กรุงเทพฯ--1 ก.พ.--กลุ่มประชาสัมพันธ์ กระทรวงวัฒนธรรม
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานความคืบหน้าการขับเคลื่อนงานของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ หลังจากประกาศพระราชบัญญัติกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ พ.ศ. 2558 ซึ่งมีผลใช้บังคับใช้เมื่อปีที่ผ่านมา โดยในบทเฉพาะกาล กำหนดให้การดำเนินงานของกองทุนฯ ในวาระเริ่มแรกอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงวัฒนธรรม ดังนั้นในการดำเนินงานช่วงแรกโดยได้ใช้สถานที่ตั้งสำนักงานใหญ่กองทุนฯ ชั่วคราว ณ บริเวณชั้น 2 ของอาคารกระทรวง พร้อมทั้งแต่งตั้งรองปลัดกระทรวงวัฒนธรรมปฏิบัติหน้าที่ผู้จัดการกองทุนและให้ข้าราชการและลูกจ้างของกระทรวงฯ มาปฏิบัติหน้าที่ในสำนักงานกองทุนฯ เป็นการชั่วคราว อย่างไรก็ตามสถานะของกองทุนฯ ถือว่าเป็นนิติบุคคล
นายวีระ กล่าวต่อว่า หน้าที่และวัตถุประสงค์กองทุนฯ มี 7 ด้านหลักๆ 1.รณรงค์ ส่งเสริม และสนับสนุนการพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ 2.ส่งเสริมให้มีการพัฒนาศักยภาพของผู้ผลิตสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ 3.ส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนโดยเฉพาะเด็ก เยาวชนและครอบครัวมีทักษะในการรู้เท่าทันสื่อเฝ้าระวังสื่อที่ไม่ปลอดภัยและไม่สร้างสรรค์ และสามารถใช้สื่อในการพัฒนาตนเองชุมชนและสังคม 4. ส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างกว้างขวาง เพื่อให้เกิดการพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ 5. ส่งเสริมให้มีการศึกษาวิจัย อบรม พัฒนาองค์ความรู้และการสร้างนวัตกรรมด้านสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ 6. ส่งเสริมบุคคล องค์กรชุมชน องค์กรเอกชน องค์กรสาธารณประโยชน์ ส่วนราชการรัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ ที่ดำเนินกิจกรรมเกี่ยวกับสื่อให้มีการผลิตและพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ 7.ดำเนินการและส่งเสริมให้มีสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้อย่างทั่วถึง
"อย่างไรก็ตามช่วงแรกมีหลายภารกิจเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ โดยจากการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกองทุนฯ เพื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 9 ด้าน ซึ่งขณะนี้ ครม. เห็นชอบแต่งตั้งเรียบร้อยแล้ว และได้จัดประชุมแบบครบองค์คณะไปแล้ว 1 ครั้ง และครั้งที่ 2 กำหนดจัดประชุมวันที่ 25ก.พ.นี้ ซึ่งมีประเด็นสำคัญคือการจัดทำแผนแม่บท แผนยุทธศาสตร์ และแผนปฏิบัติการกองทุนฯ เพื่อเสนอของบประมาณจากแหล่งเงินทุน อาทิ จากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ รวมถึงดำเนินการขอเงินทุนประเดิมจากรัฐบาล และเงินค่าปรับที่ได้รับจากการลงโทษผู้ละเมิดลิขสิทธิ์หรือสิทธิของนักแสดงตามกฎหมายว่าด้วยลิขสิทธิ์ โดยกระทรวงการคลัง ได้ออกระเบียบมารองรับเรื่องดังกล่าวแล้ว" นายวีระ กล่าว
หลังจากนี้จะมีการสรรหาผู้จัดการกองทุนฯ เพื่อทำหน้าที่รับผิดชอบการบริหารกิจการของสำนักงานกองทุนฯ ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ และตามกฎหมาย โดยภายในเร็วๆ นี้จะประกาศรับสมัครผู้ที่มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับการพิจารณาคัดเลือกให้เป็นผู้จัดการกองทุนฯ และหลังจากที่ได้ผู้จัดการกองทุนฯ เรียบร้อยแล้ว ภารกิจของกองทุนฯ ในวาระเริ่มแรกภายใต้การดูแลของ วธ. ก็จะเสร็จสิ้นลง โดยกองทุนฯ จะเป็นหน่วยงานอิสระที่ดำเนินกิจการด้วยตนเองภายใต้กฎหมายกำหนด และเมื่อกองทุนฯ สามารถดำเนินภารกิจได้อย่างเต็มรูปแบบแล้ว จะเป็นแหล่งเงินทุนสำคัญที่จะสนับสนุนให้เกิดการผลิตสื่อที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ให้มีจำนวนมากออกสู่สังคม รวมถึงการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ด้านสื่อ เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน และสร้างคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติต่อไปในอนาคต