สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 18 มีนาคม 2559 โดย YLG

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday March 18, 2016 17:30 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 มี.ค.--พีอาร์ดีดี สภาวะตลาดวันที่ 18 มีนาคม 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,253.43-1,266.51 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,750 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 100 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,850 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ16 อยู่ที่ 20,840 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 90 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,930 บาท (หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.38 น.ของวันที่ 18/03/16) แนวโน้มวันที่ 21 มีนาคม 2559 ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดรอบ 5 เดือนและมีแนวโน้มปิดตลาด สัปดาห์นี้ด้วยการดิ่งลง 1.5% จากสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นผลการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งในปีนี้ ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐดิ่งลง ซึ่งเพิ่มแรงซื้อเข้ามายังตลาดทองคำอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามราคาทองคำขยับขึ้นไปได้ไม่ไกล เพราะดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงยังคงคลายวิตกเกี่ยวกับเงินทุนไหลออกจากจีนและได้กระตุ้นแรงซื้อตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้น ขณะที่ราคาน้ำมันพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบปีนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากดอลลาร์อ่อนค่าลงเช่นกัน ซึ่งประเด็นดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนมีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยงจึงส่งผลเชิงลบต่อสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างเช่นทองคำอีกทาง ทั้งนี้ ราคาทองคำภายในประเทศขยับขึ้นในทิศทางที่น้อยกว่าทองคำต่างประเทศซึ่งเป็นผลจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากกระแสเงินทุนที่ไหลกลับเข้าตลาดหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยงของไทย เมื่ออัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกัน เมื่อธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ -0.1 % ขณะที่ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์(SNB) ยังคงดอกเบี้ยที่ระดับ -0.75% ตามเดิม และธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) ได้มีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.5% ต่อไป ทั้งนี้ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะประกาศอัตราดอกเบี้ยในช่วงบ่ายวันพุธที่ 23 มีนาคม 2559 โดยยังคงมีกระแสคาดว่า กนง.น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยซื้อ คืนพันธบัตร(อาร์/พี) ระยะ 1 วันไว้ที่ระดับ 1.5% เป็นครั้งที่ 7 ติดต่อกัน กระแสการคาดการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้ค่าเงินบาทต่อดอลลาร์ในช่วงที่ผ่านมาแข็งค่าสุดที่ 34.71 ซึ่งเป็นระดับแข็งค่าสุดในรอบเกือบ 8 เดือนนับตั้งแต่ กรกฎาคม 2015 ซึ่งส่งผลเชิงลบต่อทิศทางราคาทองคำต่างประเทศ จึงแนะนำว่า นักลงทุนสามารถหาจังหวะปิดสถานะซื้อทำกำไรหากราคาดีดตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้าน 1,127-1,130 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพราะอาจเกิดแรงขายทำกำไรราคาทองคำมีแนวโน้มจะอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับอีกครั้ง กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,271 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่ากลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อเพื่อทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,283 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากยืนเหนือแนวต้านไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายที่ออกมาอาจทำให้ราคาย่อตัวลงสู่แนวรับ สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,250-1,239 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคง ถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะสั้น แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,239 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์ และควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามคาดการณ์ ทองคำแท่ง (96.50%) แนวรับ 1,250 (20,610บาท) 1,239 (20,420บาท) 1,225 (20,190บาท) แนวต้าน 1,271 (20,950บาท) 1,283 (21,150บาท) 1,291 (21,290บาท) GOLD FUTURES (GFJ16) แนวรับ 1,250 (20,770บาท) 1,239 (20,580บาท) 1,225 (20,350บาท) แนวต้าน 1,271 (21,110บาท) 1,283 (21,310บาท) 1,291 (21,440บาท) หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ