กรุงเทพฯ--3 เม.ย.--ศูนย์ข้อมูลสุขภาพเพศชาย
ศูนย์ข้อมูลสุขภาพเพศชาย (Information Centre on Men's Health - ICMH) รณรงค์ให้ความรู้กับประชาชนผ่านสื่อโฆษณาทางโทรทัศน์ ย้ำโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศรักษาหายได้ ต้องปรึกษาแพทย์ ทั้งนี้เพื่อป้องกันปัญหาครอบครัวเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และการรักษาอย่างผิดวิธี
พลตรี น.พ. ประวิชช์ ตันประเสริฐ ประธานศูนย์ข้อมูลสุขภาพเพศชาย กล่าวถึงมูลเหตุจูงใจในการจัดทำภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ในครั้งนี้ว่า "เกิดจาก การสรุปผลศึกษาระบาดวิทยาของโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรือโรคอีดี ในชายไทย พบว่าชายไทยประมาณ 3 ล้านคน เป็นโรคอีดี และมีเพียงร้อยละ 2 เท่านั้น ที่เคยหาวิธีการรักษา ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง คณะกรรมการศูนย์ข้อมูลสุขภาพเพศชายจึงมีความเห็นว่าควรที่จะรณรงค์ให้ผู้ป่วยได้เข้ารับ การรักษาจากแพทย์ เพื่อช่วยให้คุณภาพชีวิตของเขาดีขึ้น"
นอกจากนั้น ปัญหาการหย่าร้างของคู่ครองในประเทศไทยที่เพิ่มขึ้นนั้น มีสาเหตุหลายประการ สาเหตุหนึ่งก็คือ ความไม่เข้าใจในการแก้ปัญหาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ทั้งนี้อาจเป็น ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ รวมทั้งผู้ป่วยซึ่งเป็นผู้ชายส่วนมากจะอายไม่กล้าพบแพทย์ หรือแม้กระทั่งบอกให้คู่ครองทราบ จึงอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด และกลายเป็นปัญหาของครอบครัวในที่สุด
จากปัญหาดังกล่าว ศูนย์ข้อมูลสุขภาพเพศชายจึงได้รณรงค์ผ่านสื่อโฆษณาทางโทรทัศน์ เพื่อให้ ผู้ป่วย และคู่ครอง ได้ทราบว่าอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ เป็นโรคๆหนึ่งที่สามารถรักษาได้ เช่นเดียวกับโรคทั่วๆไป เพียงแต่ผู้ป่วยและคู่ครองมาขอรับคำปรึกษาจากแพทย์ทั้งในโรงพยาบาล และคลินิกทั่วไป
"ภาพยนตร์โฆษณารณรงค์เรื่องนี้ได้เริ่มออกอากาศแล้วเมื่อต้นเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา ทางสถานี โทรทัศน์ช่อง 3, 5, 7 และ ช่อง 9 หลังเวลา 22.00 น. โดยเนื้อหาของเรื่องเป็นการถ่ายทอดความรู้สึกของผู้ชาย และคู่ครองที่มีต่อกันในอดีตและปัจจุบัน และสิ่งที่ทำให้ทั้งคู่ต้องเหินห่างแม้จะอยู่ ใกล้กันก็ตาม หนังโฆษณาพยายามสื่อให้เห็นถึงปัญหาที่กำลังเผชิญหน้าอยู่ พร้อมกับเสนอแนวทางแก้ไขด้วยการกระตุ้นผู้มีปัญหาให้ตัดสินใจไปพบแพทย์ เพื่อหยุดยั้งความเข้าใจผิดที่อาจมีผลต่อชีวิตสมรสของสถาบันครอบครัว" พลตรี น.พ. ประวิชช์ กล่าว
นอกจากนั้น ศูนย์ข้อมูลสุขภาพเพศชายยังมุ่งหวังให้ผู้ป่วยมีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคต่างๆโดยเริ่มรณรงค์เรื่องโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการรักษาอย่างผิดวิธี ซึ่งการรักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศผ่านระบบทางการแพทย์ที่ถูกต้องจะช่วยลดปัญหา เช่นการมีความเชื่อที่ไม่ถูกต้องว่าอวัยวะของสัตว์บางชนิดรักษาโรคได้ รวมถึงการถูกหลอกลวงให้ใช้ยาปลอมที่แพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ เพราะนอกจากผู้ป่วยจะสูญเงินเปล่าแล้ว ยังไม่อาจจะรักษาโรคให้ดีขึ้นเลย
"ศูนย์ข้อมูลฯ หวังว่าหนังโฆษณาที่เผยแพร่อยู่ในขณะนี้จะทำให้ผู้ป่วย คู่ครอง และประชาชนทั่วไปมีความรู้ความเข้าใจที่ชัดเจนขึ้น เกี่ยวกับปัญหาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งก็เหมือนกับ โรคทั่วๆไป ทั้งนี้เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของตัวผู้ป่วยและครอบครัว" พลตรี น.พ. ประวิชช์ กล่าว
และเนื่องจากโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และความดันโลหิตสูง ผู้ป่วยจึงควรที่จะหาโอกาสมาตรวจร่างกาย เพราะไม่เพียงแต่จะได้รักษา โรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศเท่านั้น ยังจะได้รักษาโรคที่แฝงตัวอยู่เหล่านี้ ขณะเดียวกันผู้ที่เป็น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูง หากได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง ก็จะทำให้อาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศดีขึ้นไปด้วยเช่นกัน
สำหรับผู้ป่วยหรือผู้สนใจทั่วไปที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อขอรับเอกสาร หรือคำปรึกษาได้ฟรี ที่ศูนย์ข้อมูลสุขภาพเพศชาย โทรศัพท์ ฮอตไลน์ 635 1001 หรือตู้ ป.ณ. 2513 กรุงเทพฯ 10501 หรือ โทรสาร 656 8455 หรือเว็บไซต์ http://menhealth.pfizer.co.th โดยจดหมายหรือคำถาม ที่ส่งเข้ามา ศูนย์ข้อมูลฯจะเก็บไว้เป็นความลับ--จบ--
-ยก-