พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ในการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานในภาคอุตสาหกรรม ระหว่างการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กับ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย”

ข่าวทั่วไป Tuesday March 1, 2016 16:42 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 มี.ค.--สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สถาบันพลังงานเพื่ออุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สนับสนุนโดย กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน ร่วมกับ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ในการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานในภาคอุตสาหกรรม ระหว่างการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กับ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ภายใต้โครงการศึกษาแนวทางการอนุรักษ์พลังงานในภาคอุตสาหกรรมแต่ละภูมิภาค ขึ้น เมื่อวันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559 ณ ห้อง Board room 3 โซนซี ชั้น 3 ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เดินหน้าวิเคราะห์หาแนวทางส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานอย่างต่อเนื่อง นายณรงค์ บัณฑิตกมล เปิดเผยในฐานะประธานคณะทำงานโครงการศึกษาแนวทางการอนุรักษ์พลังงานในภาคอุตสาหกรรมแต่ละภูมิภาค ว่า สถาบันพลังงานเพื่ออุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน ให้ดำเนิน "โครงการศึกษาแนวทางการอนุรักษ์พลังงานในภาคอุตสาหกรรมแต่ละภูมิภาค" โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงจุดแข็งและจุดอ่อนด้านการอนุรักษ์พลังงาน รวมถึงสภาพปัญหาอุปสรรคและความต้องการเกี่ยวกับการอนุรักษ์พลังงานของผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม จากทั่วประเทศเพื่อนำมาวิเคราะห์หาแนวทางส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ในอนาคตให้มีความเหมาะสมกับปัญหาของภาคอุตสาหกรรมนั้น โดยโครงการดังกล่าวจะเป็นการเข้าไปสำรวจโรงงานประเภทต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งการดำเนินโครงการให้ประสบผลสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพนั้น จำเป็นต้องอาศัยความรู้และประสบการณ์ที่หลากหลายจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะด้านการการประหยัดพลังงาน และด้านการตรวจวัดทางวิศวกรรม ซึ่งสถาบันพลังงานฯ เล็งเห็นถึงความเชี่ยวชาญของ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ในเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างดี เนื่องจากได้ร่วมมือกันดำเนินกิจกรรมการอนุรักษ์พลังงานให้กับภาคอุตสาหกรรมร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะร่วมกันเป็นเครือข่ายหน่วยงานความร่วมมืออย่างเป็นทางการ เพื่อร่วมกันส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานในภาคอุตสาหกรรมอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป "บันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานในภาคอุตสาหกรรม ระหว่าง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กับ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นครั้งสำคัญของการทำงานเป็นเครือข่าย เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายร่วมกันคือ การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานในอนาคตให้มีความเหมาะสมกับปัญหาของภาคอุตสาหกรรม โดยการร่วมลงนามมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมมือกันที่จะแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร, ความรู้เชิงวิชาการ, การให้บริการด้านพลังงาน และโครงการสิทธิประโยชน์ด้านพลังงานที่เป็นประโยชน์ต่อภาคอุตสาหกรรม และร่วมกันประชาสัมพันธ์เผยแพร่ให้ภาคอุตสาหกรรมได้รับทราบ และใช้ประโยชน์จากบริการและโครงการฯ ต่างๆ ของทั้งสองฝ่าย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อความร่วมมือในการให้ความอนุเคราะห์ทรัพยากรที่เกี่ยวข้องด้านพลังงานของทั้งสองฝ่าย ทั้งทรัพยากรบุคคล และทรัพยากรเครื่องมือตรวจวัดด้านพลังงาน เพื่อใช้ประโยชน์ในการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานในภาคอุตสาหกรรมภายใต้กิจกรรม หรือโครงการฯ ของแต่ละฝ่าย ตามความเหมาะสม รวมถึงเพื่อร่วมกันพัฒนาขีดความสามารถในการให้บริการด้านพลังงานของทั้งสองฝ่าย ด้วยการจัดกิจกรรมพัฒนาความสามารถร่วมกัน เป็นต้น" นายณรงค์ กล่าว ด้าน นายวิลาศ งามแสงรุ่งสาโรจน์ รองผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า กระแสไฟฟ้านับเป็นสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่สำคัญยิ่งในการพัฒนาประเทศในทุกๆ ด้าน ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้ให้ความสำคัญในเรื่องของการประหยัดพลังงานมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี พ.ศ. 2557 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้มีการจัดตั้งฝ่ายส่งเสริมพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน เพื่อเป็นหน่วยงานหลักในการรองรับการให้บริการด้านการจัดการพลังงานและอนุรักษ์พลังงานแก่ภาคส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม ภาคธุรกิจและครัวเรือน และภาคไฟฟ้าสาธารณะ ในรูปแบบของการให้บริการแบบครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่การสำรวจตรวจสอบ และวิเคราะห์ศักยภาพในการ ลดการใช้พลังงาน การนำเสนอมาตรการประหยัดพลังงานและเงินลงทุน รวมถึงจัดหาและติดตั้งอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน พร้อมทั้งตรวจวัดและพิสูจน์ผลประหยัดที่เกิดขึ้น โดยการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ ก็ถือเป็นอีกครั้งหนึ่งที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่จะได้ร่วมมือกับ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานในภาคอุตสาหกรรม เพื่อให้เกิดการตระหนักและลดการใช้พลังงานได้อย่างเป็นรูปธรรม สอดคล้องกับเป้าหมายของแผนอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2558 - 2579 ที่ต้องการลดการใช้พลังงานของภาคอุตสาหกรรมให้ได้อย่างน้อย 22 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ การร่วมมือกันระหว่างสองหน่วยงาน จะเป็นการสร้างเครือข่ายในการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานของประเทศ ซึ่งก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการและประสบการณ์ร่วมกัน ตลอดจนพัฒนาขีดความสามารถในการให้บริการด้านการอนุรักษ์พลังงานของทั้งสองฝ่ายด้วย…

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ