กรุงเทพฯ--15 มี.ค.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 15 มีนาคม 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,226.50-1,237.07 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,500 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 400 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,900 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ16 อยู่ที่ 20,670 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 360 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,030 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.43 น.ของวันที่ 15/03/16)
แนวโน้มวันที่ 16 มีนาคม 2559
ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ตรึงนโยบายการเงินตามคาดหลังการประชุม โดยบีโอเจยืนยันที่จะเพิ่มฐานเงินในอัตรา 80 ล้านล้านเยนต่อปี (7.00 แสนล้านดอลลาร์) และตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ -0.1% สำหรับเงินสำรองของสถาบันการเงินที่ฝากไว้กับบีโอเจ ซึ่งเป็นไปตามคาดการณ์ แต่ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ได้เปิดโอกาสว่าบีโอเจพร้อมที่จะผ่อนคลายนโยบายการเงินลงอีกหากจำเป็น ประเด็นดังกล่าวกระตุ้นแรงซื้อทองคำให้ฟื้นตัวขึ้นมาได้บ้าง เพราะการส่งสัญญาณของบีโอเจอาจกดดันคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ยากขึ้นหากธนาคารกลางอื่นๆมีโอกาสที่จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มในอนาคต ทั้งนี้นักลงทุนถึงจับตา เฟดที่จะเริ่มการประชุมในวันอังคารและวันพุธนี้ และนักลงทุนเชื่อมั่นมากขึ้นว่า เฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิม และอาจบ่งชี้อย่างชัดเจนว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคตหากเงินเฟ้อและการจ้างงานในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังในการสะสมทองคำเพิ่ม เนื่องจากกังวลว่าหากเฟดอาจส่งสัญญาณเชิงรุกเพื่อทำให้การตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยมีความเป็นไปได้ในการประชุมในเดือนเมษายน และ มิถุนายน ซึ่งอาจจะส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างมากซึ่งจะกดดันให้ราคาทองค่ำอ่อนตัวลงได้อีกครั้ง ทั้งนี้ก่อนทราบผลการประชุมยังคงมีแรงขายทำกำไรออกมาประกอบกับราคาทองคำอาจแกว่งตัวได้รับอิทธิพลจากปัจจัยทางเทคนิคเข้ามาชี้นำราคา ซึ่งหากราคาทองคำหากมีการเคลื่อนตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,237-1,249 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ยังไม่สามารถทะลุไปได้ ต้องระมัดระวังแรงกดดันเชิงเทคนิคซึ่งจะส่งผลให้เกิดการอ่อนตัวของราคาทองคำได้อีก สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในช่วงเวลานี้ต้องเน้นไปที่การเก็งกำไรระยะสั้น ในขณะที่หากต้องการเข้าซื้อทองคำให้รอจังหวะการอ่อนตัวลงมาบริเวณ 1,220-1,211 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่สำหรับนักลงทุนระยะยาวอาจรอดูการตั้งฐานของราคาพร้อมทั้งมีจุดตัดขาดทุนให้ชัดเจน
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำอาจกลับมาเคลื่อนไหวในกรอบและคาดว่าราคาทองคำเคลื่อนไหวในลักษณะของการสร้างฐานราคาให้มั่นคง โดยให้เน้นไปที่การเข้าลงทุนระยะสั้น ทั้งนี้สามารถเข้าซื้อบริเวณแนวรับที่ 1,220 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,211 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และเมื่อราคามีการปรับตัวสูงขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้างเพื่อลดความเสี่ยง แต่หากราคายืนเหนือแนวต้านได้มั่นคงสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อเพื่อทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,249 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามคาดการณ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,220 (20,260บาท) 1,211 (20,100บาท) 1,200 (19,920บาท)
แนวต้าน 1,237 (20,540บาท) 1,249 (20,740บาท) 1,261 (20,940บาท)
GOLD FUTURES (GFJ16)
แนวรับ 1,220 (20,430บาท) 1,211 (20,280บาท) 1,200 (20,100บาท)
แนวต้าน 1,237 (20,710บาท) 1,249 (20,910บาท) 1,261 (21,110บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999