กรุงเทพฯ--25 ก.พ.--โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ
ศิลปินวาดภาพสไตล์โมเดิร์นและสตรีทอาร์ตที่มีชื่อเสียงระดับโลก 8 คน ร่วมกันสร้างสรรค์งานศิลปะหนึ่งเดียวในธีม "สรวงสวรรค์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา" มอบเป็นสมบัติของโรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ งานศิลป์ชิ้นนี้ได้รับการจัดวางอย่างโดดเด่นเพื่อให้แขกของโรงแรมฯได้ชื่นชมที่บริเวณทางเดินชั้น 3 ใกล้ๆกับสโมสรสุขภาพระหว่างแชงกรี-ลาวิงและกรุงเทพวิง
แม้จะมีภูมิหลัง ประสบการณ์และแรงบันดาลใจในงานศิลปะที่แตกต่าง ศิลปินทั้ง 8 คนจาก 5 ประเทศได้แก่ เนเธอร์แลนด์ โรมาเนีย กรีก เกาหลี ญี่ปุ่นและไทย ต่างพร้อมใจกันวาดภาพหนึ่งเดียวที่สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตริมลำน้ำเจ้าพระยา
ศิลปินชาวเนเธอร์แลนด์ ดาน บอทเล็ค (Dan Botlek) วาดภาพภูเขาสูงตระหง่านของคลื่นน้ำ เขาได้แสดงให้เห็นความสามารถในการจับจุดเด่นของจุดสูงสุดของคลื่นน้ำ และนำมาเรียบเรียงเป็นภาพวาดอันสวยงามดั่งคลื่นน้ำที่ให้ความชุ่มชื้นแก่สรรพสิ่งที่อยู่รอบๆแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นโครง สร้างพื้นฐานที่สำคัญต่อเศรษฐกิจของกรุงเทพฯ เขาเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงด้านการวาดภาพฝาผนังขนาดใหญ่และสิ่งนี้ทำให้เขากลายเป็นศิลปินสตรีทอาร์ตที่มีผลงานหลากหลาย ซับซ้อนและมีความหมาย
ขณะที่ศิลปินชาวโรมาเนีย 2 คนคือ ไอค์ และซาดโด (Aitch และ Saddo) ได้สร้างสรรค์ภาพวาดเกี่ยวกับพืช ดอกไม้และนกในอยู่ภายในผืนผ้าใบเดียวกัน
ไอค์ ศิลปินและนักวาดภาพประกอบ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากต้นไม้ พืชและน้ำ น้ำสร้างความชุ่มฉ่ำให้กับพืชพรรณริมน้ำทำให้ผลิตดอกออกผล ที่ใดมีน้ำที่นั่นจะมีต้นไม้และดอกไม้ จึงได้วาดภาพสะท้อนผ่านการเคลื่อนไหวและลักษณะนิสัยของดอกไม้ ก้านดอกที่มีความยืดหยุ่นพลิ้วไหวไปตามแรงลม
เธอเริ่มวาดภาพแปลกๆเช่นรูปสัตว์ประหลาดตัวอ้วนในระหว่างศึกษาที่มหาวิทยาลัยศิลปะและการออกแบบในโรมาเนีย งานศิลปะของเธอมีตั้งแต่แบบสีชมพูน่ารักและสง่างาม ไปจนถึงงานที่น่ากลัวชวนขนลุก กึ่งศาสนา และตัวละครแปลกประหลาด ภายในชิ้นเดียวกัน
ไม่ว่าจะเป็นนกยูง นกกระจอกขี้เล่น นกแร้งจอมวางแผน หรือกาที่แสนฉลาด สัตว์เหล่านี้เป็นนกที่มีเสน่ห์ทั้งหมดสำหรับผู้ชม แต่สำหรับศิลปินอย่างซาดโด นกมีความหมายมากกว่านั้น น้ำเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญต่อระบบนิเวศน์ ที่สร้างความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตต่างๆกับสิ่งแวดล้อม เขาจึงวาดภาพนกเพราะสามารถบินไปได้ทุกแห่งหน และพบเห็นได้ในทุกๆที่ที่มีน้ำ
ซาดโดเรียนรู้พื้นฐานของการวาดภาพจากมหาวิทยาลัยศิลปะในโรมาเนีย ภาพวาดของเขาได้เข้าร่วมแสดงในงานนิทรรศการศิลปะที่เมืองใหญ่ๆหลายครั้ง เช่น กรุงเบอร์ลิน เวียนนา ออตตาวา นิวยอร์ก ลอสแองเจลิส และโคเปนเฮเกน ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2549 จนถึงปัจจุบัน
ศิลปินเกาหลี แดยุน คิม (Daehyun Kim) ได้วาดภาพมนุษย์สองคนออกมาเป็นงานศิลปะแบบ 2D เขาเป็นศิลปินที่มีความสามารถในการวาดภาพมนุษย์และมีแนวคิดแบบคลาสสิค เห็นได้จากน้ำที่ไหลลงมาจากไหล่ของคนในภาพวาดชิ้นนี้ เมื่อใดที่นึกถึงแม่น้ำจะต้องนึกถึงผู้คนที่ใช้ชีวิตผูก พันธ์กับน้ำ
แดยุน คิม ศึกษาจิตรกรรมตะวันออก ซึ่งเป็นการศึกษาเกี่ยวกับการวาดภาพแบบดั้งเดิมในภูมิภาคเอเชียตะวันออก เขาได้วาดภาพชุด Moonassi ตั้งแต่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย มันเป็นการวาดภาพแบบไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลังหรือเรื่องที่เฉพาะเจาะจง การวาดภาพแต่ละครั้งจะถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานความคิดประจำวันและความรู้สึก เขาวาดภาพเพื่อเป็นการสร้างสมาธิให้ผู้อื่นและตัวเขาเอง และเพื่อเป็นการทำให้เห็นเรื่องราวทั้งหมดของซีรีส์ในท้ายที่สุด
ภาพวาดของ โมโตมิชิ นากามูระ (Motomichi Nakamura) ศิลปินชาวญี่ปุ่น มีแนวคิดที่แสดงให้เห็นถึงสิ่งลึกลับภายใต้น้ำ สัตว์ประหลาดที่มีร่างสีดำ ทำให้ผู้คนคิดได้ว่าไม่เพียงแต่มีมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่นๆที่อาศัยอยู่บนพื้นดิน แต่อาจจะมีสัตว์ทะเลและสัตว์อื่นๆที่เหนือจินตนาการอาศัยอยู่ใต้น้ำด้วยเช่นกัน
โมโตมิชิย้ายไปเอควาดอร์ในปี พ.ศ. 2541 หลังจบการศึกษาจากโรงเรียนการออกแบบพาร์สันส์ และได้กลับไปใช้ชีวิตและทำงานที่นครนิวยอร์กในปี พ.ศ. 2544 จนถึงปัจจุบัน ภูมิหลังที่เป็นชาวญี่ปุ่นได้ถ่ายทอดออกมาในงานของเขาเพื่อสร้างอารมณ์ขัน ซึ่งตรงกันข้ามกับลักษณะการทำงานของเขา
ไรน้ำที่เปรียบเสมือนยังมีชีวิตอยู่ในภาพวาดชิ้นนี้ ถ่ายทอดออกมาในลักษณะที่มีลำตัวยาว ซึ่งทำให้ผู้ชมดูได้อย่างสนุก คล้ายๆกับมันกำลังความเคลื่อนไหว ศิลปินชาวไทย โลเลย์ (Lolay) เห็นความสำคัญของสิ่งมีชีวิตเล็กๆนี้ ที่อยู่กับพวกเราตลอดเวลาเมื่อลงเล่นน้ำ ไรน้ำต่างๆเหล่านี้จะช่วยทำให้ระบบนิเวศน์สมดุล เป็นอาหารของสัตว์น้ำต่างๆในวัยเยาว์ จนเจริญเติบโตเป็นอาหารของมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ โลเลย์จบการศึกษาปริญญาโทสาขาศิลปกรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยศิลปากร เขาเคยจัดนิทรรศการภาพหลายครั้งทั้งงานเดี่ยวและงานกลุ่มทั้งในและต่างประเทศ
คัลท์ (Kult) เป็นอีกหนึ่งศิลปินไทยที่ได้วาดภาพกะลาสี แม้ว่าใบหน้าของกะลาสีเรือนั้นจะดูวิตกกังวลแต่ก็ได้ทำให้เขาเป็นจุดเด่นที่ชัดเจนและมีเอกลักษณ์ กะลาสีเรือคือบุคคที่ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยุ่กับน้ำ คนเหล่านี้จะมีหน้าที่หลากหลายตามประเภทของธุรกิจที่ต้องพึ่งพาสายน้ำ ซึ่งมีส่วนทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนน่าอภิรมย์ คัลท์เป็นศิลปินวาดภาพประกอบที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ จบ การศึกษาจากมหาวิทยาลัยศิลปากร และได้เข้าร่วมในงานนิทรรศการศิลปะหลายครั้งทั้งที่กรุงเทพฯและต่างประเทศ
ศิลปินชาวกรีก ฟิโกส (Fikos) สร้างสรรค์ผลงานที่ลื่นไหลไปกับภาพวาดของศิลปินคนอื่นๆที่อยู่ใกล้เคียง โดยได้วาดภาพเทวดาที่กำลังโอบอุ้มเรือและมีกะลาสีอยู่บนเรือ เหมือนจะบอกกล่าวให้เห็นว่าเทวดาจะปกปักรักษาเรือและกะลาสีให้แคล้วคลาดปลอดภัยยามออกเรือเดินทาง
ฟิโกสเกิดในกรุงเอเธนส์ ซึ่งเป็นที่ที่เขาอาศัยอยู่ในขณะนี้ ด้วยภูมิหลังที่เป็นศิลปินวาดภาพกราฟฟิติ และได้ศึกษาทางด้านประติมากรรมที่ในออร์โธดอกคริสเตียน เขายังคงพัฒนฝีมือด้วยการวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังในสถานที่สาธารณะ นอกจากเหนือจากประเทศกรีซ งานของเขายังได้รับการจัดแสดงในประเทศฝรั่งเศส บัลแกเรีย อังกฤษ ไอร์แลนด์ ยูเครน ออสเตรีย ลิทัวเนีย สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์และเม็กซิโก
ศิลปินทั้งแปดได้สร้างสรรค์ผลงานร่วมกันที่บริเวณสนามหญ้า กรุงเทพวิง ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ระหว่างงานจิบน้ำชายามบ่ายที่โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯจัดขึ้น เพื่อแนะนำศิลปิน 13 คนจาก 8 ประเทศในทวีปยุโรป 3 ประเทศในเอเชียรวมทั้งประเทศไทย ซึ่งงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของ บุกรุก II เออร์บัน อาร์ต เฟสติวัล โดยโรงแรมฯร่วมให้การสนับสนุน เทศกาลนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยให้กรุงเทพฯเป็นศูนย์กลางศิลปะในระดับภูมิภาคและยกระดับกรุงเทพฯให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ท่ามกลางงานศิลปะ