ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิลมองลงทุนปี 2016 เศรษฐกิจโลกขยายตัวภายใต้ความผันผวนคัด 3 ธีมลงทุนหลัก

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 28, 2016 14:39 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 ม.ค.--บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิลมองลงทุนปี 2016เศรษฐกิจโลกขยายตัวภายใต้ความผันผวนคัด 3 ธีมลงทุนหลัก 1) Policy Divergence วางหมากลงทุนภายใต้นโยบายที่สวนทาง 2) Selection is the Key เน้นกองทุนที่เก่งเลือกหุ้นรายตัว–แนะนำซิวเวอร์เอจ ไอพร็อพ หุ้นยุโรป 3) Focus on Infrastructure เน้นหุ้นกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานเติบโตต่อเนื่อง เปิดตัว 'กองทุนโกลบอล อินฟราสตรัคเจอร์' คาดผลตอบแทน10%-15%ต่อปี นายวิน พรหมแพทย์, CFA ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จำกัด มองภาพรวมการเติบโตของเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มขยายตัวอยู่ที่ระดับ 3.1%-3.4% จากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจสหรัฐฯจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น ซึ่งมีโอกาสที่เงินทุนจะไหลกลับเข้าลงทุนในสหรัฐฯเพิ่มขึ้น ในขณะที่การฟื้นตัวของกลุ่มยูโรโซนและญี่ปุ่นยังคงใช้นโยบายเชิงผ่อนคลาย (QE) ต่อเนื่องและการคงอัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาในขณะที่กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) เริ่มมีเสถียรภาพดีขึ้น โดยเน้นที่ภูมิภาคเอเชียเป็นหลักที่จะสามารถเติบโตได้ ส่วนกลุ่มประเทศละตินอเมริกาและตะวันออกกลางยังคงได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับลดลงส่งผลต่อเศรษฐกิจอ่อนแอ อย่างไรก็ตาม การชะลอตัวทางเศรษฐกิจจีนจะยังคงเป็นปัจจัยลบที่กระทบต่อภาพการลงทุนทั่วโลก โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจีนจะเติบโตอยู่ในระดับประมาณ 6.3% (IMF, October 2015) ซึ่งมาจากถดถอยของการลงทุนภาครัฐและเอกชน ทำให้คาดการณ์ว่าทางการจีนจะเน้นการเพิ่มการบริโภคภาคครัวเรือน รวมถึงมีโอกาสที่ธนาคารกลางจีนจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยและอัตราส่วนเงินกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลงเพื่อเป็นการกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล แบ่งธีมการลงทุนเป็น 3 กลุ่ม ธีมการลงทุนที่ 1 การดำเนินนโยบายสวนกัน (Policy Divergence)โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ เตรียมขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในขณะที่ภูมิภาคยุโรปและญี่ปุ่นคงนโนบายอัตราดอกเบี้ยต่ำและการทำ QE ต่อเนื่อง ส่วนธนาคารกลางอังกฤษเตรียมที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย และธนาคารกลางจีนมีแนวโน้มที่จะลดอัตราดอกเบี้ยลง ทำให้การลงทุนในปี 2016 ต้องเผชิญกับภาวะความผันผวน ส่งผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนของภูมิภาคเอเชียแกว่งตัว ซึ่งกระทบต่อภาคการส่งออกและการค้าระหว่างประเทศ ธีมการลงทุนที่ 2 เน้นกลยุทธ์เลือกหุ้นรายตัว(Selection is the Key) ภายใต้ความไม่แน่นอนของการลงทุน การคัดเลือกลงทุนเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเน้นลงทุนในกองทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างสม่ำเสมอโดยมาจากหุ้นที่เลือกลงทุนที่มีผลประกอบการดีสามารถเติบโตได้ถึงแม้ภาวะการลงทุนจะผันผวน ได้แก่ กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล โกลบอล ซิวเวอร์ เอจ (CIMB-Principal Global Silver Age Fund)ลงทุนในกลุ่มกลุ่มธุรกิจ'Silver Age' ที่เติบโตจากกำลังซื้อที่มีความมั่งคั่งและมีอำนาจการใช้จ่ายสูงเน้นธุรกิจที่เอื้อประโยชน์ต่อไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของกลุ่มเกษียณมั่งคั่งกลุ่มการแพทย์กลุ่มผลิตภัณฑ์ความงามกลุ่มอุตสาหกรรมท่องเที่ยว กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล ยูโรเปี้ยน อิควิตี้ (CIMB-Principal European Equity Fund)เน้นลงทุนในหุ้นพื้นฐานดีในภูมิภาคยุโรปที่มีแนวโน้มและศักยภาพการเติบโตสูงปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากมาตรการQE ของยุโรปที่ขยายเวลาการทำ QE ออกไปถึงเดือนมีนาคม 2017 ในวงเงินเดือนละ60,000 ล้านยูโร เพื่อกระตุ้นให้เศรษฐกิจและตลาดหุ้นยุโรปฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล พร็อพเพอร์ตี้ อินคัม (CIMB-Principal Property Income Fund)ลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์REITsโดยกองทุนได้รับผลตอบแทนที่สม่ำเสมอจากเงินปันผลที่มาจากรายได้ค่าเช่าของสินทรัพย์ลงทุน ธีมการลงทุนที่ 3Focus on Infrastructure การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเป็นกลไกสำคัญที่แต่ละประเทศใช้เป็นเครื่องมือในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงในภาวะที่ตลาดลงทุนผันผวน การเลือกลงทุนในหุ้นกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานถือเป็นการลงทุนในกลุ่ม Defensive Play เนื่องจากให้อัตราผลตอบแทนที่สม่ำเสมอและมีโอกาสเติบโตตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในระยะยาว คุณวิน กล่าวว่า "เรามองว่าเศรษฐกิจโลกจะปรับตัวดีขึ้น แต่ภายใต้ภาวะการลงทุนที่มีปัจจัยความไม่แน่นอน แนะนำให้ปรับพอร์ตลงทุน เพิ่มน้ำหนักกองทุนที่เน้นเลือกหุ้นรายตัวแบบ Bottom-up Stock Selection เน้นหุ้นที่ได้รับผลกระทบน้อยจากภาวะเศรษฐกิจโลกโดยแบ่งการลงทุนเป็น 2 พอร์ตหลักคือ พอร์ตการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ และพอร์ตการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนในแต่ละช่วงจังหวะการลงทุน หากท่านนักลงทุนใช้เทคนิคการจัดพอร์ตการลงทุนแบบนี้แล้วจะทำให้พอร์ตการลงทุนของนักลงทุนสามารถสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมสำหรับการลงทุนในปีนี้" กองทุนเปิด Y2015 3เดือน 6เดือน 1ปี 3ปี ตั้งแต่จัดตั้งกองทุน กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล พร็อพเพอร์ตี้ อินคัม–A 4.60% 1.30% -1.14% 4.60% 3.75% 8.14% ดัชนีกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (PFUND) และThe FTSE Strait times REIT Index 1.83% 1.03% -1.74% 1.83% 0.74% 6.10% กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล ยุโรเปี้ยน อิควิตี้ - 8.40% 1.01% - - 0.97% MSCI Europe 1.02% -1.05% -2.45% กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล เจแปนนิส อิควิตี้ ฟันด์ 11.37% 10.34% -4.12% 11.37% - 13.18% MSCI JAPAN NTR 19.84% 8.41% 2.91% 19.84% 11.01% กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล โกลบอล ซิวเวอร์เอจ - - - - - 3.54% MSCI World 0.72% ที่มา: Morningstar 31 ธันวาคม 2558 การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต เอกสารการวัดผลการดำเนินงานของกองทุนรวมฉบับนี้ได้จัดทำขึ้นตามมาตรฐานการวัดผลการดำเนินงานของกองทุนรวมของสมาคมบริษัทจัดการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลของกองทุนรวมโดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายการลงทุน ความเสี่ยงและผลการดำเนินงานของกองทุนรวมที่เปิดเผยไว้ในเวปไซต์ของบริษัท หรือสามารถขอข้อมูลได้จากฝ่ายการตลาดก่อนตัดสินใจลงทุน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ