอรมัน กล่าว
"เราได้ทำการพิสูจน์อีกครั้งว่าเราเป็นผู้บุกเบิกในด้านการพัฒนาและการแนะนำนวัตกรรมเชิงเทคโนโลยีในฐานะที่เราเป็นกลุ่มสายการบินและบริษัทในอุตสาหกรรมการบิน เฉพาะภายในปีนี้ กลุ่มลุฟท์ฮันซ่าจะทำการรับมอบเครื่องบินลำใหม่ทั้งหมดเป็นจำนวน 52 ลำ ซึ่งเป็นจำนวนที่ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นเวลาหลายปีแล้ว" มร. คาร์สเตน สโปห์ กล่าวเสริม
"บริษัท แพรทท์ แอนด์ วิทนีย์ ขอแสดงความยินดีกับสายการบินลุฟท์ฮันซ่าในฐานะลูกค้ารายแรกของเครื่องบินแอร์บัส เอ320นีโอ ซึ่งขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์ พีดับเบิลยู1100จี-เจเอ็ม" มร. โรเบิร์ต เลดุค ประธานบริษัท แพรทท์ แอนด์ วิทนีย์ กล่าว "แอร์บัสและสายการบินลุฟท์ฮันซ่าเป็นลูกค้ารายสำคัญของบริษัท แพรทท์ แอนด์ วิทนีย์ มาเป็นเวลาหลายปี และจากความสามารถในการลดการเผาผลาญเชื้อเพลิง การลดการปล่อยก๊าซ และการลดการส่งเสียงรบกวน อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนของเครื่องบินแอร์บัส เอ320นีโอ ผมมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือเชิงธุรกิจนี้จะยังคงประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในอีกหลายปีข้างหน้า "
"การส่งมอบเครื่องบินแอร์บัส เอ320นีโอ ลำแรกให้กับสายการบินชั้นนำของโลก ซึ่งในขณะเดียวกันยังเป็นลูกค้าที่ร่วมมือกับแอร์บัสมาอย่างยาวนานอย่างสายการบินลุฟท์ฮันซ่าถือเป็นวันที่ดีเป็นอย่างยิ่งสำหรับทีมงานแอร์บัสทุกคน" มร. ฟาบริซ เบรจิเย่ร์ ประธานและประธานบริหารแอร์บัส กล่าว "โอกาสนี้ถือเป็นก้าวใหม่ครั้งสำคัญในการทำตามความมุ่งมั่นเพื่อบรรลุเป้าหมายของอุตสาหกรรมในการพัฒนาอุตสาหกรรมการบินอย่างยั่งยืน เครื่องบินแอร์บัส เอ320นีโอ ได้รวบรวมความมุ่งมั่นและความตั้งใจของแอร์บัสในการส่งมอบคุณค่าและประสิทธิภาพของเครื่องบินในระดับสูงสุดให้กับลูกค้าของเราผ่านนวัตกรรมที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง"
ตระกูลเครื่องบินแอร์บัส เอ320นีโอ ได้รวบรวมเทคโนโลยีล่าสุดเอาไว้ด้วยกัน ซึ่งรวมถึงเครื่องยนต์รุ่นใหม่และการติดตั้งอุปกรณ์ปลายปีกชาร์คเล็ท และจากยอดคำสั่งซื้อเครื่องบินราว 4,500 ลำที่ได้รับจากลูกค้าราว 80 รายตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกในปี พ.ศ. 2553 ทำให้ตระกูลเครื่องบินแอร์บัส เอ320นีโอ มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ร้อยละ 60
เมื่อปีที่ผ่านมา สายการบินลุฟท์ฮันซ่าได้ทำการฉลองครบรอบ 60 ปีตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการในปี พ.ศ. 2498 ในช่วงระยะเวลานี้ ยอดรวมของคำสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัสของกลุ่มลุฟท์ฮันซ่าทั้งหมดมีจำนวนสูงถึง 582 ลำ ประกอบด้วยเครื่องบินแอร์บัสตระกูล เอ320 จำนวน 386 ลำ โดยจำนวน 116 ลำ เป็นเครื่องบินที่ใช้ทางเลือกเครื่องยนต์แบบใหม่ (New Engine Option: NEO) ประกอบด้วยเครื่องบินแอร์บัส เอ320นีโอ จำนวน 71 ลำ และเครื่องบินแอร์บัส เอ321นีโอ จำนวน 45 ลำ นอกจากนี้ ตระกูลเครื่องบินรุ่นลำตัวกว้างที่มีความครอบคลุมของแอร์บัสยังได้เป็นส่วนหนึ่งของฝูงบินของสายการบินลุฟท์ฮันซ่าตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ตั้งแต่เครื่องบินแอร์บัส เอ300/เอ310 ซึ่งเป็นเครื่องบินแห่งนวัตกรรม ไปจนถึงเครื่องบินแอร์บัส เอ380 (ให้บริการอยู่ 14 ลำในปัจจุบัน) รวมถึงเครื่องบินที่มีความสามารถรอบด้านอย่างเครื่องบินแอร์บัส เอ330 และเครื่องบินที่มีความทันสมัยและนำเสนอความสบายแบบพิเศษอย่างเครื่องบินแอร์บัส เอ350 เอ็กซ์ดับเบิลยูบี (มียอดคำสั่งซื้อจำนวน 25 ลำ)