กรุงเทพฯ--24 มี.ค.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 24 มีนาคม 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,213.00-1,223.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,400 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 150 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,550 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ16 อยู่ที่ 20,480 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 170 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,650 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.32 น.ของวันที่ 24/03/16)
แนวโน้มวันที่ 25 มีนาคม 2559
อังกฤษกำลังจะจัดการลงประชามติเรื่องสมาชิกภาพของอังกฤษในอียูในวันที่ 23 มิถุนายน หรือในอีก 3 เดือนข้างหน้า และโอกาสที่อังกฤษจะถอนตัวออกจากอียู หรือ "เบร็กซิท"มากขึ้นโดยผลโพลล์ระบุว่าโอกาสที่จะเกิดเบร็กซิทพุ่งขึ้นสู่ 36-38% ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา แสดงถึงสัดส่วนของชาวอังกฤษที่สนับสนุนให้อังกฤษยังคงเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ต่อไปปรับลดลงในระยะนี้ ประเด็นดังกล่าวกดดันสกุลเงินยูโรอ่อนค่าลง ในทิศทางเดียวกับสกุลเงินปอนด์ที่ร่วงลง แตะจุดต่ำสุดรอบ 1 สัปดาห์ ขณะที่เหตุโจมตีในกรุงบรัสเซลส์ช่วยสนับสนุนอังกฤษถอนตัวจากสหภาพยุโรปในการลงประชามติในเดือนมิถุนายนนี้ด้วย ประเด็นดังกล่าวเพิ่มแรงกดดันให้กับทิศทางราคาทองคำ ขณะที่ราคาอ่อนคำอ่อนตัวลงสร้างระดับต่ำสุดครั้งใหม่ต่ำกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้นหรือมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำเป็นลบมากขึ้น ทั้งนี้ราคาทองคำถูกกดดันเพิ่มเติมเมื่อ สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน หลังจากที่เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลายท่านได้พูดถึงโอกาสที่จะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนเมษายน ซึ่งอาจจะเพิ่มโอกาสให้เฟดสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้มากกว่า 2 ครั้ง ตามที่เคยส่งสัญญาณไว้ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามนักลงทุนจับตากระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้ายของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 4/2015 ในวันศุกร์นี้ เพื่อยืนยันความแข็งแกร่งของทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐ โดยนักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดว่า จีดีพีสหรัฐอาจขยายตัว 1.0% ในไตรมาส 4/2015 ไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขประมาณครั้งที่ผ่านมา ขณะที่ภาวะซื้อขายจะชะลอตัวลงในช่วงวันหยุดเทศกาลวันศุกร์ประเสริฐ ( Good Friday )จะเริ่มขึ้นในวันศุกร์นี้ ซึ่งราคาทองคำต่างประเทศอาจเคลื่อนไหวในกรอบที่จำกัด หากราคาทองคำพยายามขึ้นทดสอบแนวต้านแต่ยังไม่สามารถผ่านแนวต้านได้ ก็จะเห็นการย่อตัวของราคากลับลงมาบริเวณแนวรับเพื่อสะสมกำลังอีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่าหลังจากราคาอ่อนตัวลงอาจเกิดการดีดตัวขึ้นระยะสั้น หากราคาทองคำขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,225-1,233 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไร เนื่องจากเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายทำกำไรออกมา นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้าง สำหรับการทำกำไร ให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้แนะนำให้ถือต่อเพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้นจากการดีดตัวขึ้น ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,208 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับบริเวณ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,208 (20,200บาท) 1,200 (20,070บาท) 1,194 (19,970บาท)
แนวต้าน 1,225 (20,490บาท) 1,233 (20,620บาท) 1,242 (20,780บาท)
GOLD FUTURES (GFJ16)
แนวรับ 1,208 (20,330บาท) 1,200 (20,200บาท) 1,194 (20,100บาท)
แนวต้าน 1,225 (20,620บาท) 1,233 (20,750บาท) 1,242 (20,900บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999