“ดำรงศิลป์” ลุยส่งออก

ข่าวยานยนต์ Monday March 21, 2016 10:57 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 มี.ค.--ดำรงศิลป์ "ดำรงศิลป์" รุกตลาดส่งออก หลังตลาดเบาะรถโดยสารในประเทศซบเซา เดินหน้าเพิ่มจำนวนประเทศส่งออก พร้อมศึกษาตลาดเมียนมา เตรียมเปิดสำนักงานต่างแดนแห่งแรก คาดดำเนินการเสร็จสิ้นภายในปีนี้ ตั้งเป้าโต 10 % ดำรงศิลป์ กรุ๊ป ผู้ผลิตและจำหน่ายเบาะรถยนต์โดยสารครบวงจร ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้มีการคิดค้นนวัตกรรมเพื่อผลิตเบาะรถยนต์แบบใหม่ ให้ตอบโจทย์ลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ จากภาวะเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัวและผลกระทบจากสารการบินต้นทุนต่ำ ทำให้ต่อธุรกิจรถโดยสาร และเบาะรถโดยสารด้วย แผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้จึงขยายไปที่ตลาดส่งออกมาขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้ทิ้งตลาดในประเทศ สำหรับ ดำรงศิลป์ กรุ๊ป เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2544 มีทีตั้งอยู่ในจังหวัดสุพรรณบุรีดำรงศิลป์เริ่มทำธุรกิจผลิตเบาะที่นั่ง เพื่อรถยนต์โดยเริ่มจำหน่ายในตลาดในประเทศและได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีต่อมาดำรงศิลป์ได้ขยาย โดยเริ่มส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ เช่นกลุ่มประเทศแถบตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน และกลุ่มประเทศในตะวันออกกลาง ดำรงศิลป์ ได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆอย่างต่อเนื่อง โดยพัฒนาเบาะรถยนต์ ตั้งแต่ระดับ VIP ไปจนถึงระดับ พรีเมี่ยมโดยใช้รูปแบบเดียวกับเบาะที่นั่งรถโดยสารบนเครื่องบินมาเป็นต้นแบบ มีการใช้ระบบไฟฟ้ามาควบคุมการทำงานเพื่อความสะดวกสบาย และหลังจากที่ดำรงศิลป์ได้ประสบความสำเร็จกับตลาดรถโดยสาร ความ นิยมของรถตู้ระดับหรูหราเข้ามาในประเทศไทย ดำรงศิลป์ได้เป็นส่วนหนึ่งในการผลิตเบาะที่นั่งระดับ VIP ให้กับรถยนต์หรูอย่าง เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทำให้สร้างชื่อให้กับ ดำรงค์ศิลป์ เป็นอย่างมาก จนทำให้บริษัท OEM ให้ความสนใจและให้โอกาส ดำรงศิลป์ ในการผลิตเบาะที่นั่งโดยสารเข้าสู่โรงงานประกอบรถยนต์ของฮุนได ดำรง ภูอัครนันท์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ดำรงศิลป์ ซัพพลายส์ จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์ตลาดเบาะรถโดยสารในประเทศชะลอตัวเป็นอย่างมาก เนื่องจากคนหันไปใช้เครื่องบินแทนรถ ทำให้ความต้องการใช้ของรถโดยสารลดลง ส่งผลต่อตลาดเบาะและตลาดรถโดยสารในภาพรวม เพื่อรับมือกับเหตุการณ์ดังกล่าว ทางบริษัทจึงพุ่งเป้าไปที่การส่งออกมากขึ้น ปัจจุบันบริษัทได้ส่งออก 10 ประเทศ ส่วนมากอยู่ในกลุ่มอาเซียน ก็ต้องเพิ่มเป็น 20-30 ประเทศให้ได้ ซึ่งนับจากนี้ต้องศึกษาตลาดและเปิดสาขาในประเทศเพื่อนบ้าน โดยประเทศแรกคือ เมียนมา ซึ่งเบื้องต้นจะศึกษาตลาดก่อนว่าความต้องการมีมากแค่ไหน มากพอที่จะเปิดสาขาหรือไม่ ปัจจุบันได้ส่งออกไปเมียนมาอยู่แล้ว ซึ่งลูกค้าที่นั้น ก็บอกว่าถ้าเรามีสาขาก็จะทำให้เขามีความสะดวกมากขึ้น ขณะนี้อยู่ในช่วงของการศึกษาตลาดว่าคุ้มกับการลงทุนหรือไม่ ถ้าตัดสินใจที่จะไปขยายตลาดที่เมียนมาก็ต้องทำเป็นขั้นตอน เช่นระยะแรกจะนำสินค้าที่ผลิตในไทยแล้วนำไปจำหน่ายที่โน้น ถ้ามีตัวเลขมากขึ้นในอนาคตอาจจะเปิดโรงงานก็ได้ เมียนมาถือว่าเป็นตลาดที่น่าสนใจมาก มีความต้องการของสินค้าสูง ข้อได้เปรียบของเมียนมาคือมีทรัพยากรเป็นจำนวนมมาก รวมทั้งด้านแรงงานมีราคาถูก และด้วยสภาพภูมิศาสตร์ของเมียนมาที่อยู่ติดทางทะเลฝั่งตะวันตก มองว่าจะเป็นศูนย์กลางที่ดีในการกระจายสินค้าของบริษัทไปที่ประเทศอื่นๆ อย่างไรก็ตามในอนาคตถ้าทำยอดได้ตามเป้า ประเทศเมียนมาอาจจะเป็นโรงงานผลิตแห่ลงที่ 2 ของบริษัท เพื่อส่งออกไปหลายประเทศ ในส่วนของบริษัทแม่ที่อยู่ในไทย ก็อาจจะเป็นดูแลในเรื่องของการออกแบบ การพัฒนาสินค้า เป็นต้น "ตั้งใจว่าปีนี้จะศึกษาตลาดเมียนมาให้จบ โดยจะเปิดบริษัทอยู่ที่นั้นก่อน ระยะแรกดำเนินการในรูปแบบของการซื้อมาขายไป โดยมีออฟฟิศรับออเดอร์ เบื้องต้นอาจจะใช้งบประมาณ 5 ล้านบาท พยายามลงทุนให้น้อยที่สุด คาดว่าดำเนินการประมาณ 2 ปี ถ้ายอดขายดีแล้วจะสร้างโรงงานผลิตต่อไป" เกียรติศักดิ์ ภูอัครนันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดำรงศิลป์ พาร์ท ซีท เซ็นเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ใช้ฐานการผลิตคือ โรงงานที่บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เพื่อรองรับงานรับจ้างผลิตเบาะรถตลาดในประเทศทั้งหมด ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มรถตู้ รถบัส รถทัวร์แม้ว่าปัจจุบันนี้งานในประเทศจะชะลอตัวลงไปบ้างตามภาวะเศรษฐกิจ จึงต้องหาช่องทางกระตุ้นตลาด โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีความแตกต่างโดยเฉพาะการพัฒนานวัตกรรมสร้างความแตกต่างให้แก่ลูกค้า สำหรับตลาดภายในประเทศโดยรวมเริ่มชะลอตัวตั้งแต่ปี 2558 แต่ปีนี้เริ่มเห็นความชัดเจนมากขึ้น สาเหตุที่ธุรกิจเบาะรถยนต์เริ่มชะลอตัวเนื่องจากนโยบายทางด้านของส่งของกรมขนส่งทางบกไม่ชัดเจน ทำให้ภาคเอกชนไม่กล้าลงทุนเพิ่ม เช่น เรื่องของรถโดยสารสาธารณะ 2 ชั้น ที่ขณะนี้ยังคลุมเครือว่าจะสั่งยกเลิก หรือสามารถใช้ได้ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของสายการบินต้นทุนต่ำ ที่ทำให้ผู้โดยสารหันมาใช้บริการเครื่องบินมากขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อรถโดยสาร ดังนั้นบริษัทจึงวางแผนงานด้วยการรุกตลาดต่างประเทศมากขึ้นทั้งในกลุ่มอาเซียน อาทิ เมียนมา, กัมพูชา, ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย และประเทศในเอเชียใต้ เช่นอินเดีย ปากีสถาน บังคลาเทศ เป็นต้น สำหรับปีที่ผ่านมาสัดส่วนการผลิตเพื่อส่งออกมีจำนวน 70% แต่ในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมาเป็น 80% "กลุ่มลูกค้าในประเทศมี 2 ตลาด คือตลาดเอกชน และตลาดราชการ มีสัดส่วนร้อยละ 80/20 ที่ผ่านมาเรามีการผลิตเบาะให้กับรถทัวร์ค่ายใหญ่ๆ อาทิ นครชัยทัวร์ รวมไปถึงผลิตเพื่อป้อนให้กับรถตู้ ฮุนได เอช วัน ซึ่งเราเป็นโออีเอ็มให้ ขณะนี้กำลังยื่นเสนองานผลิตเบาะให้กับ ขสมก. จำนวน 490 คัน นอกจากนี้ ได้ศึกษาเรื่องตลาดเบาะเรือโดยสารเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้เริ่มมีลูกค้าเข้ามาแล้ว " คุณเกียรติศักดิ์ กล่าว สำหรับเป้าหมายผลการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้ คาดว่ากำไรจะเติบโต 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่มีกำไรประมาณ 50 ล้านบาท ขณะที่ยอดขายในปีที่ผ่านมาทำได้ 400 ล้านบาท
แท็ก ลุย  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ