เชิญร่วมกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ 5 ธันวามหาราชบริเวณ ถ.เยาวราช

ข่าวทั่วไป Wednesday November 28, 2001 13:53 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 พ.ย.--กทม.
ที่ห้องประชุม ชั้น 5 สำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ ปลัดกรุงเทพมหานครเป็นประธานแถลงข่าวการจัดงานเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2544 ณ บริเวณวงเวียนโอเดียน และ ถ.เยาวราช โดยมี นายประวิทย์ พันธุ์วิโรจน์ ผู้อำนวยการเขตสัมพันธวงศ์ นายอมร อภิธนาคุณ นายกสมาคมชาวไทยเชื้อสายจีน และผู้เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กทม.โดยเขตสัมพันธวงศ์ร่วมกับชาวไทยเชื้อสายจีนและชาวสัมพันธวงศ์ กำหนดจัดงานเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวามหาราช เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว บริเวณ ถ.เยาวราช ซึ่งเป็นการจัดงานเสริมงานเฉลิมฉลองบริเวณท้องสนามหลวง โดยมีกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย และจะมีการจุดเทียนชัยถวายพระพรเวลาเดียวกับการจัดงานบริเวณท้องสนามหลวง
นายกสมาคมชาวไทยเชื้อสายจีน กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2544 บริเวณวงเวียนโอเดียนและถนนเยาวราช ประกอบด้วย พิธีทางพุทธศาสนาตั้งแต่เช้าของวันที่ 5 ธันวาคม พร้อมกิจกรรม นิทรรศการพระมหากษัตริย์ในพระบรมราชจักรีวงศ์ เต็นท์ตัดผมฟรี งานมหกรรมของดีของเด่นทั้ง 50 เขตของกรุงเทพมหานครตลอดทั้งวัน รวมทั้งจัดการเลี้ยงอาหารแก่ประชาชน ที่บริเวณซอยด้านข้างอาคารเยาวราชเพลสในตอนกลางวัน และตอนเย็น การแสดงบนเวที พิธีจุดเทียนชัยพร้อมกันกับที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง พร้อมชมโชว์ชุดพิเศษคณะนาฏศิลป์จีนจากกรุงปักกิ่ง ซึ่งเป็นคณะเดียวกับที่เคยมาแสดงให้มูลนิธิจุฬาภรณ์ในงานสายสัมพันธ์สองแผ่นดิน ซึ่งทางรัฐบาลจีนได้อนุญาตเป็นกรณีพิเศษ ให้มาร่วมแสดงบนเวทีเทิดพระเกียรติในครั้งนี้
นอกจากนี้ สมาคมชาวไทยเชื้อสายจีนยังได้ร่วมกับกรุงเทพมหานคร จัดโครงการเปลี่ยนสะโพกเทียม และข้อต่อหัวเข่าเทียมให้กับผู้ป่วยยากไร้ในโรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานคร 4 แห่ง อาทิ โรงพยาบาลกลาง โรงพยาบาลวชิระ เป็นต้น และจะขยายต่อไปยังต่างจังหวัดเพื่อมิให้ผู้ป่วยต้องเดินทางเข้ามารักษาในกรุงเทพฯ โดยจะดำเนินการตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม 2544 จนถึง วันที่ 5 ธันวาคม 2545 ตลอดทั้งปี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สำหรับงบประมาณที่จะนำมาดำเนินโครงการฯ นั้น มาจากการนำเหรียญที่ได้รับพระบรมราชานุญาตให้จัดสร้าง เมื่อปี พ.ศ.2542 และยังคงตกค้างอยู่จำนวน 3 แสนเหรียญ มาจำหน่ายในราคาเหรียญละ 200 บาท และนำเงินจำนวน 60 ล้านบาท จากการจำหน่ายมาตั้งเป็นกองทุน เพื่อรักษาผู้ป่วยที่ยากไร้ถวายเป็นพระราชกุศล--จบ--
-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ